หัวข้อ : เพชรพระอุมา ภาคอลเวง ตอนดินแดนอาถรรพณ์ และสยองขวัญสุดสุด
ความเดิมตอนที่แล้ว
รพินทร์ ไพรวัลย์ยังคงเป็นพระเอกที่ยังไม่มีใครมาเทียบได้
แม้ว่าแก๊งค์สองเคจะขึ้นมาทาบรัศมีก็ตาม
ส่วนตัวละครอื่น ๆนั้นหากว่าอยากรู้เรื่องกลับไปอ่านกระทู้เก่านะครับ
(ฮี่ฮี่ ความจริงครือผมจำไม่ได้ง่ะ มันแตกกันไปหลายทางเกินไปอ่ะ)

ลุยโลด สหาย

จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 16/05/2002 14:34

รพินทร์ ไปทเวนตี้ผับแล้วเจอ.........

จาก : ชาย - 16/05/2002 21:49

รพิ้นน...ทร์ ตัวนี่นะ....ใจร้ายจริงๆ...จำเค้าก็ไม่ได้รึไงทำไมไม่เอ่ยชื่อเค้าเลยล่ะ แต่ดันเอ่ยชื่อเจ้าพวก2k ...หึ งอนแล้วด้วย ตัวไม่รักเค้าแล้วเหรอ กลัวว่าเค้าจะแย่งตำแหน่งพระเอกรึไง ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะเค้าอยากเป็นนางเอกมากก่า.......

จาก : แงซาย *.* - 17/05/2002 07:22

ง่า…เอ่อ…อ่า..งง มึนตึ้บ…."คุณแงซาย *.* " ข้างบนนี้คือใครกันหนอ
แหะๆ ดิฉันมั่นใจว่าคงไม่ใช่คุณแงซายคนที่เล่นกับเราอยู่ประจำแน่ ๆ
ช่วยบอกนิดนึงได้มั๊ยคะว่าเป็นใคร??
ยินดีต้อนรับเข้ามาเล่นด้วยกันค่ะ
แต่อยากจะเรียนให้ทราบก่อนว่าปกติเรามีคนเล่นที่ใช้ชื่อนี้อยู่แล้ว
ถ้าคุณ..ขอเรียกว่าคุณ *.* แล้วกันนะคะ ถ้าอยากจะเล่นด้วย ก็ขอให้
เลือกเป็นตัวละครใหม่ ๆ ที่ไม่มีคนใช้ชื่อเล่นประจำอยู่ก่อน เพื่อจะได้ไม่สับสนกับคนเดิมที่เล่นอยู่น่ะค่ะ
และอีกประการ ก็เผื่อไว้ในกรณีที่คุณไปยำคนอื่นเค้าไว้ เค้าจะได้มีโอกาสยำคืนบ้าง
ถ้าคุณไม่มีตัวตน หรือใช้ชื่อคนอื่นมาเล่น
จะทำให้เจ้าตัวที่กำลังเล่นอยู่ในปัจจุบันเค้าโดนยำอยู่ฝ่ายเดียว..ไม่ยุติธรรมค่ะ
ยังไงก็ตาม ยินดีต้อนรับนะคะ ^_^

จาก : แสงโสม - 17/05/2002 08:42

แวะมาอ่านอีกแล้ว แต่ยังไม่ต่อ
ใครจะทำไม :P

จาก : แม่มดพันปี - 17/05/2002 09:39

เมื่อไหร่จะต่อกันซักที รอจนเมื่อยคอยาวแล้วนะจ้ะ

จาก : เบล - 17/05/2002 13:36

กลับมาแล้วจ้า... ^_^
แหม่.. สถานการณ์คับขันจิงๆ ดีที่แม่มดพันปีมาแก้ไขไว้ได้ทัน (ด้วยมะเหงกเนี่ยนะ...)
ว่าแล้วก็อู้ต่อ

จาก : คริสติน่า กรูบิล - 17/05/2002 18:22

ขณะที่แงซายกำลังร่ายมนตราภาษากุโบ๊ธอัญเชิญศิวะเทพอยู่นั้น รพินทร์ก็นอนเอกเขนกอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ กินทุเรียนหมอนทองที่แงซายเอามาฝากอย่างเพลิดเพลินและเอร็ดอร่อย ส่วนพวกแม่หญิงทั้งหลายก็พากันช่วยพัดวีไฟให้ลุกโชติช่วงกันเป็นโกลาหล

อัคคีลุกแลบเลียเผาไหม้ไม้เปลือกทุเรียนแลเห็นเป็นไฟสีน้ำเงินเปลวทองงดงาม เสียงสาธยายมนตรานุ่มทุ้มลึกปนลูกคอแบบไมค์ ภิรมย์พรเล็กน้อยก่อให้เกิดเป็นบรรยากาศขรึมขลังขึ้นมาทันที เสียงสัตว์ที่กำลังเชียร์ เสียงครวญครางด้วยหฤหรรษ์ของการ"ปั่นหู"ระหว่างบุญคำกับเคอเนลคีธดูเหมือนจะห่างไกลออกไป โลกในส่วนนี้เงียบสงัด นิ่งงันและรอคอย

รพินทร์เอื้อมมือหยิบพูทุเรียนเหลืองอร่ามชิ้นต่อไปและกำลังจะส่งเข้าปาก ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกัมปนาทปานฟ้าผ่า แผ่นดินแคลนคลอนไหวสะท้าน พูทุเรียนที่เหลืองพลิกกลิ้งตกต้องดินเปื้อนฝุ่นหมองคล้ำ จอมพรานมองพลางนึกเสียดายในใจ เขาเช็ดมือที่เปื้อนคราบทุเรียนกับพื้นหญ้า เอื้อมไปหยิบปืนคู่ชีพมากระชับไว้ในมือ พลางมองหาเหตุแห่งปรากฏการณ์ครั้งนี้

กลุ่มแม่หญิงร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้ สองสามคนถือโอกาสกอดเอวแงซายที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นสัมฤทธิ์เอาไว้แน่น หรือหากพูดในเชิงวิชาการจะสามารถใช้ศัพท์เทคนิคได้ว่า แต๊ะอั๋งเอากำไรแงซายไว้ก่อน ร้อนถึงเมยานีต้องมาแกะมือออกไปด้วยความหึงหวง และค้อนควักผลักไสกันเป็นพัลวัน

เสียงโผงผางไม้หักไล่มาแต่ไกล ฝุ่นคลุ้งตรลบเป็นแผ่นผืนก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หมู่สิงสาราสัตว์ทั้งหลายต่างพากันตัวสั่นระริก ยอบตัวหมอบคุดคู้ นิ่งเงียบงันเหมือนรู้ว่ากำลังเผชิญกับอะไร มีเพียงแต่แก๊งค์สองเคเท่านั้นที่ก้มหน้าก้มตาปั่นกันอย่างถึงพริกถึงขิง

เหงื่อเม็ดโป้งไหลซึมออกมาจากหน้าผากของแงซาย แต่ตายังคงหลับและปากก็ยังสาธยายมนต์อัญเชิญพระศิวะอย่างไม่หยุดหย่อน
เสียงไม้หักโผงเข้ามาใกล้ ทุกคนเริ่มกระสากลิ่นอันตรายอย่างรุนแรงจากอำนาจอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง

"ตัวอะไรนั่นน่ะ" คุณหญิงดารินคราวในลำคอ เมื่อเห็นร่างกายใหญ่โตราวกับตึกยี่สิบชั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ และมายืนจังก้าเหนือที่ทำพิธี

รพินทร์เขม้นมองเห็นเป็นร่างมนุษย์เพศหญิงยักษ์กำยำใหญ่ ดำมืดมะเมื่อมไปทั่วตัว ใบหน้าขมึงทึงดุดัน ลิ้นแดงฉานแลบเลียริมฝีปากที่มีเขี้ยวแหลมยื่นยาวออกมา ตาโปนโตถลึงจ้องคณะพรรคอย่างโกรธแค้น

ร่างนั้นเกือบเปลือยมีเพียงผ้าขาดเคียนเอวปกปิดส่วนกลางของร่างกายเอาไว้ สองเต้าปล่อยเท้งเต้งตามยถากรรม ส่วนที่สยองที่สุดก็คือสิ่งที่คล้ายกับพวงมาลัยที่สวมอยู่เหนือเต้า ที่จริงแล้วมันคือหัวมนุษย์สิบกว่าหัวร้อยติดกัน ทุกหัวลิ้นจุกปากตาเหลือกลานตายอย่างทรมาน ที่งอกมาจากหัวไหล่คือแขนทรงพลังสี่ข้าง ที่ต่างก็กระชับดาบหัวตัดหนาหนักไว้มั่นคง

"ทุรคาเทวี" รพินทร์ครางในลำคอ...

ลำคออวบหนาเหมือนของวัวสักห้าสิบตัวรวมกัน มีคราบไคลจับเขลอะ นั้นได้เปล่งเสียงหัวเราะดังก้อง "รพินทร์ เจ้ารู้ว่าเราเป็นใคร ก็คงรู้สินะว่าเราทำอะไรได้บ้าง..."

"พวกเจ้าบุกรุกถิ่นของเรา แถมยังบังอาจเชิญพระสวามีเรามาถอนคำสาปในถิ่นนี้ เจ้ามดน้อยไม่รู้จักเจียมตนเสียบ้างเลย..."ทุรคาเทวีหรือภาคอันดุร้ายของพระอุมาเทวีพูดอย่างเกรี้ยวกราด "วันนี้ข้าจะขยี้เจ้าเสียให้สิ้นไป เหลือชีวิตไว้แต่เพียงแก๊งค์สองเคเท่านั้น เพราะมันให้ความบันเทิงแก่ข้าดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" เสียงหัวเราะกระหึ่มก้องไปทั่วทั้งป่า ใบไม้ไหวไกวโอนเอนเพราะแรงเสียงสะท้อน

พลับพลึงน้อยสะกิดแม่มดพันปีแล้วถามเบา ๆว่า "ยายคนนั้นเขาเป็นใครคะ ทำไมน่าเกลียดจัง"

เมยานีรีบตะครุบปิดปากพลับพลึงไว้ทันที แม่มดพันปียิ้มแหย ๆกระซิบอธิบาย "พระอุมาเทวีไงเล่า ท่านคงพิโรธที่เราจะไปเชิญพระศิวะมาล้างคำสาปก็เลยแผลงฤทธิ์มาในภาคเจ้าแม่กาลีน่ะซิ"

ทุรคาเทวีหันขวับมาทางต้นเสียง นางถลึงตาอ้าปากพ่นอัคนีร้อนแรงออกมาเป็นลำหมายแผดเผากลุ่มแม่หญิงให้เป็นจุณไป ดารินตะโกนบอกทุกคนให้หลบพร้อมทั้งกระชากแสงโสมอย่างแรงให้พ้นจากกลุ่มไฟที่พุ่งเข้ามา.......






จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 17/05/2002 18:52

อ้าว ไหงมาเล่นกันเองแบบนี้ล่ะ
ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวต้องมาต่อ

จาก : แม่มดพันปี - 17/05/2002 19:37


ขอจับมือหน่อยผู้กอง .. อย่างนี้สิถึงจะเป็นพระเอก ฮี่..ฮี่..

จาก : สุดหล่อ 2 K แบตเตอรี่ - 17/05/2002 21:28

กรี๊ดดด.....อีตารพินทร์เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย....น่าเกลียดที่สุดเลย>.<
ปล.คุณโสมคะ......*.*

จาก : อุมาเทV - 17/05/2002 23:57

ประกาศ... เอ่อ ความคิดเห็นที่ 3 ของคุณ แงซาย *.*
ไม่ใช่ของกระผมแต่อย่างใดนะขอรับ ท่านสมาชิกโปรดอย่าเข้าใจผิดไป หุหุ

ว่าแล้วก็ร่ายมนตราภาษากุโบ๊ธอัญเชิญศิวะเทพต่อไปอย่างคร่ำเครียด แม้ว่าพูทุเรียนเหลืองอร่ามงดงามน่าเสียดายจะได้ตกต้องดินลงไปต่อหน้า หรือว่ากลิ่นของมันจะยั่วน้ำลายเท่าใดก็ตาม ก็ไม่อาจดึงสมาธิจิตอันแกร่งกล้าของจอมพเนจรให้วอกแว่กไปได้แม้แต่น้อย (เพราะเขากินทุเรียนจนเริ่มเบื่อแล้วนั่นเอง)

อย่างไรก็ตามแงซายสัมผัสได้จากจิตที่เป็นสมาธิว่าได้มีลำอัคนีอันร้อนแรงพ่นออกมาหวังทำลายชีวิตหมู่หญิงสาวทั้งหลายซึ่งอยู่ห่างไปแค่คืบนี่เอง ในวินาทีฉุกเฉินเขาไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่า ส่งกระแสจิตไปยังบุคคลสุดท้ายที่เป็นความหวังของชาวคณะ เพื่อไม่ให้การสาธยายมนต์ขาดตอน

"ผู้ก๊อง..งงง"

พรานไพรใจฉกาจสะดุ้งเฮือก พร้อมๆ กับที่เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดที่สุดขึ้นในช่องท้อง
รพินทร์ ไพรวัลย์ ผู้ช่ำชองในการเดินป่า และการรับประทานผลไม้ป่าทุกชนิดสำเหนียกได้ทันทีว่า ไอ้เจ้าทุเรียนที่แงซายเอามาฝาก ที่เขากินเข้าไปนั้นมันไม่ธรรมดาซะแล้ว

ฉับพลันกองลมชนิดหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นในฝั่งอันดามันของลำไส้เล็ก เคลื่อนผ่านขึ้นมาด้วยอัตราความเร็วที่น่าหวาดหวั่น ทวีกำลังแรงจนกลายเป็นพายุโซนร้อน พุ่งผ่านลำคอออกมาอย่างรวดเร็วเกินห้ามทัน

เอิ๊ก..ก

จอมพรานเรอออกมาก้อนใหญ่ พอดีกับทีเปลวไฟจากก๊อตซิลล่า เอ๊ย ไม่ใช่ เจ้าแม่ทุรคาเทวีที่พุ่งมากะสังหารหมู่สุภาพสตรีพ่นมาปะทะกันพอดี

กลุ่มแก๊สที่มีกลิ่นน่าสะพรึงกลัวกระจายตัวเป็นม่านกั้นเปล่วไฟทั้งหมดไว้ได้อย่างหวุดหวิด คุณหญิงดารินและแสงโสมตลอดจนเหล่าสาวๆ ที่หลบกันอลหม่านพากันล้มกลิ้งลงกับพื้นแทบสลบกันทุกคน......


อิอิอิอิอิ


จาก : แงซาย - 18/05/2002 09:52

มิวสิค....อินโทร.....
รพินทร์ : น้องมุขอยู่ไหน.
น้องมุข : ฉันอยู่ที่นี่ที่รักจ๋าาาาา
รพินทร์ : น้องมุขอยู่ไหน
น้องมุข : ในดาราคือตาฉัน
รพินทร์ : ไปมุดหัวอยู่ไหน มาช่วยหน่อยถึงตอนสำคัญ
น้องมุข : ขออำลาไปเที่ยวสักสามสี่วัน
รพินทร์ : ตายละวาถ้าอย่างนั้น จะต่อเรื่องกันอย่างไรเอย

ครือ...จะบอกแค่ว่าผมหมดมุขจะมาต่อเรื่องน่ะ ปล่อยให้แงซายมาแสดงสีมือบ้าง หลังจากโด๊ปทุเรียนไปเยอะแล้ว

คุณแสงโสมที่รักยิ่งครับ ผมว่านะคุณแงซาย*.* คงไม่เจตนาให้สับสนหรอกครับ เพราะเธอก็อุตส่าห์ใส่ *.* มาไว้แล้ว คิดว่าอยากร่วมสนุกด้วยเท่านั้นเองครับ จะมีแงซายมาเพิ่มคงไม่เป็นไรมังครับ เพราะเมื่อก่อนรพินทร์ก็ยังมีสองคนเลยนี่นา

แงซาย*.* ตัวเอ๊ง อย่ามาทำเจ้าชู้ยักษ์กับเขานะ เด๋วเขาฟ้องคุณหญิงเจงเจงด้วย แล้วอย่าหายไปนานนะ รีบคิดมุขมาใหม่เร็ว ๆนะ ไม่งั้นเขาจะงอนนะตะเอ๊งงงงง....


จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 18/05/2002 13:02

กรี๊ดดดดดดดด





เหม็น เอ้ย ไม่ใช่ มาช้าไปหน่อยเดียว โดนโพสตัดหน้าซะแล้ว

จาก : แม่มดพันปี - 19/05/2002 01:08

แงซายถึงกับหลุดจากสมาธิที่กำลังแน่วแน่ไปในทันทีเพราะทนกับกลิ่นแก๊สที่รพินทร์เป่าออกมาไม่ไหว
"โอ้โห...เหม็นที่สุดเลยผู้กอง...แหวะ"

บรรดาสาวๆต่างสลบเหมือดกันไปเกือบหมดโดยเฉพาะพวกสาวฝรั่งทั้งหลาย เหลือแต่สาวไทยใจกล้าเพียงไม่กี่คนที่ไม่สลบเพราะค่อนข้างชินกับกลิ่นทุเรียน แต่นั่นก็ยังถึงกับต้องเอามืออุดจมูกล้มลงนั่งวิงเวียนไปตามๆกัน

กลิ่นแก๊สมหาภัยกระตุ้นสติได้ดีนัก นั่นได้ช่วยทำให้ไชยยันต์รวมทั้งพวกที่เหลือพลอยรู้สึกตัวหายจากคำสาปไปด้วยในทันที เมื่อนั้นเอง เส่ย เกิด และจันก็แหงนหน้าขึ้นมองตามสายตาของรพินทร์ แล้วก็แทบหงายหลังล้มทั้งยืนเมื่อแลเห็นร่างที่เชื่อกันว่าเป็น "ทุรคาเทวี" หรือเจ้าแม่กาลีที่เป็นอีกภาคหนึ่งของพระอุมาเทวี ต่างพากันร้องอุทานเรียกพระนามเสียงเซ็งแซ่ ไชยยันต์หลังจากหายจากอาการตะลึงก็แข็งใจเข้าไปยืนเคียงข้างรพินทร์ ยกมืออุดจมูกก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูจอมพรานในขณะที่ยังคงไม่ละสายตาจากร่างมหึมานั้น

"รพินทร์ คุณคิดว่านั่นใช่เจ้าแม่กาลีจริงๆอย่างที่พวกพรานพื้นเมืองมันอุทานกันเหรอ ตามลักษณะที่เห็นผมไม่สู้จะศรัทธานักเลยว่ะผู้กอง นั่นอาจจะเป็นนางยักษ์ที่ไหนแปลงร่างมาหลอกพวกเราก็ได้ ตามตำนานเจ้าแม่กาลีถึงจะดุร้ายแต่เขาว่าดูมีสง่าราศีเป็นที่น่าเกรงขาม ไม่ใช่น่าสยดสยองอย่างที่เห็น...แต่แหวะ...ผมว่าคุณไปหาน้ำยาบ้วนปากมาใช้ก่อนจะดีกว่ากระมัง"

ทุรคาเทวีหันขวับมาทางรพินทร์กับไชยยันต์ซึ่งกำลังส่งเสียงกระซิบว่ากล่าว นางถึงกับบันดาลโทสะพ่นเปลวไฟร้อนแรงพุ่งออกมาจากปากเป็นลำยาวเข้าหาร่างชายหนุ่มทั้งสอง รพินทร์ผลักไชยยันต์กระเด็นออกไปในทันทีทำให้ร่างของอดีตนายทหารปืนใหญ่ลอยพ้นวิถีเปลวไฟไปได้อย่างหวุดหวิด ส่วนร่างของจอมพรานนั้นเล่ากลับปะทะเข้ากับเปลวเพลิงเสียงฉ่าดังสนั่นหวั่นไหว บรรดาสาวๆต่างส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดกันลั่น

"อ๊าาาาาาาา!!"

