ความคิดเห็นที่
36
นายทหารไชยยันต์ อนันตรัย ยังคงลากถุงขนาดใหญ่แกรกกราก
แกรกกรากไปเรื่อยๆตามทางเดินในอุทยาน
เขาก้มลงมองถุงที่ตัวเองลากมาพลางคิดในใจ
"นี่ตูลากถุงมาทำไมวะเนี่ย..."
ฉับพลันก็มีเสียงกุกกักดังแทรกเสียงลากถุงขึ้นมา
มันดังมาจากเบื้องหลัง
อดีตนายทหารปืนใหญ่หยุดลากถุงแล้วหันขวับไปมองทันที
...เงียบ...ไม่มีเสียงอะไรอย่างที่ได้ยินแต่แรกอีก
อุทยานรอบด้านก็ยังคงมืดสลัว มีเพียงแสงจากโคมไฟส่องเห็นกิ่งไม้รางๆโยกไปมาเพราะต้องลม
"หูฝาดไปซะแล้วเรา" เขาบ่นกับตัวเองแล้วลากถุงเดินดุ่มๆต่อ
เบื้องหลังเขาไม่ห่างนัก แสงโสมกับพลับพลึงกำลังย่องลัดเลาะตามมาเงียบๆ
อาศัยวิ่งหลบไปมาตามพุ่มไม้
"น้าแสงโสม เดินช้าๆค่ะ อย่าเข้าไปใกล้มากเดี๋ยวลุงไชยยันต์รู้ตัว"
เสียงสาวน้อยกระซิบเรียกเพราะรู้สึกว่าแสงโสมจะย่องตามหลังใกล้เกินไปโดยทิ้งระยะห่างเพียงไม่กี่สิบก้าว
เปลือกกล้วยเจ้ากรรมวางซุ่มอยู่ในกอหญ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้
แสงโสมโชคดีก้าวข้ามไปได้
ในขณะที่พลับพลึงไม่ใช่ เธอเหยียบลงไปเต็มเท้าอย่างถนัดหนี่ส่งผลให้เท้าหมุนฟรีไปกับพื้น
พลับพลึงใจหายวาบ พยายามซอยเท้าทรงตัวไม่ให้ลื่น
เสียงดังพรืดๆๆๆ
พลั่ก!...
ไชยยันต์หันขวับมาทันทีเพราะเสียงล้มไม่ใช่เบาๆ
เบื้องหลังว่างเปล่า นอกจากต้นไม้ใบหญ้าแล้วก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต...แล้วเสียงนั้นมาจากไหน
"เมี้ยว...ง้าว...แง้ว...ฟู่...แขวกๆๆ..."
เสียงแมวสองตัวตีกัน ไชยยันต์ถอนหายใจพลางส่ายหน้า
ที่แท้ก็แมวในวังนั่นเอง คงจะออกมาเดินเพ่นพ่าน
ขโมยอะไรกินกลางดึก เขาเลิกสนใจแล้วลากถุงตรงไปยังหน้าอุทยาน
สองสาวนั่งตะกุยหญ้าส่งเสียงแง้วๆอยู่หลังพุ่มไม้
โชคดีที่แสงโสมดึงตัวพลับพลึงที่ล้มเข้าไปหลบหลังพุ่มไม้
ได้ทันก่อนที่ไชยยันต์จะหันมาเห็น
"เป็นอะไรมากหรือเปล่าหนูพลับพลึง...เจ็บหรือปวดตรงไหนบอกน้าซิ"
"ปวดฟันละมั้งคะ...ง่า พูดเล่นน่ะค่ะ...ปวดก้นกบค่ะน้าแสงโสม
แหม...ใครก็ไม่รู้ขว้างเปลือกกล้วยมาด้าย
กลางอุทยาน"
แสงโสมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู
"เดินระวังหน่อยนะจ๊ะหนูพลับพลึง ไป เรารีบตามคุณไชยยันต์ไปดีกว่า...อ้าว..."
