เปลี่ยนคอมในรอบ 9 ปี เหตุเพราะ Windows 10 หมดอายุ
ตั้งแต่มีคอมเป็นของตัวเองมาก็เกือบ 20 ปีแล้ว
โน้ตบุ๊กเครื่องล่าสุดของฉันคือ HP Pavilion Gaming Notebook - 15-ak007tx
ซึ่งกลายเป็นเครื่องที่อยู่กับฉันได้นานที่สุดในชีวิต — เกือบ 9 ปีเต็ม!
จริงๆ มันก็ยังใช้งานได้เหมือนเดิม เพราะตอนซื้อก็ตั้งใจว่า “เอาแรงไว้ก่อน ใช้ยาวๆ”
ด้วยสเปก i7-6700HQ นี่ถือว่าแรงมากในยุคนั้น และมันก็พาฉันมาถึงปี 2025 ได้อย่างไม่ขัดเขินเลยทีเดียว
แม้จะเปลี่ยนพัดลมกับแบตมาแล้ว (หลายรอบ) แต่เครื่องก็ยังดี ไม่มีอะไรพัง
ส่วนหนึ่งเพราะใช้มันแบบ desktop replacement คือวางไว้กับที่ ต่อจอ แป้น ลำโพง แยกหมด
เรียกว่าเปิดแทบ 24/7 ใช้งานโหดแต่ก็ไม่เคยงอแง
ทั้งที่สมัยก่อน HP เคยมีชื่อเสียงแย่จนเพื่อนหลายคนเข็ด แต่ของฉันกลับอยู่ดีมีสุขเฉยเลย 555
ตอนนั้นก็ไม่ได้หาข้อมูลมาก ตั้งงบไว้ก้อนหนึ่ง เดินคอมมาร์ตเทียบสองรุ่น แล้วกดตัวนี้เลย
เพราะมันเป็นเครื่องเปล่าเลยต้องซื้อ Windows เพิ่มเอง (ให้พนักงานร้านลงให้ในงาน)
อัป RAM กับ SSD เพิ่มอีกหน่อย สรุปรวมแล้วหมดไปเกือบ 40,000 บาท
ได้โน้ตบุ๊กแรงๆ ที่อยู่กับฉันจนถึงตอนนี้ — ยังไม่พัง แค่ถูกปลดประจำการเท่านั้นเอง
ทำไมต้องเปลี่ยนทั้งที่เครื่องยังดี?
ตามพาดหัวเลย — สาเหตุหลักคือ Windows หมดอายุการซัพพอร์ต
Windows แผ่นนี้เป็นของแท้ที่ซื้อเองครั้งแรกในชีวิต ก่อนหน้านี้ก็ยอมรับตรงๆ ว่าใช้เถื่อนมาตลอด (XP นี่แทบจะลองมาครบทุก Edition ฮา)
พอหมดระยะซัพพอร์ต ก็หมายความว่า “ไม่มีคนออกแพตช์อุดช่องโหว่อีกต่อไป”
ระบบปฏิบัติการที่เป็นหัวใจของคอมพ์เราก็จะเริ่มไม่ปลอดภัย
ถึงแม้จะมีข่าวต่ออายุในบางกรณี แต่เอาแค่ในภาพรวมก็พอ — หมายความว่ามันถึงเวลาเปลี่ยนจริงๆ
ยิ่งเครื่องเก่าดันอัปเป็น Windows 11 ไม่ได้ตามสเปกขั้นต่ำอีก
บวกกับอายุเครื่องที่แตะสิบปี ก็ต้องยอม “ปลดประจำการ”
ไม่ได้อยากหาเรื่องซื้อใหม่ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้จริงๆ 
เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่
คราวนี้ไม่ได้อยากได้โน้ตบุ๊กแล้ว เพราะแต่เดิมก็แทบไม่เคยใช้แบบพกพาเลย
แบตมีไว้กันไฟดับเฉยๆ ดังนั้นพอจะเปลี่ยนเครื่องใหม่เลยอยากลอง “รูปแบบอื่น” บ้าง
ทำไมถึงสนใจ Intel NUC
จริงๆ เคยรู้จัก NUC มาตั้งแต่รุ่นแรกๆ แล้ว แต่สมัยนั้น Intel ยังผูกขาด รุ่นมีน้อย แถมราคาสูง
พอมายุคนี้เริ่มมีหลายแบรนด์เข้ามาทำ ทำให้ราคาน่าสนใจขึ้นเยอะ
และมันก็เข้ากับวิธีใช้งานของฉันสุดๆ — วางไว้กับที่ ใช้พื้นที่นิดเดียว ไม่ต้องมีจอในตัว
เพราะอย่างที่บอกไป จอโน้ตบุ๊กเดิมก็แทบไม่เคยเปิดใช้เลย
MSI MINI PC CUBI NUC 1M-005TH