เสียงรพินทร์ร้องดังกว่าทุกคน ท่ามกลางเปลวไฟที่กำลังลุกท่วมตัว เขามีเวลาคิดได้นิดหน่อย นี่เขาต้องมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านไปแล้วเป็นแน่แท้ ร่างกายร้อนผ่าวจนสุดจะทน ชีวิตของเขาคงมีเหลืออยู่อีกไม่กี่วินาที นี่เขาจะทำอย่างไรดี ยังไม่ได้ร่ำลาใครๆโดยเฉพาะกับหญิงอันเป็นที่รัก

ในขณะที่เปลวไฟลุกท่วมตัวอยู่นั้น จอมพรานพยายามเพ่งมองผ่านม่านไฟออกไปยังหญิงสาวที่เขารักมากที่สุด (ในบรรดาทั้งหมด) ดาริน วราฤทธิ์ ก่อนที่ร่างของเขาจะมอดไหม้เป็นเถ้าทุลีดินไป เขาขอได้เห็นหน้าเธออีกสักครั้ง
บุญคำกระโดดออกมายืนขวางหน้าดารินพอดีในจังหวะที่สายตาของรพินทร์เริ่มจะโฟกัสใบหน้าของเธอ สิ่งที่รพินทร์เห็นเป็นครั้งสุดท้ายจึงกลายเป็นศีรษะอันมีผมหงอกของบุญคำแทน
"นาย!...." เสียงบุญคำตาเหลือกลานตะโกนลั่น

น่าแปลกที่ร่างของรพินทร์กลับไม่มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน เขายังคงสภาพเดิมทุกอย่าง เพียงแต่มีอาการทุรนทุรายเหมือนปลาช่อนถูกทุบหัวเท่านั้น ร่างของจอมพรานค่อยๆลอยพ้นพื้นขึ้นที่สูง

"เจ้าพรานผู้นี้เป็นผู้รักษาสัจจะยิ่งชีวิต สมควรแล้วที่เราจะนำไปเป็นข้าทาสรับใช้เราชั่วชีวิต"

สิ้นสุรเสียงอันกังวานก้องสะเทือนไปทั่วผืนพิภพนั้น ร่างของจอมพรานก็กำลังลอยเข้าไปสู่พระหัตถ์แห่งเจ้าแม่กาลี

จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 19/05/2002 20:20

ฮ่าๆๆๆ แกล้งคนอื่นดีนักโดนเอาคืนซะบ้างผู้กอง

คุณแสงโสมเห็นขู่ว่าอีก 2 วัน จะยำผม ไม่เห็นทำตามคำขู่เลยอ่ะครับ

คุณมดพันปีอย่าเพิ่งเสียใจครับเรื่องที่โดนโพสตัดหน้า ส่วนใหญ่ก็โดนกันมาแล้วทั้งนั้น ยิ่งตอนเนื้อเรื่องเข้มข้นและทุกคนแย่งกันประดังมุขกันเข้ามานั่น ต้องชิงกันนาทีต่อนาทีทีเดียว เรียกว่าก่อนจะโพสต้องกด CTRL+Refresh กันให้จะๆก่อนว่าไม่มีใครโพสตัดหน้าแน่ๆ แล้วค่อยส่งเข้าไป

คุณคริสหายไปนานจัง กลับมาร่วมขบวนกันต่อสิครับ

สุดหล่อ 2k แบตเตอรี่ เดินเรื่องได้สะใจมากครับ ว่าแต่เดี๋ยวนี้เห็นไม่ค่อยขยันเข้ามาต่อ ปล่อยเรื่องไว้นานโดนยำเละผมไม่รู้ด้วยนะ

แงซายเด็ดมากครับมุขนี้ ผมกะเล่นผู้กองมานานแล้วเหมือนกัน เอางี้ดีกว่า ผมว่าเรามาจับมือกันยำแล้วก็เผารพินทร์ให้กรอบกันซะทีหมดเรื่องหมดราว

สุดท้ายคุณอุมาเทv เขาปล่อยภาคดุร้ายของพระอุมาออกมาแล้ว ไม่เข้ามาแก้ตัวกันหน่อยหรือครับ

แล้วนี่เจ้าไพรวัลย์หายไปไหนกันหนอ พออากลางหายแกก็พลอยหายไปด้วย เห็นบ่นๆว่าไม่อยากเข้ามาเล่นเพราะไม่มีอากลางให้ยำ จะยำผมก็จะกลายเป็นหยิกเล็บเจ็บเนื้อ ไม่ต้องกลัวหรอกเจ้าลูกชาย ยำได้ตามสะดวกป๋าไม่ให้แกต้องเจ็บตัว(นัก)หรอกน่า

น้องพลับพลึงหายไปไม่มาร่วมขบวนหรือทักทายเลยแฮะ สงสัยทิ้งตัวละครแล้วแน่ๆ ถ้าอยากเปลี่ยนตัวละครก็ได้เลยครับ เลือกคนที่ไม่มีใครเล่นหรือจะแทรกตัวใหม่เข้ามาได้ทันทีครับ

แฮ่ะๆ ขอถือโอกาสแย่งรพินทร์ทำตัวเป็นเจ้าของกระทู้ทักทายเพื่อนๆ สักเล็กน้อย แล้วว่างๆจะเข้ามาต่อเรื่องใหม่นะครับ บ๊าย บาย

จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 19/05/2002 20:49

สวัสดีครับนายทหาร

แหม..กำลังคิดถึงนายทหารได้ที่อยู่พอดีเชียวครับ
ที่นายทหารเสนอมานั้นนับว่าน่าสนใจ ผมเห็นว่า ถ้าเรามาช่วยกันเผายำผู้กองกันอย่างแข็งขันแล้ว ผู้กองคงจะเป็นโรคหมดมุขไปได้ไม่นานหรอกครับ อิอิ
(นับว่าโชคดีที่นายทหารเข้ามาเผาผู้กองซะก่อน เพราะเมื่อเย็นวานผมว่างๆ เห็นนายทหารอู้ไปนาน คิดมุขเผานายทหารได้มุขหนึ่งพอดี แต่นายทหารเข้ามานำพาตัวรอดอันตรายไปได้อย่างหวุดหวิด หุหุ)

ผู้กองครับ ที่อุตส่าห์มาโก่งคอร้องเพลงคู่ให้ฟังนี่ตกลงจะอู้ใช่ไหมล่ะครับ หึหึ ผมไม่ยอมหรอก (ระวังผมจะอู้มั่งไม่ให้น้อยหน้า)

สุดหล่อ 2k ครับ
ผมก็คิดๆ อยากจะช่วยเหลือให้พ้นจากวิกฤติตั้งหลายครั้งอยู่นะครับ
(ไขว้นิ้ว) แต่เกรงว่ามันจะผิดธรรมเนียมของภาคอลเวงนี้ไปเสีย
อย่างไรก็เห็นตัวอย่างจากผู้เชี่ยวชาญเช่นพรานใหญ่ของเรา หลบหลีกรอดพ้นวิกฤตการณ์มาได้อย่างไม่บุบสลาย แม้ทรงผมก็ยังเนี้ยบได้ทุกครั้งแล้ว ผมก็ขอเอาใจช่วยให้คุณคิดหาน้องมุขน่ารักๆ มาลื่นไหลกับเราไปได้ต่อไปนะครับ หุหุ

สำหรับคุณ แงซาย *.* และทุกท่าน
ยินดีที่ได้มาร่วมสนุกกันครับ
ถ้าจะร่วมกันเป็นแงซายก็ได้ผมไม่เกี่ยง แต่ขอให้มีสัญลักษณ์นิดนึง คนอ่านจะได้ทราบว่าใครpost อย่างที่คุณทำไว้ ก็จะได้ไม่สับสนนะครับ ^_^


จาก : แงซาย - 19/05/2002 21:27

ฮ่าฮ่าฮ่า หนุกจังง่ะ

จาก : น้องฮฮ - 19/05/2002 23:35

อุตส่าห์ปลอมตัวมาแบบไม่แนบเนียนเท่าไหร่ แถมสารภาพไป1ครั้ง
ว่า *.* ก็คือเดี๊ยนเองยังไม่รู้อีก..... โฮ....โฮ..เข็ดแล้วต่อไปจะไม่สร้างความสับสนอีกแล้ว
ปล.เชิญยำรวมมิตรเจ้าแม่กาลีซะให้พอ ในช่วงเวลาที่พวกเจ้ายังมี
โอกาส และจงเคาท์ดาวน์..รอวันเสียว......ซึ่งคงจะมาถึงในเร็วๆนี้

จาก : อุมาเทV - 21/05/2002 01:35

55555555

จาก : แม่มดพันปี - 21/05/2002 09:52

....เคาน์ดาวน์ รอวันเสียว... ฮะฮะฮะฮู้ ยังกับชื่อหนังเอ๊กซ์ญี่ปุ่นแน่ะ ผมเห็นคุณไชยยันต์ทำปากนับมุบมิบมุบมิบอยู่อย่างขมักเขม้น
โอยร้อน.....จัง ใครช่วยผมที ไม่มีใครช่วย เดี๋ยวผมมาเติมเองก็ได้

จาก : ีรพินทร์ ไพรวัลย์ - 21/05/2002 13:11

"เดี๋ยวก่อน !!!!"