นางร้ายที่กลับกลายมาเป็นนางเอกอุทานเบาๆ เมื่อโผล่หน้าออกจากพุ่มไม้มาก็มองไม่เห็นนายทหารซะแล้ว
พลับพลึงรีบก้าวออกมากวาดสายตามองหาไปทั่ว
"เอ๊ะ...ลุงไชยยันต์หายไปไหนแล้ว เมื่อกี้เห็นเดินอยู่ตรงนั้นแหม็บๆ"
"นั่นสิ...หรือว่าเดินออกประตูอุทยานไปแล้วหนอ"
"งั้นเรารีบตามไปกันดีกว่าค่ะน้าแสงโสม...เร็ว
จะได้รู้กันซะทีว่าลุงไชยยันต์จะลากถุงไปไหนและลากไปทำไม"
พลับพลึงทำท่าจะออกวิ่ง แต่แสงโสมรีบดึงแขนไว้
"ช้าก่อนหนูพลับพลึง น้าว่ามีอะไรแปลกๆนะ...คุณไชยยันต์เค้าชอบเล่นทริกเสมอๆ
นี่คราวนี้ที่อยู่ดีๆเค้าหาย
ไปอย่างรวดเร็วนี่ น้าว่าเค้าต้องมีแผน เป็นต้นว่าซุ่มอยู่ด้านหลังพุ่มไม้ข้างหน้านั่น
พอเราเดินผ่านก็โดดออก
มาจ๊ะเอ๋เราแน่ๆ"
"อืมมม...อาจเป็นได้ค่ะน้าแสงโสม..."
ยังมิทันที่พลับพลึงจะพูดจบประโยค ไชยยันต์ก็โผล่พรวดออกมาจากด้านหลังพลางร้องแฮ่
พลับพลึงร้องกรี๊ดๆตามประสาเด็กขวัญอ่อน เธอวิ่งจะลุยเข้าพุ่มเล็บมือเสือเพราะตกใจ
โชคดีที่แสงโสม
มีสติมั่นคงกว่า คว้าร่างสาวน้อยเอาไว้ได้ทัน
"หนูพลับพลึงทำใจดีๆเอาไว้...ลุงไชยยันต์น่ะจ้ะ
ไม่ใช่ใคร"
ไชยยันต์หัวเราะหึๆ "อ้าว เป็นอะไรไปล่ะเจ๊พลับพลึง
หัวฟูเชียว งานเยอะเรอะ"
พลับพลึงรวบผมให้เข้าที่แล้วรีบโวยวาย
"แหม...ลุงไชยยันต์เล่นอะไรโตะใจโหมะเลย...แล้วอยู่ดีๆมาโผล่ข้างหลังเราได้ไงเนี่ย"
อดีตนายทหารปืนใหญ่ยิ้มเล็กน้อย
"ก็แล้วพวกเธอตามมาทำไมกันล่ะจ๊ะ แถมยังเล่นย่องตามกันมาเงียบๆ...ดีนะลุงจับไต๋ได้เพราะเมื่อกี้แมวร้อง
แง้วๆแถมมีไอค็อกแค็กด้วย ก็เลยย่องออกหลังพุ่มไม้อ้อมมาข้างหลังเนี่ยแหละ"
"ง่า...เปล่าหรอกค่ะคุณไชยยันต์...พวกเรามาเดินเล่นน่ะค่ะ
พอดีนึกสนุกขึ้นมาก็เลยร้องเหมียวๆกันเล่น"
แสงโสมแก้ตัวไปน้ำไม่ค่อยใสนัก
ไชยยันต์พยักหน้าหงึกๆเหมือนเชื่อ
"อือ...งั้นกลับไปนอนดีกว่านะครับ อย่าออกมาเดินเล่นตอนตีสองนี่เลย...อากาศเย็นมากเดี๋ยวจะเป็นหวัด"
"แล้วลุงไชยยันต์ล่ะ จะไปไหน" พลับพลึงถามเข้าประเด็น
คนถูกถามนิ่งไปครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า
