ความคิดเห็นที่
42
“
อย่าไปเสี่ยงยิงให้หวาดเสียวดีกว่าครับ
งูพวกนี้มันเก๋าเขี้ยวมาตั้งแต่เพชรพระอุมาต้นฉบับ ตอนภาคหนึ่งแล้ว
หากเรายกปืนขึ้นเล็งทำท่าจะยิงมันละก็
ต่อให้ทำเสียงเอะอะอึกทึก หรือพรวดพราดเข้าไปใกล้สักแค่ไหนมันจะไม่ผงกหัวขึ้นมาอีกเป็นอันขาด
นอกจากจะ ฉกผู้ที่มันคิดว่าเป็นเหยื่อเสียก่อน
ผมว่าเซรุ่มของป้าดาริน
หรือต่อให้ยาดูดพิษงูของ ตาคำก็ช่วยไม่ทันหรอก
จุ๊ๆ แหม งูเห่าเผือกเสียด้วยสิ
พิษคงจะแรงน่าดูชม ”
เสียงห้าวๆ
เสียงหนึ่งขัดจังหวะขึ้นมากระทันหัน
ทุกคนหันขวับไปเป็นตาเดียวที่เจ้าของเสียง ผู้โผล่พรวดออกมาจากเวิ้งถ้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ไชยยันต์ผู้นอนตัวแข็งไม่ยอมกระดุกกระดิก เพราะกลัวงูพอเห็นหน้าคนพูดเข้าชัดๆ
ก็ร้องขัดคอออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“ เจ้าไพรเอ๊ย
นี่ป๋านะลูกนะ ขอร้องล่ะ
ให้ลุงเชษฐาหรือลุงแงซายเขาจัดการดีกว่านะป๋าว่า.. ไอเดียของแกออกมาทีไรไม่ใครต่อใครเป็นต้องเจ็บตัวทู้กที
”
หนุ่มหล่อแบบธรรมชาติประจำคณะเดินทางทำหน้าย่น
“
โด่ ป๋า เงียบๆ เหอะ
ขืนโวยวายมากเด๋วผมปล่อยให้งูเห่ากินตับนา ..จาบอกให้
”
“ อย่าเพิ่งต่อปากต่อคำกันอยู่เลย หลานไพร
จะช่วยยังไงก็รีบๆ เข้าเถอะ ดูสิ
เจ้างูเห่า มันทำท่าจะฉกรพินทร์แล้วนั่นเห็นมั้ย
ว้ายๆๆๆ ”
มรว.
ดารินกรีดเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดเสียวเพราะเจ้างูเห่าตัวที่ขดอยู่บนหน้าอกของพรานใหญ่ รพินทร์ดันทะลึ่งชันคอขึ้นมาแล้วทำท่าเหมือนจะเจาะกระบาลพรานใหญ่เล่นๆ
แต่แล้วก็ไม่ฉก กลับลด ตัวลงนอนตามเดิม ไพรวัลย์
อนันตรัย
จ้องสายตาไปจับที่สาวน้อยพลับพลึงอย่างเป็นปริศนาเดาไม่ออก จนสาวเจ้ารู้สึกอึดอัด
“ นี่ๆ นายไพร
เธออย่ามาใช้สายตายังงี้กะชั้นนะ จะทำอะไรก็รีบๆ
ทำเข้า เวลาไม่คอยท่า..อุ๊บ
”
ประโยคสุดท้ายของเธอขาดหายไปในลำคอเพราะโดนป้าดารินแอบแหนบเข้าให้เสียเต็มแรง
เป็นการเตือนให้สงบปากสงบคำไม่ให้ไปต่อปากต่อคำอีก
ดีไม่ดีจะขาดทุนเข้าเนื้อ
ไพรวัลย์ ยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเอ่ยอย่างเนิบนาบ
“
ที่ผมมองคุณพลับพลึงเนี่ยก็เพราะมันจำเป็นเสียด้วย
หากจะใช้วิธีของผมละก็..