เสียงตะโกนดังขึ้น ทำให้ทุรคาเทวีต้องชะงักหัตถ์ที่ยื่นออกมาทำให้
ร่างของรพินทร์ที่ควรจะตกสู่หัตถ์ของเจ้าแม่กาลี มีอันต้องแลนด์ดิ้ง
ลงบนพื้นเบื้องหน้าองค์เทวีแทนเสียงดังสนั่น เล่นเอาจอมพราน
ลงไปนอนชักดิ้นชักงอด้วยความจุกจนพูดอะไรไม่ออก

"ใครกัน ... บังอาจมาขัดจังหวะเรา" ทุรคาเทวีหันไปหาต้นเสียง
ด้วยอาการที่กะจะเอาเรื่องเต็มที่

"เจ้าแม่โปรดอภัยด้วย ข้าฯ ไม่ได้มีเจตนาจะขัดจังหวะแต่อย่างใด"
แม่มดพันปีกล่าวขึ้นในที่สุด

"เนื่องจากข้าฯ เห็นว่า เจ้าแม่กำลังตัดสินใจผิดพลาด จึงได้บังอาจ
ทักท้วงขึ้น"

"ข้าตัดสินใจพลาดตรงไหน พูดให้ดีๆนะ ไม่งั้นมีเรื่องแน่"

"ท่านลองคิดดูสิ ท่านจะเอาตัวพรานรพินทร์ไปทำไม เวลาคับขันจะ
อาศัยพึ่งพาใช้ประโยชน์อะไรก็ไม่ค่อยได้ แถมยังคอยจ้องแต่จะหลี
สาวๆ อีกต่างหาก" แม่มดพันปีเริ่มสาธยาย เมื่อเห็นเจ้าแม่กาลี
ทำท่าเหมือนจะเห็นด้วยตามก็ยิ่งได้ใจ รีบใส่ต่อทันที

"ถ้าจะเอาตัวพรานรพินทร์ไป ข้าฯ คิดว่า ท่านสู้เอาแก๊ง 2K ไป
แทนจะดีกว่า เพราะ 2 คนนี้ต่างก็มีความสามารถรอบตัวแพรวพราว
ภาษาหนังจีนเค้าว่า เก่งทั้งบู้และบุ๋น แถมยังมีลีลาการปั่นหูเป็นเยี่ยม
ต้องไม่ทำให้เจ้าแม่ผิดหวังอย่างแน่นอน"

"อืมมมมม... แก๊ง 2K งั้นเหรอ ... น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ......"
ทุรคาเทวีพึมพำขึ้นอย่างคล้อยตาม เล่นเอาชาว 2 K เริ่มรู้สึกหนาว
จนต้องถอยเข้าไปเบียดอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูง กะว่าถ้าถูกเอาตัวไปจริงๆ
ก็จะร้อยพวงเอาพรรคพวกไปด้วยให้มากที่สุด

"เอาล่ะ!!!" ในที่สุดทุรคาเทวีก็กล่าวขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว ท่ามกลาง
อาการตกตะลึงของชาวคณะทุกคน

"ข้าตัดสินใจได้แล้ว เอามันไปหมดทั้ง 3 คนนั่นแหละ "

พูดจบทุรคาเทวีก็ก้มลงคว้าตัวจอมพรานขึ้นด้วยหัตถ์ซ้าย แล้วยื่น
หัตถ์ขวาไปทางแก๊ง 2 K ซึ่งร่างของทั้งสองต่างก็ลอยมาเข้าหัตถ์
ของพระองค์อย่างช้าๆ พ่วงด้วยร่างของแงซายที่ทั้งคู่พร้อมใจกัน
เลือกฉุดมาเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม ซึ่งกำลังดิ้นรนเอาตัวรอดอย่าง
สุดชีวิต

"คีธ !!! บุญคำ!!! ปล่อยผมนะ ปล่อยยยยยย"

จาก : แม่มดพันปี - 21/05/2002 20:42

อารามตกใจ และด้วยความเป็นสุภาพบุรุษไชยยันต์จึงไม่ทันคิดหน้าคิดหลังกระโดดเข้ายื้อยุดฉุดขาแงซายไว้ด้วยหวังจะช่วย หารู้ไม่ว่ากริยานั้นกลับยิ่งทำให้เจ้าแม่กาลีทรงพิโรธหนักขึ้น

"อยากเป็นฮีโร่นักเรอะ.....!"
"ได้...ได้..........ถ้างั้นก็ไปกันทั้ง5คนนี่แหละ"

"อุวะ..5555555555555555555555555555555555......"

สิ้นสุรเสียงฮาแตกของตนเอง ร่างมหึมาของเจ้าแม่กาลีที่กำร่างกระจ้อยร่อย5ร่างที่กำลังดิ้นกระเเด่วๆ ไว้ ก็หายวับไปในบัดดล

"อา.....รพินทร์......ไม่น่าเลย โฮ...ถ้าเพียงแค่น้อยรู้สักนิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นอย่างนี้ น้อย คงดีกับคุณให้มากกว่านี้ ไม่จิกใช้คุณ..ฮือ ให้ทำโน่นทำนี่เหมือนทาส.......โฮ ไม่น่าเลยพ่อเจ้าประคุณของน้อย..................โฮ ...ฮ ไม่น่าอายุสั้นเลย"

"ใจเย็นค่ะคุณหญิง.... พรานใหญ่คงยังไม่เป็นอันตรายถึงกับตายหรอกค่ะ"
แม่มดพันปีเอ่ยปลอบใจคุณหญิงดารินที่ตกอยู่ในอาการปริเวทนา ครําครวญ + ตีอกชกตัวอย่างน่าสงสาร และแหกปากร้องไห้ ปิ่มว่าจะขาดอ็อกซิเจนตายไปเดี๋ยวนั้น

" แต่มันก็น่าเสียวๆอยู่นะคะ พระแม่ทุรดา ท่าจะแรงเยอะไม่ใช่เล่น แล้วบีบขยำไว้ในอุ้งมือยังงั้น ผอมๆอย่างรพินทร์อาจจะไม่รอดก็ได้........ขนาดคนหุ่นบึ้กอย่างแงซาย...โสมเห็น พอเจ้าแม่กำไว้ในอุ้งพระหัตถ์ ก็อึไหลออกมาเรี่ยราดไปหมดเกือบหยดใส่โสมแน่ค่ะ.......แล้วคุณคี๊ธอีกคน ฉี่งี้พุ่งเลย.....สงสัยถูกกำซะแรง โธ่...น่าสงสารจริง....ทูนหัว ของโสม...."แสงโสมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับนําตา

"แต่ว่าที่แงซายอึราดอาจจะเป็นที่ท้องเสียเพราะกินทุเรียนมากไปก็ได้นี่ แล้งนายคี๊ธนั่นก็อาจฉี่แตกเพราะกลัวก็ได้" แม่มดพันปีแย้งเพื่อให้ดารินที่กำลังร้องไห้อยู่โฮๆสบายใจขึ้น

"6...6...66ๆ" แหม่มคริสและเบลแข่งกันเปล่งเสียงร้องไห้
"6ๆๆ.......666...66ๆๆๆโถรพินทร์ไม่น่าเลย......66ๆๆ"

พลับพลึง หันไปกระตุกชายผ้ากะรุ่งกะริ่งเหม็นอับของแม่มดพันปี
จนชายผ้าพะเยิบพะยาบเห็นขนจั๊กกะแร้อยู่ไหวๆ พลางกระซิบถาม
"ทำไมพี่สองคนนั่นเขาร้องไห้แปลกๆละคะ...ประหลาดจังร้องไห้เป็นตัวเลขก็ได้.....?"

"โธ่...นังหนูนี่"แม่มดพันปีเบิ๊ดกระโหลกพลับพลึงไปหนึ่งที
"เค้าเป็นฝรั่งร้องไห้ ซิกๆ sixๆ 6ๆ ไงเล่า ไม่รู้เรื่องเล้ย........."

"อ้าว....."พลับพลึงคลำหัวป้อย "ก็หนูจะไปรู้ได้ไงเล่า ว่าเขาจะมาเล่นมุขกันในเวลาหน้าสิ่ว หน้าขวานอย่างงี้อ้ะ......................"

"โฮ...ฮฮฮฮ โฮ.........น้อยจะหาใครอย่างคุณได้อีกคะ รพินทร์"
คุณหญิงดารินยังครําครวญไม่หยุด

"อ้าวก็ ....คุณหญิงก็รอหนูไพรวัลย์ลูกคุณไชยยันต์โตสิคะ เพราะจริงๆแล้วเค้าเป็นลูกของ..รพิ..."
แม่มดพันปีรีบตะครุบปากแสงโสมเอาไว้ได้ทัน พร้อมเอ่ยกลบเกลื่อนไม่ให้ดารินคุ้มคลั่งมากกว่าที่เป็นอยู่....
"เอาเถอะค่ะ...คุณหญิง...ทุกๆคน เลิกฟูมฟายกันได้แล้ว เดี๋ยวแม่มดพันปีคนนี้จะใช้ญานวิเศษ สำรวจหาว่าพระนางทุรดาพาพวกผู้ชายไปไหน เราจะได้รีบๆตามไปช่วยกันเร็วๆ.. ดีไหม"

ว่าแล้วแม่มดสาวก็นั่งลงขัดสมาธิเอาเอานิ้วแตะนําลายจิ้มหัวตัวเองแบบอิ๊กคิวซังก่อนจะเงียบไป.........................




ในถําที่ทุรดาเทวีพาไปกักขังไว้ แงซายค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับรพินทร์...มือคลำท้ายทอยที่รู้สึกปวดตุ้บๆเหมือนกระแทกถูกอะไรมาอย่างแรง ไชยยันนอนอยู่ในท่าลูบเป้า ของไมเคิล แจ๊คสัน ขณะที่2kคู่รักต่างวัยยังสลบไสลไม่ได้สติ ในท่า69 คือหน้าของอีกฝ่ายซุกอยู่กับเป้ากางเกงของอีกฝ่าย
"อูย....ไอ้พวกนี้มันนอนกัน ทำท่าน่ารักดีเหลือเกินวุ้ย....."รพินทร์งึมงำเบาๆ
"ผู้กอง ...ผู้กองครับมาดูอะไรนี่เร็ว"
"หือ...มีอะไรวะ"

รพินทร์ถาม พลางยื่นหน้าเข้าไปอ่านโน้ตแผ่นเล็กๆที่อยู่ในมือของแงซาย

"ใส่ซะให้เรียบร้อย เราจะกลับมาดูการแสดงของพวกเจ้าในเวลาอาหารคํา ถ้ากลับมาแล้วยังไม่เสร็จ พวกเจ้าจะต้องเจอกับอะไรที่ทำให้เสียใจอย่างสุดซึ้งทีเดียวที่ต้องเกิดมา................จาก เจ้าแม่............"

