Firefox 4.0 VS Webvisum
ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้อยู่ในใจ:
Firefox 4.0 ออกมาแล้ว น่าใช้ไหมนะ?
คำตอบจากที่ได้ลองใช้แล้วขอตอบอย่างมั่นใจว่า
ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง
แล้ว Extension เก่าๆ ที่เคยใช้อยู่บน Firefox 3.6xx ล่ะ มันจะใช้ได้เหมือนเดิมไหม โดยเฉพาะ Webvisum เนี่ย?
คำตอบก็คือ
ไม่ได้
แล้วถ้าอยากใช้ทั้ง Firefox 4.0 และ Webvisum สองอย่างเลย จะทำยังไงดีล่ะ?
คำตอบคือ
มีวิธีครับ ลองอ่านบทความต่อไปนี้ดูสิ ^_^
---------------
หลายคนที่ติดตามข่าวทางด้าน IT คงทราบกันแล้วว่า ณ ตอนนี้ เจ้าเบราว์เซอร์ตัวแรงอย่าง Mozilla Firefox 4.0 ได้ออกตัวเต็มมาให้เราใช้งานกันแล้ว หลังจากผ่านรุ่น Beta มาอย่างยาวนานถึง 10 กว่ารุ่น และยังผ่านรุ่น RC มาอีก 2 รุ่นกว่าจะยอมออกตัวเต็มมาให้เราคนทั่วๆ ไปได้ใช้งานกัน
สำหรับความแรงในการเปิดหน้าเว็บนั้นคงต้องพิสูจน์กันเองในความรู้สึกของแต่ละคน ว่ามัน"แร๊งงง" สะใจท่านหรือไม่ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว เริ่มจะคิดว่าจะตั้งเจ้า Firefox 4.0 นี้เป็นเบราว์เซอร์ตัวหลักดีมั๊ยนะ?
แน่นอนว่าเมื่อมีการปรับรุ่นครั้งใหญ่ คือเปลี่ยนเลขรุ่นตัวหน้า จาก 3.6xx มาเป็น 4.0 ในครั้งนี้ ปัญหาที่ตามมาอย่างหนึ่งก็คือความเข้ากันได้ของส่วนเสริม หรือที่ฝั่ง Firefox เราเรียกกันว่า Extension นี่เอง
เนื่องจากตัวโปรแกรมมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในค่อนข้างมาก จึงทำให้ตัวส่วนเสริมที่จะนำมาใช้งานด้วยกันนั้นก็ต้องมีการปรับปรุงตัวเองให้ทันสมัยตามตัวเบราว์เซอร์ไปด้วย หลายๆ คนเลยเจอปัญหาว่า ส่วนเสริมที่ใช้งานกันอยู่บน Firefox นั้น เมื่อทำการ upgrade มาเป็น Firefox 4.0 ตัวใหม่ล่าสุดกันแล้ว ดันมีปัญหาทำให้ส่วนเสริมที่เคยใช้งานได้ กลายเป็นใช้งานไม่ได้ (ซะอย่างงั้น) ..
โดยสำหรับคนทั่วๆ ไป จะมีปัญหากับส่วนเสริมตัวไหนกันบ้างก็คงแล้วแต่ใครจะเจอ แต่ณ จุดนี้ เรามาสนใจกับ extension ตัวที่สำคัญที่สุดของคนตาบอดเราดีกว่า... นั่นก็คือเจ้า Webvisum นี่เอง
แน่นอนว่า สำหรับบางคนการหันมาใช้ หรือแม้แต่มารู้จักเจ้าเบราว์เซอร์อย่าง Firefox ก็เพราะว่าจำเป็นต้องใช้ส่วนเสริมที่จะช่วยให้เราสามารถอ่าน captcha จากเว็บต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง อย่างเจ้า Webvisum ตัวนี้นี่แหละ แต่เมื่อเราอยากทันสมัย ทำการ upgrade Firefox ให้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว มันดันมีผลกระทบทำให้เราไม่สามารถใช้ส่วนเสริมตัวนี้ได้เหมือนเดิม แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ ต้อง downgrade กลับไปใช้ Firefox 3.6xx เหมือนเดิมใช่ไหม? คำตอบคือ ไม่จำเป็นเสียทีเดียว
ตอนแรกผู้เขียนเอง ก็ลุ้นอยู่ว่า เจ้า Webvisum มันจะใช้กับ Firefox 4.0 ได้ไหม และเมื่อทดสอบดูแล้วก็พบว่าไม่ได้ และทางเว็บของ Webvisum เองก็ประกาศหาอาสาสมัคร ให้มาช่วยกันพัฒนาตัว Webvisum ให้มันสามารถใช้กับ Firefox 4.0 อยู่ซะด้วยซ้ำ...