คุณนั่นแหละ ที่จะต้องเสียสละมากกว่าใคร ”
“
เอ๊ะ ! .. ยังไง ? ”
“ ตามผมมาที่ซอกหินนี้ดีกว่าครับ
เราจะต้องปรึกษากันโดยไม่ให้ลุงรพินทร์และคุณป๋ารู้ตัว ไม่งั้นจะเสียพิธี
”
ว่าแล้วเจ้าหนุ่มรูปหล่อก็เดินนำหน้าชาวคณะตรงไปที่โขดหินใกล้ๆ
ที่ลับมุมบังเหลี่ยมกับที่
ที่ ผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองนอนในท่าซอมบี้กันอยู่
เสียงไชยยันต์ตะโกนออมๆ
เสียงไล่หลังมาโหวกๆ เป็นทำนองว่าอย่าทิ้งทั้งสองไปให้นานนัก
ทว่ากลับไม่มีใครหันไปใส่ใจ
อึดใจต่อมา
ชาวคณะก็ได้รับรู้แผนการตามความคิดของไพรวัลย์ตลอด
และค่อนข้างจะคล้อยตาม ติดอยู่คนเดียวก็คือหนูพลับพลึงผู้ถูกขอร้องให้ร่วมมือตามแผนเท่านั้นที่ทำให้เชษฐาและดาริน วิตกกังวลเป็นห่วง
แต่ในที่สุดพลับพลึงก็ยืนยันว่าหากเป็นการช่วยเหลือรพินทร์และไชยยันต์ ให้รอดพ้นจากภยันตราย
เธอก็ยินดีที่จะเสียสละ
แต่ถึงอย่างไรดารินก็ยังมีข้อข้องใจอยู่ดี
“
เด๋วก่อนนะ หลานไพร
ป้าว่างานนี้ให้ป้าแทนตัวหนูพลับพลึงดีกว่าละมั้ง
ยังไงๆ ป้าก็.. ”
“ ไม่ดีหรอกครับ
ไพรวัลย์ส่ายศีรษะ ขอประทานโทษเถอะนะครับคุณป้า
เอ่อ.. หากให้ป้าไปแทนคุณพลับพลึงละก็
ผมว่าต้องกรอกไวอากร้าเข้าปากคุณป๋ากับ คุณลุงรพินทร์ก่อน
แผนของผมมันจึงจะเวิร์ค
อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะครับ กล่าวคือ..อนิจจัง
วัตสังขารา น่ะครับ คือ..
อย่าให้ผมต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกเลย
”
หม่อมราชวงศ์(อดีต)สาว(เคย)สวยค้อนขวับ
แล้วก็เลยนิ่งเงียบไปไม่กล่าวอะไรอีก
เชษฐาเรียกทุกคนเข้ามาซักซ้อมทำความเข้าใจอีกครั้ง
เพื่อที่เมื่อเวลาฉุกละหุก คับขันมาถึงจะได้ประสานงานกันทันท่วงทีหากแผนของไพรวัลย์เกิดพลาดขึ้นมา ความปลอดภัยของไชยยันต์
รพินทร์ ตลอดจนพลับพลึงต้องมาก่อนอื่นใดทั้งสิ้น
ในขณะที่พลับพลังและดารินแยกไปเตรียมตัวตามแผนอีกทาง
เมื่อสองสาวพร้อม
ดารินก็ผิวปากเป็นเสียงนกกิ้งโครงให้สัญญาณไพรวัลย์ในทันทีนั้น
!
ไพรวัลย์ อนันตรัย
โดดตุ้บไปยืนจังก้าอยู่หน้าสองผู้เคราะห์ร้าย
แล้วตบมือดังๆ เรียกความสนใจ
ไชยยันต์และรพินทร์เหล่ตามามองพร้อมกันราวกับนัด
ในขณะ ที่เจ้างูเห่าเผือกสองตัวนอนซบหัวนิ่งเฉยอย่างรู้เชิง
ไพรวัลย์ยิ้มหมายมั่นอย่าง สมคะเน
ชี้มือไปยังโขดหินที่ดารินและพลับพลึงซ่อนตัวอยู่แล้วตะโกนเสียงลั่น
“
ป๊ะป๋า ลุงรพินทร์ หันไปดูอะไรทางโน้นสิครับ
วู้ๆๆๆ ”
ทั้งสองค่อยๆ
หันศีรษะอย่างระมัดระวังไม่ให้เจ้างูเห่าที่ขดอยู่บนอกรู้สึกตัวไปยัง ทิศทางที่ไพรวัลย์ชี้บอก
ทันใดนั้น
ทั้งสองก็ตาเบิกโพลงอ้าปากค้าง..