"ลุงไม่ได้ไปไหนหรอก...พอดีข้างในห้องมันร้อน ดูเหมือนเจ้าแงซายมันจะแกล้งทำแอร์ห้องลุงเสีย
รพินทร์กับคะหยิ่นทนทุกสภาวะอยู่แล้วก็เลยหลับกันเฉย
ส่วนลุงไม่ไหวก็เลยออกมาเดินรับลมเล่น"
"แล้วถุงใบใหญ่นั่นล่ะคะ...ถุงอะไร"
พลับพลึงยังคงกัดไม่ปล่อย
ไชยยันต์หัวเราะเบาๆ "อ๋อ...ถุงขยะน่ะหนูพลับพลึง...พอดีลุงเห็นว่าจะออกมาหน้าอุทยานอยู่แล้วก็เลย
ลากเอามาทิ้งที่เตากำจัดขยะด้วย...สงสัยอะไรกันอีกมั้ยจ๊ะ"
พลับพลึงอึ้งไปเพราะไม่ทันเกม แต่แสงโสมยังทันอยู่
"แล้วเอาถุงไปทิ้งไว้ไหนแล้วคะคุณไชยยันต์...เตาขยะอยู่ซะโน่น"
ไชยยันต์หันมาทางอดีตนางร้ายที่ไม่ยอมทิ้งลาย
เขาอึกอักไปนิดนึงแล้วชี้ไปข้างหน้า
"ง่า...ผมรวบทิ้งไว้แถวโน้นแล้วครับ อย่าไปสนใจเลย
เดี๋ยวพรุ่งนี้นักการดูแลอุทยานคงจะมาเก็บไปทิ้งเอง
ไปครับ เรากลับไปที่พักกันเถอะ ดึกมากแล้ว"
"ไม่ค่ะ..." แสงโสมยืนยัน "แสงไม่กลับจนกว่าจะได้เห็นถุงใบนั้นชัดๆอีกครั้ง
ไหน คุณไชยยันต์ช่วยพาไปดู
หน่อยซีคะ"
"อ่า...คุณแสงจะดูไปทำไมครับ ถุงขยะน่ะครับ ไม่น่าดูสักนิดเลยนะ"
"ไม่สนค่ะ...ยังไงแสงจะต้องดูให้ได้...ไป หนูพลับพลึง
เราไปดูกันเถอะ"
แล้วแสงโสมก็คว้าแขนพลับพลึงพาวิ่งไปยังตำแหน่งที่คาดว่าไชยยันต์น่าจะทิ้งถุงไว้
ไชยยันต์รีบวิ่งตามไป
ถุงผ้าใบสีดำสนิทใบใหญ่วางกองอยู่หลังพุ่มไม้ ดูเหมือนจะบรรจุอะไรไว้ภายใน
"ไหนลองเปิดให้หนูพลับพลึงกับแสงดูเป็นขวัญตาหน่อยซีคะว่ามีขยะอะไรอยู่ข้างใน...
เร็วซีคะคุณไชยยันต์ อนันตรัย"
อดีตนางร้ายเล่นไม้เด็ดขาด ไชยยันต์อึ้งไป
แต่ก็แก้เชือกมัดปากถุงออก
เชือกที่มัดไว้หลายทบค่อยๆคลายออกทีละน้อย สองสาวใจเต้นตึกตัก
ต่างคาดเดากันไปต่างๆนาๆ
ว่าจะมีอะไรอยู่ข้างใน แสงโสมคิดว่าอาจจะเป็นสมบัติเพชรนิลจินดาที่นายทหารพยายามจะเอาไปซ่อน
แต่พลับพลึงคิดว่าอาจเป็นใครที่ไชยยันต์เขม่นตีหัวสลบแล้วใส่ถุงลากจะเอาไปทิ้งกองขยะ
เป็นต้นว่าลุงอนุชา
ปากถุงเปิดออกแล้ว สองสาวต่างรีบชะโงกหน้าเข้าไปดูจนศีรษะโขกกันคลำหัวกันป้อย
ท่ามกลางแสงจันทร์ข้างขึ้น...ภาพที่ปรากฏในถุงคือ...