"นี่มันอะไรกันเนี่ยแงซาย"
เจ้ากะเหรี่ยงพเนจรไม่ตอบแต่ชี้นิ้วสั่นๆไปยังกองเสื้อผ้าที่วางอยู่บนแท่นหิน
รพินทร์ตาโต .......เพราะ...เจอกับอาภรณ์ที่ล้วนแล้วแต่ งดงามจับตา หรูราวกับสั่งมาจากห้องเสื้อชั้นนำอย่างกุชชี่ ประกอบไปด้วย ชุดหนัง เข็มขัดถุงน่อง แส้ครบชุด อีกทั้งยังมี บราเซียสีดำแบบเปิดออกมาให้นมลูกได้ กางเกงในT-backตัวจิ๋ว......ชุดลายเสือดาวแบบเมียทาร์ซาน และชุดคาบาเร่ต์ พร้อมอุปกรณ์วิตถาร ฯลฯ หลากชนิดให้เลือกสรร
"...ใส่เถอะผู้กอง ไม่งั้นเรา ตายแหง ถ้าทำให้เจ้าแม่กาลีโกรธขึ้นมา อีกอย่างรู้สึกหัวผมจะกระแทกกับหินแรงไปหน่อย เราคงถูกโยนลงมา ตอนนี้เลยลืมคาถาเรียกพระศิวะไปแล้ว.........จนกว่าผมจะนึกออก เราควรเอาใจไปก่อนเจ้าแม่จะได้ไม่อารมณ์บูดไงครับ เดี๋ยวผมจะใส่ชุดหนังนั่นเอง..."
"ว๊ากไม่ยอม..........ว๊ากกกก...."รพินทร์ร้องลั่น
"ผู้กองครับ ในสถานการณ์อย่างนี้เราจำเป็นต้องทนให้ได้เพื่อเอาตัวรอด ถ้าผู้กองจะดื้อไม่ยอมใส่ชุดนี่ ถึงจะต้องใช้กำลังบังคับกับผู้กองผมก็จะยอม"
"ไม่ใช่...โว้ย ฉันไม่ยอมให้แก่เอา ชุดนั้นไปตะหากไอ้แงซาย ชั้นชอบชุดหนังมากกว่านี่ ....เรื่องอะไรจะมาแย่งกันง่ายๆ ฉันนี่แหละที่จะใช้กำลังกับแก ไอ้เลว...." พูดจบก็กระชากชุดหนังไปจากมือของเจ้าคนรับใช้พิเศษประจำคณะอย่างเอาแต่ใจ กะเหรี่ยงหนุ่มได้แต่ทำตาปริบๆ
สงสัยหัวของพรานใหญ่จะกระแทกถูกพื้นแรงยิ่งกว่าหัวของเขาซะอีก ถึงได้เกิดอารมณ์วิปริตผิดเพศขึ้นมาอีก


กลางถําที่มีลักษณะเป็นโดมสูงขึ้นไปราว30เมตรนั้นเป็นที่ประดิษฐานของเทวรูปเจ้าแม่กาลี ไฟลุกโชนอยู่ทีกระถางบูชาไฟหน้าเทวรูป แงซาย รพินทร์ บุญคำ คี๊ธ และไชยยันต์ยืนเรียงหน้ากระดานกันอยู่พร้อมเพรียง
"เมื่อไหร่เจ้าแม่จะโผล่ออกมาซะทีล่ะนาย ไอ้คำคันขนนกยูงนี่เต็มทนแล้ว......"ตาเฒ่าสัปโดกในชุดคาบาเร่ต์มีขนนกยูงรำแพนที่หลังบ่นอุบ พร้อมทั้งเกาแกรกๆ ผิวหนังที่เต็มไปด้วยขี้กลาก ร่วงกราว
"ชู่ว....อย่าบ่นน่าลุงคำ เดี๋ยวคงมาแล้วละน่า..."ไชยยันต์ในชุดสไตล์อินเดียมีผ้าคลุมหน้า และกางเกงโชว์สะดือเกาะสะโพกแบบจะหลุดมิหลุดแหล่หันมากระซิบเบาๆ
ส่วนคี๊ธนั้นลำบากที่สุดเพราะต้องยืนหนีบกระมิดกระเมี้ยน เนื่องด้วยความที่มีรูปร่างสูงใหญ่ลําบึ้กอย่างทาร์ซาน แต่กลับต้องมาใส่ชุดเล็กจิ๋วของเจนซึ่งท่อนล่างนั้นเป็นกระโปรงสั้นจู๋ที่แทบจะปกปิดอะไรไว้ไม่ได้เลย


ฉับพลันนั้นก็ปรากฏเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นรูปปั้นมหึมาพลันขยับเขยื้อนไหว แล้วลิ้นที่แลบออกมายาวอยู่แล้วของเจ้าแม่กาลีก็พลันยืดออกมากระหวัดรัดร่างแงซายยกขึ้มไปเชยชม
"เหอ เหอ เหอ ใช้ได้นี่ ใช้ได้ทีเดียวพวกเจ้า...."
"อ๊า....... ปล่อยนะว๊ากผู้ก๊อง ...ช่วยด้วย"
แงซายในชุดกางเกงในทีแบ็คดิ้นพล่าน
เจ้าแม่กาลีวางร่างแงซายลงดื่มเลือดที่วางอยู่ตรงหน้าอึกใหญ่ก่อนจะเหลือบไปเห็นว่ารพินทร์นั้นยังไม่ได้ถอดหมวกออก
"อ้าวเจ้าพราน ยังไม่ยอมถอดชุดเก่าทิ้งไปให้หมดอีกรึ"

"ก็ ก็มันติดนี่เจ้าแม่ ข้าใส่มาทั้งเรื่อง จะให้ถอดได้ไง หมู่นี้ยิ่งรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวเองอยู่ ขืนถอดหมวกทิ้งไปรพินทร์คงไม่ใช่รพินทร์คนเดิมอีกแล้ว"
"55555555 ดี..ใส่ไว้ก็ได้เหมือนคาวบอยดีข้าชอบ55...............
ทีนี้เจ้าลองขึ้นไปขี่หลังไอ้หนุ่มทีแบ็คนั่น แล้วทำท่าแบบคาวบอยซิ55555..........."
เจ้าแม่ทุรดาเทวีหัวเราะเสียงดังก้องถํา และดนตรีก็บรรเลงกระหึ่มขึ้นในลีลาเร้าใจ
"ส่วนพวกเจ้าก็เริ่มแสดงกันได้แล้ว55 ไม่แน่นะใครทำให้ข้าพอใจจะมีรางวัลพิเศษให้ ข้าจะให้พรเจ้าได้1ข้อ แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการขอให้ข้าปล่อยพวกเจ้าไป ..เข้าใจ๋5555........"

"วะ 5555...ดีๆตลกดี เยี่ยม55" เจ้าแม่กาลีหัวร่องอหงายเมื่อมองไปยังคู่รพินทร์กับแงซาย


"ยะฮู้ ........ยิปปี้.........วู้ มันส์พะย่ะค่ะ......เย้วววว"
รพินทร์ขึ้นขี่หลังแงซาย ขย่มอย่างลืมตัวเป็นจังหวะเข้ากับเสียงเพลงเร้าอารมณ์
"ยะฮู้ววววววว......."พรานนำทางหนุ่มใช้แส้เฆี่ยนหลังแงซายอย่างเมามัน
เพี๊ยะ เพี๊ยะ "นี่แนะ นี่แน่ะ วู้วว....."

"โอ๊ยพอทีผูกองผมเจ็บ โอยยย เจ๊บบบบ.....อูววววว"


ไชยยันต์เต้นส่ายบันท้ายพลิ้วไหวไปรอบๆ
ในขณะที่คี๊ธเต้นท่ารูดเถาวัลย์ บุญคำก็รำลิเกไปมา สลับกับเซิ้งกระติ๊บ ในชุดนกยูงรำแพนที่ดูคล้ายสาวอาคาซ่า
"เยี๊ยกกกกกรู้วววว....มันส์ดีเหมือนกันเนอะนายทหาร.....นายห้าง"

"มันส์กับผี บ้านเตี่ยบุญคำน่ะสิ"ไชยยันต์ขบกรามแน่นขณะข่มใจส่ายสะโพกให้เข้ากับจังหวะเพลง
"โฮ......ไออยากกลับบ้าน oh! god help me..... please!"
คี๊ธร้องทั้งนําตา แต่ด้วยความกลัว จึงยังเต้นไม่หยุด



สาวๆที่แอบโผล่ดูจากหลืบหินมองหน้ากันงงๆ
"เอ เขาก็สนุกกันดีนี่นา ดูสิเต้นกันมันส์พิลึกเลย"เบลกระซิบกับพรรคพวก
"นั่นสิ ไอ้เรารึอุตส่าห์เป็นห่วง.......ว้าย ดูอีตารพินทร์สิ"
ดารินร้องเบาๆเมื่อเห็นรพินที่กำลังทำท่าขี่วัวกระทิงแบบผาดโผนบนหลังของแงซาย
"อย่างงี้ไม่ต้องช่วยแล้วมั้ง ปล่อยให้กลายเป็นนักแสดงโชว์วิปริตอยู่ที่นี่แหละ ฉันดูไม่ผิดเล้ย.......ไอ้เราก็ว่า เริ่มเห็นแววรางๆมาตั้งแต่ตอนเต้นเมียงูแล้ว มาออกลายเอาวันนี้เอง เขาชอบของเขาแบบนี้ก็ปล่อยไปเถอะ เฮ้อ....."คริสส่ายหน้าอย่างปลงตก
พวกลูกหาบและสมุนของรพินทร์ เหลียวมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างไม่เชื่อตาที่เจ้านายของตนจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ บางคนถึงกับปล่อยให้นําตาหยดลงพื้นอย่างเงียบๆด้วยความสังเวสใจกับภาพตรงหน้า ....