MSI MINI PC CUBI NUC 1M-005TH — ฿18,549.00
พระเอกของงานนี้ต้องยกให้รุ่นนี้เลย
เลือกเพราะ “ราคา + สเปก” ลงตัวที่สุดในช่วงนั้น กดจากร้าน official บน Lazada ตอนโปร 4.4
รอของไม่นาน ได้ของวันที่ 21 ตรงเป๊ะ
อีกเหตุผลคือช่วงนั้นมีข่าวเรื่องสงครามภาษี ก็เลยรีบกดก่อนราคาจะดีด
พอมาเช็กราคาย้อนหลังก็ใช่จริง หลายชิ้นแพงขึ้นหมด ถือว่าตัดสินใจถูกละ
รุ่นที่เลือกเป็นแบบมี SSD + RAM + Windows Pre-installed
ถึงจะมี RAM 8GB ที่สุดท้ายไม่ได้ใช้ แต่ก็ยังคุ้มกว่าไปซื้อ Windows แยก (แผ่นแท้ใบเดียวก็สามพันปลายๆ แล้ว)
SSD เดิมที่ติดมาก็เอาไปใส่กล่อง UGREEN ใช้เป็น external SSD ต่อได้อีก ไม่เสียของ
CPU เป็น Core 5 120U ซึ่งแรงพอๆ กับ Core 7 150U แต่กินไฟน้อยกว่า
และแรงกว่าตัว Core Ultra 5 125H ด้วยซ้ำ
พอเทียบแล้วคุ้มสุดจริงๆ ในช่วงนั้น ถึงไม่ได้สุดทางเรื่องแรง แต่ประหยัดไฟสุดใจ
เจอบั๊กตั้งแต่วันแรก
วางแผนไว้สวย แต่พอเปิดเครื่องครั้งแรก... keyboard ใช้ไม่ได้เฉย!
ตอนแรกก็งงมาก เพราะ sign in ผ่านแล้ว แต่พิมพ์อะไรไม่ได้เลย
อยู่คนเดียวอีกต่างหาก เลยต้องรอแม่กลับมาช่วยต่อจอ (ใช้ทีวีแทน) ถึงจะเห็นว่ามันเข้าหน้า desktop ปกติ
แต่ไม่มี input จาก keyboard เลย
สุดท้ายต้องใช้วิธี reset เครื่องใหม่ ซึ่งก็ไม่ง่ายเพราะพิมพ์ไม่ได้
แต่พอ reset ผ่าน image Windows 11 ทุกอย่างก็กลับมาใช้ได้ตามปกติ — จบแบบงงๆ
ปัญหา soundcard สุดงง
ใช้เครื่องได้ปกติ แต่สักพักก็เจอว่ามันมีจุดที่ไม่ปกติกับการใช้รูแจ็ค 3.5 ที่ติดมากับเครื่อง ปัญหาคือ ช่อง 3.5 ไม่มีเสียงออก!
ตอนแรกก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะปกติใช้ DAC ภายนอกอยู่แล้ว
แต่ด้วยความอยากรู้เลยโทรหา Call Center ของ MSI ดู
ช่างตอบดีมากนะ ให้เช็ก BIOS ว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุดไหม (ก็ใช่แล้ว)
สุดท้ายเลยสรุปว่าไม่น่าจะเป็น hardware
มารู้คำตอบภายหลังจากคลิปรีวิวของ AV Tech Guide
ว่า output 3.5 ของ DAC แบบที่เป็น combow jack คือต่อแจ็ค TRRS (หูฟังที่มีไมค์ในตัว) ได้ ถ้าไม่ได้เสียบแจ็ค มันจะ “ไม่ detect อุปกรณ์เลย”
ต้องไปขยับในหน้าตั้งค่าเสียงนิดหนึ่งให้มัน “ตื่น” ถึงจะทำงาน
สรุปคือไม่พัง แค่หลับลึกเกินไปเท่านั้นเอง
โทรหา Call Center รอบสอง
สาเหตุคราวนี้เกิดจาก “Windows optional update”
อัปเสร็จแล้วเครื่องค้าง ไม่ยอมบูต
นึกว่า BIOS พัง เพราะเห็นเลขเวอร์ชัน 8.3 (ก่อนหน้าเป็น 8.2)
เลยโทรถาม CC อีกที
เขาช่วยเช็กและบอกว่า BIOS รุ่นล่าสุดในเว็บยังไม่ใช่ 8.3
คาดว่าไม่ใช่ตัว BIOS เลยบอกให้ลองปิดเครื่องดู