(ดนตรีประกอบ..ของ
Britney Spears)
อู๊..เฮ้… เย
Hush, just stop
There’s nothing you can do or say, baby ……
I’ve
had enough I’m not your property as from today,
baby You might think that I won't make it - - on my
own
But now I’m… Stronger than yesterday Now it’s
nothing but my way My loneliness ain’t killing me no more
I’m stronger
คัมมอน
นาว..
ท่ามกลางสายตาที่เบิกถลนจนแทบประทุของสองเฒ่า
(หุ หุ) สาวน้อยพลับพลึง ในชุดเกาะอกสีจัดจ้าน
และกางเกงแบบฮอทแพนท์รัดรึงนั้นกำลังเต้นเข้าจังหวะ ยึกยักกับเก้าอี้สนาม
ชนิดที่ถอดแบบมาจากในมิวสิค คลิป เป๊ะๆ
ไชยยันต์สูดปาก เสียงดังลั่น
พอรู้สึกตัวก็รีบสูดน้ำลายที่ไหลออกมากลับคืน
ส่วนพรานใหญ่รพินทร์นั้น ท่องอาณาปาณสติ ยุบหนอ
พองหนอ เสียงดังขรม
แต่ไร้ผลโดยสิ้นเชิงเพราะ อานุภาพดึงดูดของความขาวสวยหมวยเอ๊าะนั้นเกินกำลังที่ทั้งสองจะต้านทานไหว สายตาทั้งคู่ของคนทั้งสองลุกโพลงจับจ้องไปยังภาพที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหน้าอย่าง ลืมตัวและลืมตาย..
ใดๆ ทั้งสิ้น
ทันใดนั้นเอง…
อ๊าาาา
ไชยยันต์และรพินทร์ส่งเสียงร้องครางโหยหวน
เพราะหัวงูที่ซุกซ่อนอยู่นั้น เผยตัวออกมาผงาดร่อนร่าบนศีรษะชนิดที่
ส.ว. เหลิม
ได้มาเห็นคงจะต้องเรียกพี่ เจ้างูเห่าที่ขดตัวอยู่บนอกของคนทั้งสองสะดุ้งเฮือกขยับตัวขึ้นมา
พอเห็นหัวงู ที่น่ากลัวกว่าบนศีรษะของสองเฒ่าจะๆ
ก็ร้องจ๊ากพากันเลื้อยพรวดพราดหนี กระเจิดกระเจิงเข้ารูเรี้ยวไปอย่างอับอายขายหน้า
ไชยยันต์และรพินทร์เผ่นพรวดพราดขึ้นมาได้อย่างโล่งอกต่อเหตุการณ์
พลับพลึง รีบวิ่งจู๊ดกลับเข้าซอกถ้ำไปพร้อมๆ
กับเสียงดนตรีที่จบลง ไพรวัลย์
อนันตรัย ยืนยิ้มกริ่มในปัญญาอันเฉียบแหลมของตนเอง
เชษฐาเดินทำสีหน้าปั้นยากออกมา จากซอกหินใกล้ๆ
เจ้าหนุ่มรูปหล่อหันไปยิ้มให้แล้วเอ่ยด้วยความปลาบปลื้ม
“
เห็นไหมครับคุณลุงเชษฐา
เจอแผนเรียกหัวงูออกมาสู้งูของผมเข้าทีเดียว
เจ้างูเห่า สองตัวนั่นเผ่นกระเจิดกระเจิงชนิดที่เราไม่ต้องเสียลูกปืนเลยสักนัด
”
“ มันก็ดีอยู่หรอก ว่าแต่ ..”
ท่านหัวหน้าคณะกล่าวขึ้นด้วยเสียงละห้อย
ทำเอาไพรวัลย์ นึกเอะใจ
และแล้วเขาก็ต้องอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก - -
เพราะบนศีรษะของทุกคนที่เดินหน้าละห้อยกันออกมาจากซอกหิน
ตั้งแต่ท่านหัวหน้าคณะเชษฐา ตาพรานเฒ่าบุญคำ
อดีตนายบ้านหล่มช้างคะหยิ่น และจอมพเนจรแงซาย
ต่างมีศีรษะอสรพิษผุดโผล่ ขึ้นมาแลบลิ้นแผล็บๆ
เหมือนกับของไชยยันต์ และรพินทร์
กันถ้วนหน้า..
จากคุณ : ไพรวัลย์ อนันตรัย - [8 ก.พ. 17:48:34]
| |
|