Update Webvisum อัพเดตให้สามารถใช้กับ Firefox รุ่นใหม่ๆ ได้แล้ว
“แล้วทีนี้จะทำไง(วะ) ครับ”
ความพยายามที่จะให้ตัว Firefox มันไม่ตรวจความเข้ากันได้ของส่วนเสริมกับตัวโปรแกรม ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก “.”
ถ้าอย่างนั้นก็คิดง่ายๆ ว่า งั้นอยากใช้ทั้ง Firefox 4.0 อยากใช้ทั้ง extension Webvisum ซึ่งใช้งานได้บน Firefox 3.6 เท่านั้น ก็หาวิธีที่ทำให้เราใช้เจ้า Firefox ทั้งสองเวอชั่นพร้อมกัน จะได้ไหมน้า?
และคำตอบก็ได้มาจากอากู๋ของเราอีกตามเคย...
ด้วยความที่มันเป็น opensource หรืออย่างไรไม่ทราบ คำตอบของการใช้และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของเบราว์เซอร์อย่าง Firefox จึงหาได้ไม่ยากนัก แม้จะเป็นความต้องการแปลกๆ อย่างการต้องการลงเบราว์เซอร์ 2 vertion พร้อมๆ กันก็มีให้เราด้วย!!! เกริ่นกันมายืดยาว เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
วิธีการลง Firefox 4.0 โดยไม่ต้องทับ 3.6xx
ก่อนอื่น คงต้องอธิบายเหตุผลว่าทำไมเราถึงสามารถจะลง Firefox 2 vertion พร้อมๆ กันได้เสียก่อน เพราะโดยปกติถ้าเราทำการ install Firefox 4.0 มันก็จะทำการ upgrade จาก 3.6xx ให้เราโดยอัตโนมัต แล้วมันจะทำอย่างไรให้มันไม่ไปทำการ upgrade จากตัวเก่า แล้วแถมยังลงตัวใหม่ให้ใช้งานพร้อมๆ กันได้อีกต่างหากล่ะ?
คำตอบคือ Firefox นั้นมีระบบ “Profile” ซึ่งการเปิดใช้งานแต่ละครั้ง ตัวโปรแกรมก็จะไปดึงค่าจาก Profile ขึ้นมาใช้งาน และสิ่งพิเศษของ Firefox นี้ก็คือ เราสามารถมีมากกว่า 1 Profile ได้ ดังนั้น เราจึงสามารถเปิด Firefox มากกว่า 1 vertion ได้
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ Profile กันอย่างคร่าวๆ ก่อนนิดนึงดีกว่า...
Profile ก็ทำหน้าที่เป็นส่วนที่ทำการเก็บการตั้งค่าต่างๆ ของการใช้เบราว์เซอร์ของเรานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น Extension, Bookmarks, setting ต่างๆ ก็จะถูกรวมอยู่ใน Profile ซึ่งในกรณีปกติที่เราลงโปรแกรมไป มันก็จะสร้าง Profile มาให้ไว้แล้วอันนึงโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเรากำลังใช้ Default Profile กันอยู่ แต่เมื่อเราต้องการเปิดมันมากกว่า 1 vertion นี่แหละ เราจึงต้องมารู้จัก และเข้าไปจัดการกับ Profile กันสักหน่อย
วิธีเข้าไปยังหน้า Profile Manager ของ Firefox
เท่าที่ผู้เขียนอ่านเจอมา (คือความจริงก็แค่จาก 2-3 web แค่นั้นล่ะ) มีวิธีง่ายๆที่จะเข้าไปยัง Profile Manager ของ Firefox อยู่วิธีนึง นั่นคือ การพิมพ์คำสั่งในช่อง Run
Start > Run และ copy คำสั่งในบรรทัดถัดไป และนำไปวางในช่อง Run แล้วกด enter "C:\Program Files\Mozilla Firefox\firefox.exe" -ProfileManager
เราก็จะเข้ามายังหน้า Profile Manager ถ้าคุณไม่ทำอะไรผิดพลาด...
จากนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือการสร้าง Profile ใหม่ขึ้นมาหนึ่งอัน แต่เดี๋ยวก่อน ผู้เขียนมีคำแนะนำให้นิดนึง คือการสร้าง Profile ใหม่ขึ้นมานั้น โปรแกรมต้องการที่อยู่ของมัน ซึ่งต่อไปเราต้องทำการ browse ไปยัง Folder นั้น และคงไม่ดีเท่าไหร่หากเรายังไม่ได้สร้าง Folder ใหม่ขึ้นมารองรับ ดังนั้นก่อนที่เราจะ Create new Profile เราควรเข้าไปสร้าง Folder ใหม่เตรียมไว้ก่อน โดยการใช้คำสั่ง Run อีกเหมือนเดิม
Start > Run และ copy คำสั่งในบรรทัดถัดไป และนำไปวางในช่อง Run แล้วกด enter %appdata%\Mozilla\Firefox\Profiles
เราจะเข้ามายัง Folder Profile ซึ่งเราจะเห็นว่ามันมีอยู่ 1 folder แล้วในนี้คือ folder pthsanhb.default นั่นเอง ขั้นถัดไปก็คือการ create new folder ขึ้นมาตรงนี้ โดยที่ผู้เขียนแนะนำว่าควรใช้ชื่อเดียวกับ Profile ที่เราจะสร้างขึ้นใหม่ในขั้นถัดไป โดยที่จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ ตามสะดวก เช่น ท่านกำลังจะลง Firefox ใน vertion 4.0 ก็ตั้งชื่อ folder ใหม่ว่า 4 ก็ได้ ง่ายๆ ไม่ต้องคิดไรมาก “”
พอสร้าง folder ใหม่เสร็จแล้ว ตรงจุดนี้ก็มีคำแนะนำอย่างนึงคือ จากที่ได้บอกไปแล้วด้านบนว่า Profile คืออะไร ก่อนที่จะปิดหน้าต่างนี้ออกไป หากท่านต้องการให้ program vertion ใหม่ที่กำลังจะลงไปนั้นมีการตั้งค่าที่เหมือนเดิม รวมทั้ง Bookmark และส่วนเสริมด้วยนั่นแหละ เหมือนเดิมกับบน Firefox ที่เคยใช้อยู่ (ถึงแม้ว่าส่วนเสริมบางตัวเมื่อใช้บน Firefox 4.0 แล้วมันจะใช้งานไม่ได้บ้างก็นั่นล่ะนะ) ก็ให้ทำการ copy ข้อมูลใน folder pthsanhb.default ไปใส่ไว้ใน folder ใหม่ที่พึ่งสร้างขึ้น แล้วพอท่านเปิด firefox 4.0 ที่พึ่งลงใหม่ปุ๊บ ก็จะรู้สึกราวกับว่ายังใช้ vertion 3.6xx อยู่เลย แต่ถ้าอยากเริ่มต้นการตั้งค่าใหม่ทั้งหมด ขั้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นแต่อย่างใด...
พอเสร็จจากการสร้าง folder ใหม่กันแล้ว ก็กลับมายังหน้าต่าง Profile Manager โดย
- กด tab เลื่อนไปหาปุ่ม “Create Profile” แล้วกด enter ลงไปเบาๆ หนึ่งที
- จากนั้นก็กด next (ที่คุ้นเคย)
- ทีนี้ก็จะมายังหน้าต่างที่ให้เราใส่ชื่อ เราก็พิมพ์ชื่อของ Profile ใหม่ที่เราจะสร้างลงไป
- ถัดจากนั้นพอ tab ไปนึงที ก็จะเจอกับปุ่มให้เรา Browse ที่เก็บ Profile ใหม่นี้ โดยที่พอกดเข้าไปก็จะเจอกับ folder Profile ก็กดลูกศรขวาเข้าไป และเลื่อนลงมาเมื่อได้ยินชื่อ folder ที่เราพึ่งสร้างใหม่ไว้ ก็เป็นอันใช้ได้ กด enter เบาๆ อีกหนึ่งที...
