คนพิการที่ไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ และอยากจะได้เงินช่วยเหลือ 1,000 บาท จากรัฐบาล "ต้อง" ติดต่อไปลงทะเบียนกับ พม.

16 June 2020 virusfowl

โดยสรุป สำหรับคนที่ไม่อยากอ่านอะไรยาวๆ

คนพิการที่ไม่ได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการ ถ้าต้องการได้รับเงินช่วยเหลือในช่วงโควิดจากรัฐบาลจำนวน 1,000 บาท ต้องลงทะเบียนกับทาง พม. ไว้ โดยช่องทางที่ชัวร์ที่สุดก็คือโทรไปติดต่อที่ 02 354 3388 ต่อ 304 หรือ 307 และทาง พม. จะรวบรวมข้อมูลของกลุ่มนี้ (ใช้คำว่าเก็บตก) เพื่อโอนเงินช่วยเหลือให้ ราวๆ ปลายเดือนกรกฎาคม หรือหลังจากนั้น โดยอันนี้จะยังไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ที่จะจ่ายให้ 2,000 3,000 ตามที่มีข่าวออกมาแล้ว เนื่องจาก ณ ตอนนี้ ทาง ครม. ยังไม่ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ ของคนที่จะได้เงินส่วนนี้ด้วยเช่นกัน (ก็ลุ้นกันต่อไป)


งอเงินนั้นหายาก ต้องลำบากตามเรื่องไป ความหวังก็แสนไกล ไม่รู้วันไหนจะได้เงิน T_T

สำหรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ "ทุกคน" คนละ 1,000 บาท และได้โอนให้คนพิการที่ได้รับเบี้ยยังชีพไปแล้วในวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มที่มีประเด็นก็คือ กลุ่มคนพิการที่มีบัตรคนพิการ แต่ไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ (ด้วยเหตุใดก็ตาม)

โดยในเนื้อหาข่าวจากสำนักต่างๆ ระบุตรงกันว่า

คนพิการที่ไม่ได้รับเบี้ยความพิการ กว่า 60,000 คนทั่วประเทศ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด (พมจ.) จะโอนเงินเข้าบัญชีคนพิการโดยตรง หรือจ่ายเป็นเงินสดให้กับคนพิการ คาดว่าจะจ่ายแล้ว> เสร็จภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2563

  อ้างอิง:

จากข่าวที่อ้างอิง เราจะเห็นว่าเนื้อหาใช้คำว่า "ไม่ต้องลงทะเบียน" เหมือนกันหมด และส่วนของคนพิการที่ไม่ได้รับเบี้ยก็ใช้ข้อมูลตามที่ได้บอกไว้ข้างต้นเหมือนกันทุกเว็บ

มีเว็บเดียวที่อ้างอิงต่างจากคนอื่นนิดหน่อย

  1. กรณีที่คุณไม่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยความพิการมาก่อน ◾ ยังมีคนที่ไม่เคยรับเบี้ยความพิการกว่า 60,000 คนทั่วประเทศ และคุณก็เป็น 1 ในนั้น ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะจะมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเยี่ยมที่บ้าน และทำเรื่องจ่ายเงินโดยการโอนเงินหรือจ่ายสดให้คุณโดยเร็วที่สุด (คาดว่าจะภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2563)

keyword ที่ทำให้เกิดบล็อกนี้ก็มาจากสองคำนี้แหละ "ไม่ต้องลงทะเบียน" "ถ้าหากหลังวันที่ 15 มิย. ยังไม่ได้เงิน ให้ติดต่อ..."

ย้อนความหลังก่อนนิดนึง

ตอนแรกที่มีข่าวเงินช่วยเหลือส่วนนี้ออกมา ในรายละเอียดยังไม่ได้อ้างถึงกลุ่มคนพิการที่ไม่ได้รับเบี้ยมากนัก บอกเพียงแค่ว่าได้แหละ ให้ทุกคน และก็ไม่ได้บอกว่าต้องทำอย่างไร