ผลคือกดปิดได้เลย ไม่ต้อง force hold
เปิดใหม่... Windows กลับมาเฉย
หาสาเหตุไม่ได้แต่จบลงแบบโล่งอกไปอีกหนึ่งเคส
SSD: WD BLACK SN7100 - 2TB
WD BLACK SN7100 - 2TB — ฿4,169.74
เลือกเพราะราคาและประสิทธิภาพดีสุดตอนนั้น
ทดสอบแล้ววิ่งได้ตามสเปก แต่การใช้งานจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกต่างจาก SSD เดิมมากนัก (ถึงสเปกจะต่างกันเป็นสิบเท่าก็ตาม)
ตอนเปลี่ยนก็เพิ่งเห็นว่า ตัว SSD ลูกเดิมมี heat sync ติดมาให้อยู่แล้ว ก็ดีที่ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มอีก
เครื่องใหม่นี้ใส่ storage ได้ 3 ช่อง
- M.2 NVME 2280 (หลัก)
- M.2 2242 อีกช่อง
- SATA 2.5 อีกหนึ่ง
ตอนแรกเอา HDD 2.5 1TB ที่ติดมากับโน้ตบุ๊กเครื่องเก่ามาใส่ มันก็ใช้งานได้อยู่พักนึง แล้ววันนึงเกิดเจอว่าคอมบูธช้าผิดปกติ เช็กไปเช็กมา สาเหตุมาจาก HDD 2.5 นี่เริ่มมีอาการผิดปกติ โชคร้ายคือไม่คิดว่ามันจะเสีย ก็เลยยังไม่ได้ย้ายไฟล์อะไรเลย สุดท้ายย้ายไฟล์ออกมาได้ 1 drive ส่นอีก drive ก็คือย้ายปกติไม่ทันแล้ว ต้องใช้โปรแกรมกู้ข้อมูลมาจัดการ ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่าโปรแกรมกู้ข้อมูล ถึงเราจะโชคดีได้ข้อมูลกลับมาส่วนใหญ่ก็ตาม แต่โครงสร้าง folder และชื่อไฟล์ส่วนใหญ่ ก็จะได้เป็นชื่อแปลกๆ กลับมา เท่ากับตอนนี้ก็ยังมี folder recovery ที่กู้มาจาก drive นั้นกองๆ อยู่ ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยเลย >_<
สรุปตอนนี้เลยใช้ SSD หลักลูกเดียว แต่ความจุก็มากกว่าคอมเครื่องเดิมไปแล้ว
RAM: Corsair Vengeance 16GB × 2
CORSAIR VENGEANCE DDR5 (5200) 16GB × 2 — ฿2,749.72
อีกเหตุผลที่อยากเปลี่ยนเครื่อง เพราะเครื่องเก่าใส่RAM ได้สูงสุด 16GB
พอเห็น Task Manager วิ่ง 60% แล้วหงุดหงิดทุกที 555
เลยจัดเต็ม 32GB ไปเลย ของเดิม 8GB ที่แถมมาก็เก็บไว้เป็นอะไหล่สำรอง
เพิ่งรู้ตอนเปลี่ยนว่ามี thermal pad แปะมาด้วย
RAM ก็มีแผ่นระบายความร้อนเฉพาะด้วยเหรอเนี่ย
UGREEN SSD Enclosures
- UGREEN 10Gbps Dual Protocol M.2 NVME & SATA — ฿462.26
- UGREEN 20Gbps NVMe PCIe Premium Case — ฿677.77
รู้ว่าต้องถอด SSD เดิมออกมาใช้เป็น external อยู่แล้ว
เลยกดกล่องของ UGREEN มาใช้ดู ซึ่งก็โอเค วัสดุดี ราคาไม่แรง ใช้งานได้ตามสเปค
ตอนแรกกดตัว 10GBPS มาก่อน เพราะต้องใช้สำหรับการ clone SSD เพื่อย้ายมาใช้ลูกใหม่ พอตอนหลังเห็นตัว 20GBPS ราคาโอเค และสเปคก็เหมาะกับ M.2 NVME ที่ติดมากับตัว NUC มากกว่าด้วยเลยกดมาเพิ่ม
แถมได้ของฟรีคือหัวชาร์จ UGREEN Uno 65W RoboGaN มาด้วย
ของแถมแพงกว่าของที่ซื้ออีก คุ้มจัด