เพียงเท่านี้การสร้าง Profile ใหม่เพื่อเตรียมพร้อมให้สำหรับการลง Firefox 4.0 ก็เรียบร้อยแล้ว ทำการปิดหน้าต่าง Profile Manager ไปได้
เสร็จจากการสร้าง Profile ใหม่ก่อนจะถึงขั้นตอนการ Install program vertion ใหม่ลงไปก็มีคำแนะนำมาบอกกันอีกแล้ว คือเมื่อเราลงโปรแกรมไปนั้น ปกติโปรแกรมจะสร้าง Shortcut ไว้ให้เราบน Desktop โดยที่ปกติมันก็จะชื่อว่า Mozilla Firefox หากไม่ได้ไปเปลี่ยนมันอนะ.. และจุดนี้หากรีบร้อนไป ความง่ายก็อาจต้องยากขึ้นอีกขั้น โดยที่จุดนี้ผู้เขียนแนะนำว่าเราควรเปลี่ยนชื่อของ Shortcut อันเก่า ซึ่งต่อไปมันก็จะคือ shortcut สำหรับ Firefox 3.6xx ให้ต่างจากชื่อเดิมไว้ก่อนที่จะ install vertion ใหม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาสร้าง shortcut กันใหม่ เพราะเมื่อเรา install program vertion ใหม่ มันก็จะสร้าง shortcut ที่ชื่อเดียวกัน และมันก็จะมาทับของเก่า ทำให้หากเราต้องการใช้ firefox 3.6xx ตัวเดิมนั้น ก็ต้องมานั่งสร้าง shortcut กันใหม่ ดังนั้นเปลี่ยนชื่อมันไว้ซะก่อนเลย
ขั้นตอนถัดไปก็คือการ Install Firefox 4.0 โดยที่ขั้นตอนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากการ install vertion ปกติมากนัก จะมีแตกต่างกันอยู่สองที่คือ
- เมื่อเรามี Profile อยู่มากกว่า 1 ตอนที่เรา install โปรแกรมจะตรวจพบ และจะถามเราว่าต้องการเลือกให้โปรแกรมที่จะลงใหม่นี้ใช้ Profile ไหน แน่นอนว่า เราก็เลือกให้มันใช้ Profile ที่เราพึ่งสร้างใหม่ไปนั่นเอง
- หน้าต่างที่มีให้เลือกว่าเราจะ install แบบ Standdard หรือแบบ Custom นั้น ปกติเราก็จะเลือกลงแบบ standard กันเพื่อความรวดเร็ว แต่วิธีนี้เราจำเป็นจะต้องทำให้ folder ที่จะติดตั้งโปรแกรมไม่ไปทับกับของเก่า เราจึงต้องเลือกลงแบบ custom และเมื่อกด next ไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือ ใส่ชื่อของ folder ที่เราจะให้โปรแกรมติดตั้งต่อท้ายลงไปในช่องที่อยู่ของโปรแกรม ในที่นี้เราจะไปทำการสร้าง folder แล้วทำการ browse คล้ายๆ กับตอนที่เราสร้าง profile ใหม่ก็ได้ แค่ดูจะเสียเวลากว่า เพราะจุดนี้เพียงแค่ใส่ชื่อของ folder ที่เราต้องการลงไปหลัง \ ในช่องที่อยู่ของโปรแกรม มันก็จะทำการสร้าง folder ใหม่ให้เราโดยอัตโนมัตอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็กด next ไปเรื่อยๆ จน install เสร็จได้เลย
จากนั้นเราก็จะได้ shortcut Mozilla Firefox อันใหม่ขึ้นมา (หลังจากที่ของเก่าแนะนำให้เปลี่ยนชื่อไปแล้วนะ) และหากเราทำการ copy ค่าต่างๆ จากเวอชั่นเก่ามาแล้วตามขั้นตอนด้านบน โปรแกรมก็จะประมวลผลนิดหน่อย แล้วก็จะพบกับหน้าเริ่มต้นของโปรแกรมตามปกติ...
สุดท้าย เราจำเป็นที่จะต้องกำหนดว่าจะให้โปรแกรมเวอชั่นไหน load profile ใด โดยวิธีทำก็ไม่ยากมาก
- ไปที่ property ของ shortcut นั้นๆ โดยการคลิ๊กขวาแล้วเลือก property หรือใช้คำสั่ง alt+enter ที่ shortcut นั้นๆ
- ที่ช่อง target เราจะเห็นที่อยู่ของตัว firefox.exe ซึ่งให้เราเว้นวรรคหนึ่งช่อง แล้วพิมพ์ต่อท้ายว่า -p "ชื่อ profileที่ต้องการให้ shortcut ตัวนี้ load"
เพียงเท่านี้เราก็จะมี Firefox อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเราถึง 2 vertion!!! คือ
- Vertion 4.0 สำหรับความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไป
- Vertion 3.6xx เพื่อไว้ใช้ Webvisum ในเวลาที่ต้องการ
สรุป จบ.. (สักที)
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับคนที่อ่านมาจนจบ บทความนี้ยาวได้โล่กันเลยทีเดียว... อย่างไรก็ตามวิธีนี้มีข้อดีก็คือทำให้เราสามารถใช้เบราว์เซอร์เวอชั่นใหม่ๆ ที่ทันสมัยและรวดเร็วได้เหมือนกับคนอื่นๆ โดยที่เรายังสามารถกลับมาใช้เวอชั่นเก่า สำหรับกรณีที่ต้องการใช้งานส่วนเสริม Webvisum และเมื่อวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อ Webvisum ได้พัฒนาให้ใช้งานร่วมกับ Firefox 4.xx ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว Firefox 3.6xx ก็จะไม่จำเป็นต่อไป เราสามารถลบมันทิ้งไปเลยยย
credit
ขอได้รับคำขอบคุณ CVD international >_<
Credit: http://superuser.com/questions/160986/install-firefox-4-beta-alongside-firefox-3-6/ และถ้าไม่รู้จะหาโหลด Firefox 4.0 ได้จากไหนก็แนะนำเว็บนี้ Firefox 4.0