จาก : อุมาเทV - 22/05/2002 02:20

"ยะฮู้วว...คูณคือโคบาล..."
post นี้สะใจไปเลยน้า รพินทร์จัง
นี่แหละแก้เผ็ด เรื่องมาเปลี่ยนร่างชั้น 55......
ไม่ต้องเคาท์ดาวน์กันแล้ว......ฮ่า ได้ทีต้องรีบแก้แค้นก่อนเลย

จาก : อุมาเทV - 22/05/2002 02:35

ขณะที่แงซายกำลังเป็นโคอยู่นั้น... เขาก็ให้สงสัยเต็มกำลังว่าเจ้าแม่ช่างไปสรรหาชุดวิตถารเหล่านี้มาจากไหนกันได้มากมายเนี่ย

โอ.. ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้หนอ เขารู้สึกน้ำตาตกในชะตากรรมของเพื่อนร่วมคณะยิ่งนักที่ต้องถูกเจ้าแม่ก๊อตซิลล่าทำร้ายเอาเช่นนี้

แต่ว่าก็ได้แต่นึกอยู่ในใจเพราะร่างกายนั้นได้เป็นไปตามความนึกคิดด้วยมนต์ของเจ้าแม่ ยิ่ง ณ ต่อหน้าเทวรูปศักดิ์สิทธิด้วยแล้ว

เขานึกเสียดายยิ่งนักที่มนต์อัญเชิญพระศิวะที่สู้อุตส่าห์ท่องมาจนเกือบจะจบแล้วต้องขาดหายไป และในตอนนี้ ที่ร่างกายไม่สามารถจะขยับไปได้ตามใจคิด เขาก็ไม่สามารถจะท่องคาถาอะไรได้อีกแล้ว

โอ๊ย... อยากจะบอกให้ผู้กองเพลาๆ มือ ที่ใช้แส้เฆี่ยนเขาเสียเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้

เสียงเจ้าแม่ยังหัวเราะ 5555 งอหายจนตัวกระเพื่อมดังกระหึ่มก้องถ้ำ เปลวไฟในกระถางบูชาลุกเรื่องโรจน์ขึ้นทุกครั้งที่เสียงหัวเราะดังขึ้น เต้นไหวลุกฮือดุจจะหัวเราะไปด้วยกับเจ้าแม่กระนั้น

ในขณะที่ชาวคณะทั้งหมดกำลังสิ้นหวังอยู่นั่นเอง

กลางเปลวไฟในกระถางปรากฏแสงสีเขียวประหลาดขึ้น ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นทุกที แต่ไม่มีใครสังเกต โดยเฉพาะเจ้าแม่ด้วยแล้ว ถ้าไม่หลับหูหลับตาหัวเราะอย่างสะใจ ก็ลืมตาโพลงมาจ้องดูภาพที่ตัวเองเนรมิตขึ้นเพื่อความบันเทิงเริงรมย์ส่วนตัวอย่างกระหายโหย

จนกระทั่งเกิดเสียงประหลาดขึ้นที่กระถางไฟบูชานั่นแหละจึงได้รู้สึกตัว
"อืมมมม"

เสียงห้าวๆ เหมือนเสียงบุรุษร่างใหญ่ที่นอนหลับ ได้รับความรำคาญรบกวนนิทรารมย์ที่แสนสุข

ทุรคาเทวีตกใจตาถลนมองเห็นไฟสีเขียวที่กำลังลามติดไฟสีส้มมากขึ้นทุกที นางกระโดดผลุงขึ้นยืนตึง จนถ้ำสะเทือน

"ว้ายตายแล้ว เจ้าพี่ศิวะจะตื่น.."

ทันใดนั้นเจ้าแม่รีบร่ายมนต์ เก็บกวาด สิ่งอุจาดต่างๆ นานาที่ตัวเองเนรมิตไว้เกลื่อนถ้ำเป็นโกลาหล

เสื้อผ้าบรรดาโชว์บอยหายวับไปกลายเป็นชุดราตรีสโมสรในสมาคมชั้นสูง หล่อเนี้ยบ รีบแปลงร่างตัวเองจากนางยักษ์เป็นอุมาเทV ที่แสนสวย นุ่งยกห่มตาดพราวพราย วิ่งไปแปรงฟันลบคราบเลือดคราบคาวออกจากปาก

เปลี่ยนถ้ำให้เป็นท้องพระโรงอลังการของมหาปราสาท นำบรรดาสาวๆ ที่โผล่ดูอยู่ตรงหลืบหินมาแต่งตัวใหม่เป็นนางกำนัลของตนเอง

เพียงแว๊บเดียวเท่านั้นทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ทันเวลาที่เปลวไฟสีเขียวลามเรืองเต็มกระถางบูชาแทนไฟสีส้ม และร่างสูงสง่างดงามหนึ่งก้าวออกมา

ทั้งหมดถวายความเคารพโดยพร้อมเพรียง จากการบังคับบัญชาโดยเจ้าแม่อุมา ภาพทุกอย่างสมบูรณ์งดงามพร้อม แม้ว่าเสื้อผ้าสากลของเหล่าผู้มาเยือนจะขัดกับแฟชั่นโบราณของเจ้าแม่อยู่บ้าง หวังว่าพระศิวะท่านจะไม่สะกิดใจ

ถ้าจะมีหลักฐานน่าสงสัยหลงเหลืออยู่บ้าง ก็เพียง หมวกคาวบอยของรพินทร์ และเขี้ยวคม ที่โผล่แพลมออกมาเหมือนเขี้ยวเสน่ห์ของเจ้าแม่อุมาเทวีที่ยืนรับหน้าอยู่หน้ากระถางไฟเท่านั้นเอง...งงงงง

เฮ้อ..........(แงซายซับเหงื่อให้ตัวเอง)

จาก : แงซาย - 22/05/2002 11:27

คิดว่าแค่นี้จะรอดแล้วเหรอ ?

55555555555555555

จาก : แม่มดพันปี - 22/05/2002 11:57

"ไม่เป็นไร ๆ ลุกขึ้นเถอะ ไม่ต้องมากพิธีหรอก"

องค์ศิวะรีบโบกไม้โบกมือให้ชาวคณะที่ต่างพากันหมอบกระแตอยู่กับพื้นเบื้องหน้าให้ลุกขึ้น พลางหันไปบอกกับพระอุมาเทวีว่า

"พี่แค่จะมาบอกว่า พี่จะเข้าพิธีจำศีล บำเพ็ญเพียร ซัก 3 เดือน ระหว่างนี้น้องช่วยดูแลอย่าให้ใครมารบกวนพี่นะ"

"ไม่มีปัญหาเพคะ " พระอุมาเทวีรีบรับคำ

"งั้นก็ดูแลบ้านช่องให้ดีๆ พี่ไปล่ะ" องค์ศิวะกล่าวพลางโบกมือร่ำลาภรรยาสุดที่รัก

เหล่าชายชาวคณะฯ ซึ่งทราบดีว่า หากพระศิวะเสด็จจากไป ก็คงไม่แคล้วต้องกลับไปแสดงกายกรรมให้ทุรคาเทวีดูอีกจึงพากันร้องเรียกองค์ศิวะ แต่พระองค์เพียงแค่หันมาแล้วตรัสว่า

"เรียกทำไม มีอะไรเจ้าก็ไปคุยกับเมียเราแล้วกัน เราจะไปจำศีลแล้ว น้องอุมาช่วยดูแลเจ้าพวกนี้ให้ด้วยก็แล้วกัน"

"ไม่มีปัญหาเพคะ น้องจะดูแลให้อย่างดีเลย" พระอุมาเทวีรับคำ แล้วหันไปส่งยิ้มแบบ***มๆ ให้กับทุกคน

" ดี " องค์ศิวะเทพตรัสเป็นคำสุดท้ายก่อนจะเสด็จจากไป

หลังส่งเสด็จพระศิวะแล้ว พระอุมาที่ตอนนี้แปลงร่างกลับไปเป็นทุรคาเทวีก็กล่าวขึ้นว่า

"เอาล่ะ เรามาว่ากันต่อดีกว่า "

จาก : แม่มดพันปี - 22/05/2002 12:24

*หมายเหตุ หลังจากที่เจ้าแม่กลับร่างเป็นทุรดาเทวี
ชุดโรคจิตทั้งหลายแหล่ก็กลับมาสวมอยู่บนร่างเหล่าโชว์บอยตามเดิม
..........*.*...............555

จาก : อุมาเทV - 22/05/2002 14:16


แหะ .. มุข จีสตริงนี่คุ้น ๆแฮะ ..

มุขนี้เราเอาไปเผาคนอื่นในถนนฯมานี่หว่า .. เออ .. ย้อนมาโดนตัวเองแฮะ..

.....................................................

"เดี๋ยว ! "

องค์พระศิวะหเบือนพระพักตร์กลับมาอีกครั้ง .. อุมาเทวีสะดุ้งโหยง

"อะไรเพคะ"

"นี่อะไร"

จอมเทพแห่งสามโลกชูผ้าชิ้นเล็กๆขึ้นมา .. ทีแบ็คหรือจีสตริงนั่นเอง
อุมาเทวียิ้มเขินๆตอบไป

"จีสตริง เพคะ"

.......

"ทีแบ็คเพคะ"

............

"อันเดอร์แวร์เพคะ"

.............

"กกน. เพคะ"

"อ้อ ! "

จอมเทพผงกหัว

"แล้วเอามาทิ้งไว้ทำไมเรี่ยราด ทำไมไม่ใส่"

"ไม่เอาเพคะ ใส่ลำบาก"

"หือ ?"

"อิฉันเห็นที่โลกมนุษย์กำลังฮิตเลยไปซื้อมาใส่มั่ง วุ้ยยยย .. ลำบาก.. ดูสิเพตะ .. ผ้าก็มีอยู่กระแบะเดียว..ปิดก้นก็ไม่มิด ..
ไอ้เส้นที่ร้อยมาข้างหน้านี่ยิ่งร้ายใหญ่ ปิดอะไรก็ไม่ได้ .. แถมยังเดินลำบาก"

"ก้ากกกกกกก ... น้องอุมา ..... ก้ากกกกกกกกกกกกกก... ถึงว่าน้องเดินขาถ่างๆทั้งวัน .. น้องใส่กลับด้าน....ก้ากกกกกกกก...
ไอ้ผ้ากระแบะเท่าฝ่ามือนี่เขาเอาปิดข้างหน้า .. ส่วนไอ้เส้นนี่ก็ร้อยไปตามร่องก้น วะ ฮะ ฮ่า .... ก้ากกกกกกกกกกกกกกกก"

"ไหนว่าไม่รู้จักเพคะ .. หลอกถามเราได้ .. มาให้ตบซะดีๆ"

"ก้ากกกกกกกก .. อุมาเทV ใส่ทีแบ็คกลับด้านเดินขาถ่าง ก้ากกกกกกกกกกกกกก"




จาก : สองเค .. แบตเตอรี่ - 23/05/2002 00:45


อ้าว .. ยังไม่มีใครมาต่ออีกหรือนี่ ...

เหอ..เหอ.. แม่นางอุมาเท V เงียบไปเลยหรือ....

เอ....หรือว่าเราลามกจัดไปหน่อยหว่า...