เพราะถ้าเราคิดกันตามหลักทั่วไปแล้ว หากเราไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ ทาง พม. ก็น่าจะไม่สามารถจ่ายเงินให้เราได้ เพราะเขายังไม่มีข้อมูลธนาคารของเรา แต่... ถ้ามองในแง่ดี คิดว่ารัฐบาลยุคนี้เป็นรัฐบาล 4.0 ให้คะแนนความเชื่อมโยงสูงเสียหน่อย ทาง พม. ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าคนพิการกลุ่มที่ไม่ได้รับเบี้ย มีกี่คนที่ผูกบัญชีธนาคารไว้กับพร้อมเพย์ และก็จะสามารถตัดกลุ่มที่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพียงแค่กลุ่มที่เหลือเท่านั้น

โอเค อย่างไรเสียเราก็ไม่ได้หวังอะไรกับราชการ 4.0 ที่ยังต้องถ่ายเอกสารทุกสิ่งอย่างเวลาไปติดต่อ ทั้งที่กฎก็มีออกมาแล้ว แต่ก็อ้างว่า "ข้างบนยังไม่อนุมัติงบมาครับ" เท่าไหร่หรอก เพื่อความชัวร์ เราก็เลยโทรไปสอบถามเพิ่มเติมกับทาง 1300 ตามที่มีเบอร์ติดต่อไว้ให้จากในข่าวช่วงนั้น

คนพิการที่มีบัตรคนพิการ แต่ไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ นี่มันเข้าใจยากมากกกก

ปัญหาอย่างแรกเลยที่เจอ จากการคุยกับเจ้าหน้าที่ 3 คน ก็คือ "ยังไงนะคะ คือเป็นคนพิการ มีบัตรคนพิการ แต่ไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ"

ต้องทำความเข้าใจประเด็นนี้กันนานมาก คือคน 60,000 คนกลุ่มนี้ มันแปลกประหลาดมากเหรอ มันเข้าใจยากมากเหรอ ถึงจะแค่ 3% กว่าๆ ถ้าเทียบกับ 1.9 ล้านคน ที่เขารับเบี้ย แต่ยังไงอะ มันก็ไม่ได้ดูเข้าใจอะไรยากขนาดนั้นเสียหน่อยไหม /\/\

รอบแรกที่โทรไปคุยกับ 1300 เจอเจ้าหน้าที่อาจจะยังไม่ค่อยรู้งานเท่าไหร่ (แต่ก็ตั้งใจให้บริการ และหาคำตอบให้เรานะ ส่วนนี้ชื่นชม) คือถามคำนึง ก็พักสายไปทีนึง วนกันอยู่หลายรอบ กว่าจะได้ข้อสรุป ซึ่งข้อสรุปที่ได้ก็คือ คนกลุ่มนี้ต้องไปลงทะเบียนกับทาง พม. จังหวัดก่อนนะครับ (ตูว่าแล้วววว) ก็คือไม่ได้ผิดจากที่คาดไว้นัก โอเค ขอบคุณ

หลังจากนั้นเราก็เลยส่งตัวแทนให้ผู้ดูแลไปจัดการเดินเรื่อง ไปศาลากลางจังหวัด ที่มี พม. สถิตย์อยู่ แต่ก็ได้คำตอบว่าให้ไปกรอกเอกสารที่เทศบาล =_=

กลับมาที่เทศบาล (คนละวันกันแหละ) คำถามแรกที่เจ้าหน้าที่ถามก็คือ "ไปติดต่อที่ศาลากลางมาหรือยังครับ"

ถามจริง จะเอายังไงกับชีวิตคนพิการกันนักกันหนาวะครับ นี่คือเราให้ผู้ดูแลไปนะ ลองนึกถึงคนพิการที่เขาอาจจะต้องไปด้วยตัวเอง เจอสถานการณ์แบบนี้ มันใช่เรื่องสนุกไหม แต่สรุปแล้วเทศบาลก็เอาเอกสารมาให้กรอก ก็คือรับเรื่องไป (แต่รับเรื่องอะไรก็ไม่รู้นะ ไม่ใช่กลายเป็นส่งเอกสารขอเบี้ยคนพิการ ซึ่งเข้าใจว่าตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ช่วงเวลาไหม)

แล้วก็ปล่อยไป เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว จนมาตามข่าวของช่วงนี้ และเจอ keyword "หลังวันที่ 15 มิ.ย." นี่แหละ เลยนึกครึ้ม อยากลองตามเรื่องต่อดูอีกสักยก ว่ามันจะไปสุดที่ไหน Blum 3