ซึ่ง enclosure สองรุ่น ก็ไม่ใ ช่ต่างกันแค่สเปค แต่หน้าตาและวัสดุก็ต่างกันด้วย ตัว 20GBPS วัสดุดูดีกว่าเยอะเลย และก็น่าจะระบายความร้อนได้ดีกว่าตัว 10GBPS
Power Bank และหัวชาร์จ
- Eloop E63 — ฿1,193.50
- Eloop E65 — ฿1,320.52
- Eloop S7 Cable — ฿95.55
- CUKTECH GaN3 AD1404U + ZTEC ZC621 — ฿1,329.79
- UGREEN Uno 65W RoboGaN Mini Robot Charger (ของแถมสุดคุ้ม)
ชีวิตนี้อยู่กับการชาร์จช้ามาตลอด
จนมาวันหนึ่งต้องมาหา power bank ที่ “จ่ายไฟได้หลัก 100W” เพื่อจะใช้แทน UPS สำหรับ NUC เครื่องนี้
ตอนแรกเล็ง Eloop E65 (40,000mAh) ไว้แต่ของหมด เลยกด E63 มาทดลองก่อน
ส่วนสาย S7 ร้านแนะนำว่าจ่ายไฟได้เต็ม 100W ก็เลยจัดมาด้วย
แผนคือจะใช้ power bank ต่อเข้าช่อง PD-in ของ NUC ให้มันทำงานเหมือน UPS
ตอนแรกดูเหมือนสำเร็จ เพราะถอดปลั๊ก DC ออกแล้วเครื่องยังทำงาน
แต่สุดท้ายเจอว่า PD-in มี priority สูงกว่า DC-in
แปลว่าถ้าเสียบพร้อมกัน มันจะกินไฟจาก power bank ก่อน สรุปแผนการใช้ power bank จ่ายไฟให้เครื่องก็สำเร็จ แต่การเสียบ power bank ทิ้งไว้เป็น UPS ให้เครื่องก็เลยยังใช้ไม่ได้... (ไม่แน่ใจว่าเราแก้ค่า priority ที่ว่านี่จากใน BIOS ได้ไหม)
Eloop E63 ใช้งานได้เกือบ 10 ชั่วโมง ส่วน E65 ยิ่งอึดกว่า
รวมสองก้อนก็ใช้คอมแบบไร้ปลั๊กได้เกิน 24 ชั่วโมง เยอะกว่าโน้ตบุ๊กอีก!
ก่อนหน้านี้เคยมี UPS สำหรับ router อยู่สองตัว
แต่ใช้ไม่กี่ปีก็เสีย แบตเปลี่ยนยาก แถมหนักและร้อน
เลยเลิกใช้ไปเลย หันมาพึ่ง power bank แทน
แถมยังใช้สายแปลงไฟ USB 5V → 12V ให้ router ได้อีก สบายใจสุดๆ
กล้องเว็บแคม: SIGNO E-Sport WB-401
SIGNO E-Sport 2K Quad HD Stream Webcam ZORRES รุ่น WB-401 — ฿364.16
ตอนแรกไม่คิดจะซื้อเลย เพราะกล้องโน้ตบุ๊กเก่าแทบไม่เคยเปิดใช้
แต่พอมาเจอยุค AI ที่มีแอปอย่าง Be My Eyes ซึ่งใช้กล้องช่วยให้คนตาบอด “มองเห็น” โลกได้
เลยคิดว่าเอาสักตัวก็ยังดี
ตัวนี้ราคาหลักร้อยแต่คุณภาพเกินคุ้ม ใช้กับ Be My Eyes ได้ดี
มุมกว้าง เสียงไมค์โอเค เอามาวางเป็นกล้องวงจรปิดชั่วคราวยังได้เลย
สรุปส่งท้าย
ทั้งหมดนี้รวมงบประมาณราว 30,000 บาท
ได้คอมเครื่องใหม่ที่เล็ก ประหยัดไฟ เงียบ ใช้งานได้ยืดหยุ่น
มี Bluetooth 5.3 ที่ใหม่กว่าเดิม
ได้พื้นที่โต๊ะคืนมาครึ่งชั้น
CPU ไม่แรงจัดแต่ไม่ร้อน
Storage ใส่ได้ 3 ช่องเหมือนเดิม
และที่สำคัญคือ ไม่ต้องกังวลเรื่อง Windows หมดอายุอีกต่อไป
เรียกได้ว่าเป็นการ “เปลี่ยนฟอร์มแฟกเตอร์” ที่คุ้มและถูกจริตที่สุดในรอบเกือบสิบปี
จากโน้ตบุ๊กที่อยู่กับฉันมานานเกือบสิบปี...
สู่ NUC ตัวจิ๋วที่พร้อมอยู่ต่อไปอีกยาวๆ