จาก : สัตยา - 25/05/2002 02:11

มหาเทพยื่นหน้ามาจุมพิตที่ปรางค์พระเทวี แล้วบอกว่า"พี่ล้อเล่นน่ะ อย่าโมโหเลย พี่ไปแล้วนะ อย่าให้ใครไปกวนพี่นะ อีกสักสามพันปีมนุษย์พี่ถึงจะตื่นมาอีกที"

มหาเทพเสด็จลับหายไป เหล่าชาวคณะกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคอ เพราะรู้ว่าตัวเองจะต้องตกที่นั่งลำบากอีกคราหนึ่ง พระอุมาซึ่งบัดนี้กลายร่างเป็นเจ้าแม่ทุรคาอีกครั้งหนึ่งแล้ว เอ่ยปากสั่งให้ชาวคณะเต้นระบำบันเทิงให้ชมกันอีก

รพินทร์ขบกรามกรอด เขาเป็นพระเอกมาสามหมื่นแปดพันห้าร้อยสามสิบห้าภาคแล้ว จะถูกลูบคมในภาคนี้ได้อย่างไรกัน จอมพรานดีดลูกคิดในสมองติ้ว ๆต้องหาทางออกจากเรื่องนี้ให้ได้

เมื่อได้ยินเสียงสั่งของพระเทวีให้เริ่มโชว์ลามกกันอีกได้ เขาสูดลมหายใจรวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดที่มี ยืดอกขึ้น ก้าวไปข้างหน้าอย่างคนที่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้วว่าแม้จะต้องเผชิญกับอะไรที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตเขาก็ต้องยอมทำโดยไม่หวั่นไหว เขาจะต้องเสียสละเพื่อชาวคณะได้รอดออกไปจากเหตุการณ์นี้..........

"โอ๊ย......" เสียงเคอเนลคีธร้องลั่น เมื่อถูกรพินทร์ถีบออกไปจากแถว ร่างของเขาปลิวไปชนนิ้วหัวแม่เท้าของเจ้าแม่กาลีอย่างจัง พระนางชงักมองดู แล้วคำราม "เจ้ามดน้อยต้อยต่ำ อยากจะลองดีกระนั่นหรือ...." ว่าแล้วก็คีบร่างของผู้พันขึ้นมาจะบดขยี้

"โธ่ ดีแต่รังแกคนที่ตัวเล็กกว่า" เสียงพูดเล็ดรอดเบา ๆ

เจ้าแม่ชะงัก "ใคร ใครพูด ข้าจะลงทัณฑ์มันให้สาสมทีเดียว"

รพินทร์สูดลมหายใจอีกครั้ง ยกเท้าถีบแงซายร่อนออกไป แล้วยกมือชี้ฟ้องว่าเป็นแงซาย ทุรคาเทวีเอาสองนิ้วคีบแงซายจนหน้าเขียวหัวเราะเสียงกระหึ่ม แงซายดิ้นรนไม่หยุดหย่อนให้พ้นจากเงื้อมมือของพระนางผู้ทรงไว้ซึ่งความโหด***มอำมหิตเกินผู้ใด

เสียงก็ดังขึ้นอีก "เห็นไหมว่าแล้ว เอาแต่รังแกคนตัวเล็ก....เป็นเจ้าแม่ภาษาอะไรกัน"

เจ้าแม่ละมือจากทั้งสองคน หันขวับมาทางรพินทร์ "ข้าว่าเจ้านั่นแหละเป็นคนพูด ขณะที่เอื้อมมือคว้าคอจอมพราน เสียงก็ดังขึ้นอีกคราวนี้มาจากรพินทร์โดยแน่ชัด "เอาอีกแล้วไง เป็นเจ้าแม่อันธพาลมากกว่ามั้ง" เจ้าแม่สั่นไปทั้งตัวด้วยความโกรธามหาศาล

"รพินทร์ เจ้าจะดูถูกข้ามากไปแล้วมั้ง ยังไม่รู้จักฤทธิ์ของข้าเสียแล้ว แม้ข้าจะตัวจ้อยกว่าเจ้า ข้าก็ยังสามารถทำให้ชีวิตของเจ้านั้นมีความทุกข์มหาศาลได้นะ" ว่าแล้วพระเทวีก็ย่อร่างลงเหลือเล็กจิ๋วเท่านิ้วมือหัวแม่โป้งของจอมพราน พลางหัวเราะลั่น "นี่ไงรพินทร์ ข้าจะทำให้เจ้าดู"

จอมพรานไม่ตอบอันใด อาศัยใช้ความว่องไงตะปบร่างของพระเทวีไว้ แล้วหย่อนใส่ปากบุญคำที่นั่งอ้าปากหวออยู่ข้าง ๆ แล้วบีบจมูกเฒ่าลามก ตบหลังดังป้าบให้กลีนพระเทวีลงท้องไป นางกำนัลทั้งท้องพระโรงตกตลึงแล้วพากันร้องกรี๊ดหนีออกไป เหลือแต่ชาวคณะเท่านั้นเอง

รพินทร์บอกให้บุญคำนั่งขัดสมาธิ แล้วขอซิก้าร์มาจากเชษฐาให้บุญคำสูบ ได้ยินเสียงไอค้อกแค้กออกมาตัวบุญคำ ที่แท้พระเทวีที่ถูกบุญคำกลืนลงไปสำลักควันบุหรี่นั่นเอง

"รพินทร์เอ๋ย บุญคำเอ๋ย ปล่อยเราได้เถิด"เสียงอ่อนหวานนั้นอ้อนวอนมาจากท้องของบุญคำ

รพินทร์หัวเราะหึหึ "พระแม่เจ้า พระแม่เจ้า ทรมานเรามามากแล้ว ตานี้เป็นตาของเราบ้างแล้วล่ะ เอ้าบุญคำสูบซิการ์ต่อไป นี่เป็นฮาวาน่าชั้นดีเชียวนะ พระแม่ขอเชิญสำราญกับควันละเอียดอ่อนของมันได้แล้ว"

บุญคำดูดซิการ์เข้าไปดังโฮกฮือ อัดควันแน่นเนิ่นนาน เสียงพระเทวีสำลักควันค้อกแค้ก ๆ ฟังดูน่าสงสาร แต่ชาวคณะยังไม่ยินยอมปล่อย

"รพินทร์เอ๋ย ถ้าเจ้าปล่อยเราไป เราสัญญาว่าจะไม่แกล้งพวกเจ้าอีกนะ ปล่อยเราเถอะหายใจไม่ออกแล้ว ในท้องบุญคำ พยาธิ์ก็เยอะ เราขยะแขยง" พระเทวีออดอ้อน

"อยู่ในนั้นไปก่อนเถอะนะ พระนาง แล้วแม้ว่าจะใช้เวทย์มนตร์อันใดหรือฤทธาเท่าใดก็ไม่สามารถที่จะหลุดออกมาได้หรอก เพราะว่าบุญคำได้ลงยันต์ของมหาฤษีโฏณทัญญะผู้เป็นอาจารย์ของเทพทั้งมวลไว้แล้ว มิมีอำนาจใดที่จะทำลายยันต์นั้นได้ พระเทวีคงทราบดี" แงซายอธิบาย หลังจากเข้าใจแผนการของรพินทร์แล้ว แม้ว่าจะไม่อภัยให้ตอนที่จอมพรานถีบเขาออกไปก็ตามที

ในขณะที่พระอุมากำลังต่อรองกับชาวคณะอยู่นั้น โลกธาตุทั้งมวลก็หวั่นไหวสั่นคลอน เกิดเหตุอาเภทใหญ่ในสวรรค์ทั้ง 16 ห้องท้องฟ้า เหล่าทวยเทพยกเว้นพระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหมที่มักบรรทมนานเป็นเนืองนิตย์ต่างก็มาประชุมกันยังมหาสมาคมเพื่อทราบว่าเกิดอันใดขึ้น บรรดานางกำนัลของพระอุมาต่างก็เล่าให้มหาสมาคมฟังว่าเหตุเป็นเช่นนี้เพราะว่าบุญคำกลืนพระอุมาลงท้องไปแล้ว

เทพพฤหัสบดี ซึ่งเป็นใหญ่ในที่ประชุม หัวเราะหึหึ "ความจริงข้าก็อยากจะปล่อยไปเลยล่ะนะ เพราะพระเทวีท่านก็ร้ายเหลือเหงื่อไหล ชอบรังแกใครต่อใครเขาเพียงเพื่อความพอใจของท่าน แต่ทีนี้ท่านก็เป็นหนึ่งในเสาหลักของสวรรค์เสียด้วย หากท่านอยู่ในภาวะนั้นต่อไปสวรรค์ก็คงปั่นป่วนเป็นแน่แท้ เกิดพายุฟ้าผ่าต้องเทพบาดเจ็บไปตาม ๆกันไม่หยุดหย่อน เราควรส่งเทพไปเจรจาให้รพินทร์กับพวกปล่อยตัวพระนางเสีย.."

มหาเทพสมาคมตกลงที่จะส่งพระคเณศวร์ซึ่งเป็นพระโอรสของพระเทวีที่ติดอยู่ในท้องบุญคำมาต่อรอง ซึ่งตกลงกันว่าชาวคณะจะขออะไรก็ได้จากทวยเทพ แต่ว่าต้องปล่อยพระเทวีออกมา.......











จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 26/05/2002 11:38

ทำไมไม่มีใครมาต่อเลยวุ้ย
ไม่มาเด๋วผมยำต่อนะเออ

จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 28/05/2002 14:58

แต่งได้สนุกดีครับ เพราะฉะนั้นแต่งต่อไปก่อนนะรพินทร์
เผอิญผมยังติดภารกิจน่ะ ถ้ามีเวลาจะเข้ามายกพวกไปบุกสวรรค์ดูบ้าง เอาเป็นว่าตอนนี้ทางที่ดีคุณพาพวกเราไปเดินเล่นที่นิมมานรดี (สวรรค์ชั้น 5) ก่อนก็แล้วกัน



จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 29/05/2002 00:22

คุณไชยยันต์ ถ้าผมไม่เคยประมือกับคุณมา ผมคงปลื้มมากที่ได้รับคำชม แต่จากการวิเคราะห์คุณโดยโปรแกรมลักษณะนิสัยของบุคคลต่าง ๆ โดยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จากแลงก์ลี ที่ทำการใหญ่ของเอฟบีไอ ผมเห็นว่าคุณแนะให้ผมแต่งต่อเพราะว่าน้องมุขกำลังจากคุณไป และเห็นว่าคุณยังไม่เข้าข่ายคับขัน อย่าพึ่งวางใจมากเกินนะครับ เคี้ยกเคี้ยก

จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 29/05/2002 11:05

ไม่ได้แวะมาหลายวัน กระทู้เงียบไปเยอะเลย
ไว้ว่างๆต้องมาต่อหน่อยแล้ว

จาก : แม่มดพันปี - 29/05/2002 12:29

อ๊ากกก รพินทร์ของช้านนนน ถูกยำเละเลย เสียศักดิ์ศรีของจอมพรานหมด ง่าาาาาา ว่าแต่นู๋อยากต่อมั่งจัง แหะๆๆๆ

จาก : มิ้น - 29/05/2002 20:06

sixๆsixๆ..............
กลายเป็นกระทู้ร้างไปตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าใจหายจริงๆ

T.T

จาก : อุมาเทV - 04/06/2002 22:27

คิดถึงทุกคนจัง

หายไปไหนกันหมดน้อ จะว่าเชียร์บอลก็ไม่น่าจะใช่อ่ะ
แถวนี้มีฮูลิแกนด้วยนี่นา ...อิอิ

หนูมิ้นต์จ๋า ถ้าอยากเล่นลองเลือกตัวละครดูซิคะ แล้วก็เล่นได้เลยจ้า ..:))

จาก : พลับพลึง - 06/06/2002 13:27


ไม่มีใครมาต่อ งั้นเราต่อเอง
..................................................................................