ถ้าถึงวันนี้คุณเป็นคนพิการที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐเหมือนเรา

วันนี้ก็วันที่ 16 มิ.ย. แล้ว พ้นตามเงื่อนไขที่ พม. ระบุไว้แล้ว ว่าคนที่ควรได้เงิน ก็ควรได้แล้ว แต่เรา (ซึ่งไปลงทะเบียนไว้แล้วด้วย) ก็ยังไม่ได้อะไร ก็มาลองตามเรื่องกันหน่อยดีกว่า

โทรไปที่เบอร์ 02 354 3388 ต่อ 304 หรือ 307 ตามที่ทุกข่าวระบุไว้ตรงกัน (เออคราวนี้ไม่มี 1300 เลยสักที่นะ ก็ค่อนข้างน่าสงสัย)

ก่อนอื่นเราก็ต้องทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่รับสายกันก่อนว่า "คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ แต่ไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ" นี่มันคืออะไร T_T

จากนั้นพอไม่เข้าใจแล้ว (คือไม่เข้าใจจริงๆ นะ) เพราะต้องไปตามอีกคนนึงมาคุยแทน และพอคุณคนใหม่มาคุย ก็ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ แต่เหมือนแค่ยืนยัน เพราะดูเขาจะเป็นคนที่เข้าใจเคสที่สุดละ

คำถามแรกที่เขาถามคือ มีเจ้าหน้าที่ไปสอบถามที่บ้านหรือยังคะ คล้ายกับข้อความจากแหล่งข่าวแหล่งเดียวที่เรามาค้นเจอทีหลัง ที่บอกไว้ด้านบน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มี แล้วเขาก็ขอเลขบัตรประชาชนไปเช็กในระบบดู อันนี้ก็ค่อนข้างทำให้เราแปลกใจอยู่นิดๆ เพราะแอบหวังว่าจะเจออะไรที่แย่กว่านี้ คือเขาสามารถเช็กสถานะของเราในระบบให้ได้เลย ซึ่งฐานข้อมูลที่เขาเช็ก อ้างว่าเป็นระบบใหม่ที่เพิ่งทำขึ้นมาได้สักสองสัปดาห์นี้เอง และน่าจะทำมาเพื่อใช้กรณีเงินเยียวยาช่วงโควิดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นเหตุผลได้ว่า ทำไมที่เราโทรไปถาม 1300 ในครั้งแรก เขาถึงบอกให้เราไปติดต่อหน่วยงานวุ่นวาย แทนที่จะโทรมาที่เบอร์นี้โดยตรง และแค่แจ้งข้อมูลนิดหน่อย

ฐานข้อมูลนี้ค้นหาข้อมูลของผู้พิการที่ได้รับเบี้ยยังชีพได้ ก็แปลว่าถ้าใครที่ไม่ได้รับ เขาก็จะค้นข้อมูลอะไรไม่เจอ และเราก็อยู่ในกลุ่มนี้

โอเค คลายข้อกังวลของเราไปอย่างนึงได้ตรงที่ เราเป็นคนที่เลือกที่จะไม่รับเบี้ยคนพิการด้วยตัวเอง เพราะจากที่เคยจะขอแล้ว แต่ไม่ได้ด้วยสาเหตุว่าโควตาเต็มหรืออย่างไรสักอย่าง เราก็เลยมีความเข้าใจมาตลอดว่างบเบี้ยคนพิการนี่มันมีจำกัด ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ ดังนั้นถ้าเราไม่ได้ลำบากมากมายอะไร เราก็ให้โอกาสคนที่เขาลำบากมากกว่าเราก่อนดีกว่า ก็เลยเป็นฐานความคิดที่ทำให้ไม่ขอรับเบี้ยมาตั้งแต่ตอนนั้น

แต่ก็แอบตะหงิดๆ ว่า สมมติว่าเราไม่ได้ แต่มีคนอื่นสวมสิทธิ์แทนเราล่ะ เพราะเราก็ไม่สามารถเช็กได้ว่าจริงๆ แล้วเราได้เบี้ยไหม ก็เพิ่งจะมามั่นใจที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของ พม. วันนี้นี่แหละ อย่างน้อยข้อมูลในระบบก็ควรจะน่าเชื่อถือได้