ความคิดเห็นที่ 13
โธ่ ผู้หญิงก็ยังงี้ทุกทีเลย
มาหลอกล่อ ป้อยอ พอรพินทร์ตั้งท่าจีบก็วิ่งหนีไป แงแงแงแง คุณชายขอยืมอกเป็นที่ซับน้ำตาหน่อย
เอ ไม่ได้เดี๋ยวชาวบ้านเขารู้ว่าเราเป็นอะไรกัน......
อันนี้เป็นเวอร์ชั่นของผมที่เข้าพันทิพไม่ได้เมื่อคืนครับ
“รพินทร์” เสียงนั้นดังก้องกังวาน สะท้อนสะท้านจับต้นชนปลายไม่ได้ว่ามาจากทิศใด
จอมพรานพยายามลืมตาขึ้นมอง แต่รู้สึกว่ามันช่างยากลำบากเหลือเกิน
“รพินทร์” เสียงเรียกซ้ำอีกครั้ง คราวนี้เริ่มจับหางเสียงได้ว่าเป็นเสนาะเพราะพริ้ง
รู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน
“คุณหญิง คุณหญิงใช่ไหมครับนี่ ผมได้เจอคุณหญิงของผมแล้ว”
ภาพข้างหน้ายังพร่ามัว แต่พอจับเค้าได้ว่าเป็นรูปร่างมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่ง
รพินทร์พยายามเปล่งเสียงให้ดังกว่านี้ แต่ไม่มีกำลังเพียงพอ มันจึงเป็นแค่เสียงกระซิบในลำคอ
“รพินทร์ รู้สึกตัวแล้วหรือ พยายามรวบรวมสติหน่อยนะ”
เสียงนั้นเอ่ยพร้อม ๆกับที่รพินทร์รู้สึกว่ามีวงแขนมาช้อนไหล่พยุงให้ลุกสะดวกขึ้น
เขาค่อยลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ นัยน์ตาเริ่มชินกับแสงสว่าง มองเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
“คุณหญิง นี่คุณหญิงจริง ๆด้วย ผมฝันไปหรือเปล่า”
รพินทร์โอบดารินไว้อย่างยินดี
“หรือว่าผมตายแล้ว แต่ทำไมได้พบกับคุณหญิงล่ะ ที่นี่เป็นแดนอะไรกันหนอ”
รพินทร์หันไปมองรอบข้าง พึ่งได้กลิ่นหอมหวนของดอกไม้มากระทบฆานะประสาท ที่เขานั่งอยู่แวดล้อมไว้ด้วยกำแพงสีเหลืองทองซ้อนกันเป็นชั้น
ๆ ดูจากสายตาแล้วทำจากวัสดุอ่อนนุ่มอะไรสักอย่าง แท่นที่เขานั่งมีริ้วขนประดับด้วยละอองทองที่เป็นที่มาของกลิ่นหอมชื่นใจ
“ดอกบัวนี่นา เราอยู่ในดอกบัว” พริบตาเขาก็ลุกขึ้นยืน
ทำให้เพ่งพิศเห็นรูปลักษณะของดอกบัวขนาดใหญ่ได้ชัดเจน มองเลยออกไปก็เป็นดอกบัวมากมายหลากสี
รวมทั้งใบเบียดซ้อนกันแน่นขนัดจนสุดสายตา รพินทร์ขมวดคิ้ว เขาไม่เคยเห็นภูมิประเทศเช่นนี้มาก่อนเลย
แต่รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด
ดารินที่อยู่ในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมองเขา “สวรรค์ของคู่รักไงคะ
เหมือนอย่างที่กามนิตกับวาสิษฐีได้พบกันหลังจากสิ้นลมปราณแล้ว”
“งั้นแปลว่าเราสองคนตายแล้วเหรอนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าตายแล้วจะได้เจอน้อยของผมแบบนี้
ไม่งั้นนอนให้ไอ้ไทรันมันเหยียบแบนแต๋ตายไปนานแล้ว” รพินทร์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“เราจะไม่พรากจากกันอีกแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ คุณยังไม่ตาย คุณแค่หมดสติไปชั่วครู่เท่านั้นเอง
มหาฤาษีโกณทัญญะได้ช่วยคุณออกมาในเวลาคับขัน น้อยขอท่านให้เราพบกันช่วงสั้น
ๆ เพื่อที่ว่าจะได้มีกำลังใจสู้ต่อไป เรายังไม่หมดกรรมหรอกค่ะ คุณต้องอยู่เป็นพระเอกทรมาน
ระทมรักไปจนถึงภาคสามล้านกว่า ๆ จนโลกและสุริยจักรวาลจะระเบิดออกและยุบเป็นหลุมดำแล้วนั่นแหละค่ะ”
น้อยถอนใจเบา น้ำตากลิ้งลงมาอาบแก้ม
“ขนาดนั้นเชียว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมชักนึกฉุนคุณหญิงมาไร
ๆไอ้เราก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าพ่อก็ไม่ฟัง ดันมาสาปบ้าบอ ดูซิต้องมาลำบากกันทั้งคู่
เดี๋ยวพัดซ้อมซะนี่ …” ยังไม่ทันขาดคำ รพินทร์ก็ร้องดังโอ้ก ล้มกลิ้งจมเกสรดอกบัวเพราะเข่าของดารินกระแทกเข้าที่ลิ้นปี่
“หนอยคิดจะซ้อมแม่เหรอ ยังไม่ทันเป็นเมีย คิดจะซ้อมเหรอ
เดี๋ยวก็ปล่อยให้มันตรัยมันเอาเลือดไปจนแห้งเสียหรอก….