ไม่มีอะไรแปลก ก็ขยะเราดีๆนี่เอง มีทั้งเศษก้างปลา
กระดูกหมู กระป๋อง แม้กระทั่งเปลือกทุเรียน
"พอใจหรือยังครับ...คุณแสงโสม" ไชยยันต์ถามเรียบๆ
สีหน้ามีรอยยิ้ม
แสงโสมกระพริบตาถี่ๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าไชยยันต์จะยอมลากขยะเอามาทิ้งจริงๆ
แต่สิ่งที่เห็นกับตานี้มันก็
ยืนยันอย่างนั้น
"เอ่อ...ค่ะๆ ตามสบาย...จะเอาไปทิ้งไหนก็เชิญ"
ไชยยันต์รีบรวบปากถุงมัด แต่แล้วแสงโสมก็คว้าข้อมือเขาไว้เหมือนหลอกแต๊ะอั๋ง
อดีตนายทหารปืนใหญ่เหลือบมองหน้าอดีตนางร้าย
นัยน์ตางามสะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายของเธอตอนนี้
กลับมีแววยิ้มเยาะเปิดเผย
"ช้าก่อน..." เธอร้องห้ามท่ามกลางความฉงนของพลับพลึงและไชยยันต์
พลับพลึงเอียงคอ
"น้าแสงโสมห้ามทำไมหรือคะ ก็ลุงไชยยันต์เค้าจะเอาขยะไปทิ้ง...หรือว่าน้าจะช่วยเค้าลากไปด้วยกัน
แหม...น่ารักกันซะไม่มีหละ ช่วยกันลากถุงขยะ"
แสงโสมยิ้มเล็กน้อย "คุณไชยยันต์ช่วยอะไรอีกสักอย่างได้มั้ยคะ"
ไชยยันต์ขมวดคิ้ว "อะไรหรือครับคุณแสง"
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง จ้องหน้าเขานิ่งก่อนจะเอ่ยช้าๆ
"ช่วยเทขยะออกจากถุงนี้ให้หมด"
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ
อดีตนายทหารปืนใหญ่เม้มปากแน่น ในขณะที่พลับพลึงสีหน้ามีแต่คำถาม
"น้าแสงโสมหมายความว่ายังไงคะ...จะให้เทขยะออกมาเนี่ยนะ
เดี๋ยวก็ส่งกลิ่นไปทั้งอุทยานหรอก
หรือว่าเครื่องประดับของน้าแสงโสมหลุดหายคะก็เลยจะมาค้นหาว่าหล่นอยู่ในกองขยะหรือเปล่า"
"เปล่าหรอกจ้ะหนูพลับพลึง เพียงแต่น้าต้องการจับผิดคนบางคน...ว่ายังไงคะคุณไชยยันต์
จะเทขยะออกมาได้หรือยัง"
ไชยยันต์อึ้งไปครู่หนึ่งก็ตีสีหน้ายิ้มๆเช่นเดิม
"แหม จะเททำไมเล่าครับคุณแสง...ขยะทั้งนั้นไม่น่าดูสักนิด
อนุชากินจนกระเพาะครากอาเจียนใส่ไว้ด้วยครับ
อย่าดูเลย"
"แต่แสงอยากจะดู...อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณชายอนุชากินอะไรเข้าไปบ้าง"
เธอยืนยันหนักแน่น ไชยยันต์ยืนนิ่งไปครู่หนึ่งก็พยักหน้า
"ได้ครับ...ว่าแต่ว่า ง่า...คุณแสงปล่อยมือผมก่อนสิครับ"
แสงโสมรู้สึกตัวก็รีบปล่อยแล้วค้อนอดีตนายทหารปืนใหญ่ก่อนหนึ่งทีแล้วหันไปตีแขนพลับพลึงที่ไม่เตือน
ไชยยันต์เปิดปากถุงออกแล้วยกก้นถุงเทสิ่งที่อยู่ภายในพรวดๆออกมากองบนพื้น
เศษขยะรวมทั้งสิ่งที่อนุชาสำรอกออกมากองอยู่เต็มพื้น...มีแต่ขยะล้วนๆ
แสงโสมนั่งลงสำรวจไปทั่วก็ไม่พบอะไรผิดสังเกต
เหลือบมองหน้าไชยยันต์ก็เห็นเขายังคงยิ้มๆ
"เป็นยังไงครับ รู้ยังว่าอนุชากินอะไรเข้าไปบ้างวันนี้"
เธอค้อนควับ ลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินกลับอย่างหงุดหงิดพลางกระชากแขนพลับพลึงตามไปด้วย
ฉับพลันก็แว่วเสียงดังคร้องแคร้งเหมือนวัสดุที่ทำจากโลหะหล่นกระทบพื้น
สองสาวหันมาดูก็เห็นอุปกรณ์อะไรบางอย่างหลุดร่วงลงมาจากก้นถุงใบนั้นที่ไชยยันต์พยายามบีบเอาไว้
ตอนเทขยะ แต่ว่าบัดนี้พลาดร่วงตามออกมาหมดท่ามกลางใบหน้าซีดของอดีตนายทหารปืนใหญ่
สองสาวตะลึงงันไปทันที
มันคืออุปกรณ์ขุดเจาะขนาดย่อมๆ ครบเซ็ตทุกอย่างถึงขนาดที่สามารถขุดเจาะถ้ำได้ด้วยคนเพียงคนเดียว
จากคุณ : ไชยยันต์ อนันตรัย
- [15 ก.ค. 00:45:01]