รพินทร์หน้าเหยเก ลุกขึ้นอย่างลำบากยากเย็น บ่นอู้อี้ฟังไม่ถนัด
พอคุณหญิงเงื้อมือก็หลบวูบ วาบ “เอาน่าผมพูดเล่นน่ะ อูยไม่รู้ว่ารักกันถูกสาป
แล้วพอแต่งกันได้จะเหมือนถูกกว่าสาปกว่าหรือเปล่าไม่รู้ …..ว่าแต่ว่าเมื่อกี๊ผมยังนอนเลือดไหลโจ๊กออกจากคอ
โดยมีเจ้ามันตรัยเอากาละมังรองเลือดไปให้ยัยแม่มดอยู่นี่นา แล้วรอดมาได้ยังไง”
ดารินหัวเราะเสียงก้อง “ก็ไอ้มันตรัยมันเป็นผู้ร้ายเต็มตัวน่ะสิ
มันบอกว่าจะทรมานคุณค่อย ๆเชือดให้เลือดไหลจนตาย สงสัยที่นิทรานครไม่ค่อยมีหนังดู
มันถึงไม่รู้ว่าไอ้การทรมานให้พระเอกค่อย ๆตาย โดยเอาตีนเหยียบไว้แล้วแหงนหน้าหัวเราะเอาหัวเราะเอาเนี่ยทำให้ผู้ร้ายเสร็จฝ่ายพระเอกไปแล้วหลายราย…..”
“มันไม่ได้สังเกตุว่าน้อยแอบย่องไปข้างหลังแล้วเอาหลวงพ่อวัดปากน้ำคล้องตัวมันไว้
แล้วคุณชายอนุชาที่รอจังหวะอยู่แล้วก็แทงมันด้วยมีดลงอาคมทำด้วยโลหะที่นาซ่าได้มาจากดาวอังคาร
มันยังหัวเราะอยู่เลยตอนที่ร่างมันค่อย ๆสลายไปทีละน้อยทีละน้อย ป่านนี้ยังหัวเราะไม่หยุดเลยมั้งในนรกน่ะ
ตอนที่นายนิรยบาลเขามาเอาวิญญาณมันไป มันก็ยังนึกว่าเหยียบตัวรพินทร์อยู่เลย”
“เก่งจริง ๆ ยอดรักของผม มาชื่นใจหน่อยเร้ว” รพินทร์หอมแก้มเปล่งปลั่งนั้นสามสิบห้าหนซ้อน
ๆ “ชื่นใจแล้วไงต่อจ๊ะ”
“อ๋อ น้อยก็ใช้เลือดหมูที่เตรียมมาผสมกับดินถนำและของดำสิบเก้าอย่างส่งเข้าไปให้เจ้าซุปกับวาชิกาที่พึ่งจู๋จี๋กันเสร็จกิน
ของดำทำให้มนต์ยัยวาชิกาเสื่อม แถมทำให้โรคแพ้คริปโตไนท์ของเจ้าซุปกลับมาหนักกว่าเก่า
พอหมดอาคมยายมดก็ไม่สามารถความสาวอยู่ได้ หล่อนก็แก่ลงแก่ลงจนทนความแก่ตัวเองไม่ไหวตายไปเอง
ส่วนซุปเปอร์แมนพออาการกำเริบก็อยู่ไม่ไหวเหมือนกัน ตอนนี้ท้าวเวสสุวรรณก็เอาตัวสองคนไปอบรมใหม่ในนรกเสียแล้ว
เห็นล้อคคอวิญญาณกันไปยกใหญ่” ดารินเล่าด้วยอาการกระตือรือล้น
“งั้นเชียวเหรอ….” รพินทร์ก้มตัวลงนอน “เฮ้อ มานอนคุยกันตรงนี้กว่า”
“ไม่ได้แล้วค่ะ คุณต้องกลับคืนสู่ร่างเดิมเสียแล้ว
แล้วพบกันใหม่อีกโกฏล้านปีข้างหน้านะคะ”
“คุณหญิง อย่าพึ่งไป” รพินทร์ทะลึ่งตัวขึ้นคว้าร่างนั้นไว้
โอบไว้จนแน่น
“โอ๊ย ปล่อยซะทีซิโว้ย หายใจไม่ออก เดี๋ยวก็ฟ้าผ่าตายห่าหรอก…ไม่ปล่อยพ่อดีดจริง
ๆด้วย…” เสียงห้าวตะโกนโหวกเหวก..
รพินทร์ลืมตาขึ้นเห็นหน้าสาก ๆของชายคนหนึ่งในระยะประชิดมาก
เขาปล่อยมืออย่างกระทันหัน แล้วผลักออกไปสุดแรงเกิด ร่างนั้นคะมำไปข้างหน้า
รพินทร์เขม้นมองเห็นเป็นอนุชา
“คุณชายโอ้โฮดีใจชมัดเลยเนี่ย มาผมช่วยให้ลุกขึ้น
เรายังไม่ตาย….แฮะ…...”
.....หมดมุขแล้วครับเนี่ย ตอนนี้หลบเลียแผลใจก่อนดีกว่า
มีรักทั้งทีก็มีศัตรูหัวใจ มีร้ากทามมาย เมื่อใจไม่จริงใจกัน .......
จากคุณ : รพินทร์ ไพรวัลย์
- [25 ก.พ. 22:32:06]