เมื่อต่อรองกับเหล่าเทพเจ้าได้ เหล่าหนุ่มๆ ชาวคณะก็สุมหัวปรึกษากันตกลงว่าจะขอพรอะไรดี แต่ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งตกลงกันไม่ได้ เพราะต่างคนต่างอยากขอพรให้ตัวเองกันทั้งนั้น

"เอ้า !! ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เรามาจับฉลากแบ่งสายสู้กันดีกว่า ใครชนะ ก็ได้สิทธิในการขอพรไป"

ในที่สุดจอมพรานก็ตัดสินใจยุติข้อพิพาทของชาวคณะฯ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย เพราะต่างคนต่างก็มั่นใจในฝีมือของตัวเองว่าไม่มีทางแพ้แน่นอน เหล่าเทพเจ้าจึงต้องทำหน้าที่กรรมการจำเป็นจับฉลากแบ่งคู่ให้

หลังจากรอคอยกันอยู่นาน เทพพฤหัสฯ ซึ่งจัดเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในที่นี้จึงประกาศกับเหล่าทวยเทพที่พากันแห่มาดูการต่อสู้ของหนุ่มๆ ซึ่งนานๆจะมีให้เห็นซักที รวมถึงสาวๆชาวคณะฯที่ออกมาจากที่ซ่อนเพื่อจะได้ชมการต่อสู้ได้ถนัดว่า

"เอาล่ะ ข้าฯ ในฐานะประธาน ขอประกาศผลการจับฉลากแบ่งสายดังนี้

คู่ที่ 1 : ไชยยันต์ VS แก็ง 2 K
คู่ที่ 2 : รพินทร์ VS แงซาย

ผู้ชนะของทั้ง 2 คู่ จะต้องมาสู้กันอีกครั้ง ใครชนะ จะมีสิทธิได้เป็นผู้ขอพร 1 ข้อ อนุญาตให้ใช้ได้ทุกวิธี จะต้มยำทำแกงคู่ต่อสู้ยังไงก็ได้ ไม่มีกติกาใดใดทั้งสิ้น แต่ห้ามให้คนอื่นเข้ามาช่วย และห้ามออกจากเวทีอย่างเด็ดขาด"

กล่าวจบ เทพพฤหัสบดีจึงใช้ไม้เท้าชี้ไปที่สนามหญ้าหน้าวิหารพระอุมาเทวี ทันใดนั้นเอง ที่กลางสนามก็ปรากฎเวทีมวยขนาดมาตรฐานสากล ต่างกันก็แต่เวทีนี้มีกรงเหล็กขนาดใหญ่ครอบอยู่ ไชยยันต์และแก็ง 2K กำลังวอร์มร่างกายอยู่บนเวที

"พื้นเวทีและกรงเหล็กนี้ทำจากเหล็กกล้าชนิดพิเศษ ที่องการนาซ่าพัฒนาขึ้น สั่งตรงมาจากอเมริกา ไม่มีทางทำลายได้อย่างเด็ดขาด และกรงจะเปิดออกเมื่อการต่อสู้ยุติลงเท่านั้น"

เทพพฤหัสบดีอธิบายถึงคุณสมบัติของเวทีอย่างภาคภูมิใจ เมื่อเห็นทุกฝ่ายพร้อมกันแล้ว เทพพฤหัสฯ จึงตีระฆังเป็นสัญญานเริ่มการต่อสู้ทันที

"แก๊งงงงงงงงงงง"

ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น ไชยยันต์และแก็ง 2K ต่างก็อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม ค่อยๆย่างสามขุมเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างช้าๆ

จาก : แม่มดพันปี - 07/06/2002 00:31

ฟังดูคล้ายมวยปลํานะมีแบบว่ากรงเหล็กด้วย คึ คึ เราชอบมวยปลําที่ฉุดเยย แม่มดพันปีเป็นคอเดียวกันอ๊ะป่าวน่ะ เราชอบหนู the rock,ที่ฉู้ดดดดด........& Edge&Y2J.....................
(และแล้วก็เช็ดนําลายที่มุมปาก........ซี๊ด)

จาก : อุมาเทV - 09/06/2002 03:22

“ช้าก่อนเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย”

สุรเสียงขององค์พระคเณศ โอรสของพระศิวะและพระอุมาเทวี ดังก้องกังวานขึ้น ทำให้ร่างของไชยยันต์และแก๊ง 2 K ที่กำลังย่างสามขุมเข้าหากันหยุดชะงักลงทันทีต่างหันไปมองที่มาของต้นเสียง วงพักตร์รูปช้างของพระคเณศมีรอยแย้มสรวลละไมอย่างเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาก่อนจะเอื้อนโอษฐ์ออกมา

“ตามที่พวกท่านเสนอจะต่อสู้กันเองเพื่อหาผู้ชนะมารับพรจากเหล่ามวลเทพนั้นน่ะ ข้าคิดว่าการที่พวกท่านสู้กันเองรังแต่จะก่อให้เกิดการห้ำหั่นแก่งแย่งชิงดีกันจนต้องถึงกับฆ่ากันตายไปข้าง หรือไม่อีกทางหนึ่งท่านก็อาจจะฮั้วกันอย่างลับ ๆ ทำให้เหล่าเทพงุนงงแล้วก็มาขอรับพรไปแบ่งกันเงียบ ๆ ในภายหลัง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับพวกท่านและเป็นการเสียศักดิ์ศรีของเหล่ามหาเทพสมาคมที่โดนมนุษย์ต้ม”

“อ้าว..แล้วอย่างนี้เราจะมอบพรให้พรานคนใดกันล่ะลูกชายของข้า ในเมื่อแต่ละคนต่างก็ต้องการขอพรให้ตัวเองกันทั้งนั้น และพวกเราจะให้พรได้กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น”

พระอุมาเทวีที่บัดนี้ได้รับการปลดปล่อยออกมาจากร่างของบุญคำเรียบร้อยแล้วตรัสท้วงติงขึ้นมา ในขณะที่เทพพฤหัสบดีก็พยักพระพักตร์สนับสนุนความเห็นขององค์อุมาเทวีขึ้นมาด้วยอีกองค์หนึ่ง
พระคเณศยังคงแย้มสรวลละมุนละไม ทอดสายพระเนตรมองตรงไปยังเหล่าบรรดาพระเอกทั้งหลายที่กำลังยืนเตรียมพร้อมต่อสู้กัน ไชยยันต์ แก๊งทูเค แงซาย และรพินทร์ พากันเข้ามายืนรวมตัวอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของเหล่าทวยเทพอีกครั้ง

“เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ องค์พิฆเณศวร์จะให้พวกเราทำเช่นใดหรือพระเจ้าข้า หรือว่าจะยกเลิกการต่อสู้ของพวกเราทั้งหมด ถ้ายังงั้นก็ดีเหมือนกัน ข้าพระองค์ผู้ซึ่งเป็นผู้นำคณะเดินทางนี้ยินดีขอรับพรของเหล่าเทพไว้แต่เพียงผู้เดียวก็ได้เจ้าข้า”

จอมพรานค้อมร่างลงทูลถามมิหนำซ้ำยังขอพรให้ตัวเองเพียงคนเดียวเอาดื้อ ๆ อีก จึงเรียกเสียงฮือฮาพร้อมกับท่าทีจะโดนรุมสกรัมจากบรรดาหนุ่ม ๆ ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ คี๊ธขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอด ๆ ทำปากขมุบขมิบก่อนจะยกมือขึ้นตั้งการ์ดแบบนักมวย แงซายเอามีดสั้นออกมาลับกับที่ลับมีด ในขณะที่ไชยยันต์ล้วงปืน .38 ออกมาจากสีข้างช้า ๆ และแล้วก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามใหญ่โต สุรเสียงของพระคเณศดังก้องกังวานขึ้นอีกครั้ง

“ท่านพราน….ท่านและเหล่าสหายของท่านทุกคนเป็นผู้กล้าหาญ เราผู้ซึ่งทรงไว้ด้วยคุณธรรมเห็นเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งที่พวกท่านจะมาต่อสู้กันเอง ฉะนั้น เราจึงหาหนทางให้พวกท่านได้มีชัยชนะที่จะได้มาด้วยศักดิ์ศรีแห่งเหล่าท่านโดยสมบูรณ์และบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ยังไงก็ตามการต่อสู้จะยังคงมีอยู่เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญของบุคคลคนเดียวที่จะได้รับพรจากเหล่าเทพของเรา โดยที่พวกท่านไม่ต้องมาสู้กันเองให้เสียเลือดเนื้อ พวกท่านเห็นด้วยไหม”

“เห็นด้วยอย่างยิ่งครับผม แล้วการต่อสู้ที่ว่านี่จะเป็นยังไง รูปแบบไหนครับ”

นายทหารปืนใหญ่ไชยยันต์ รีบชิงเสนอความเห็นเพื่อเป็นการเอาใจองค์พระพิฆเณศวร์เผื่อฟลุ๊คอาจจะได้เป็นการเก็บสะสมคะแนนความเห็นใจเอาไว้ก่อน ทำให้แงซายและคี๊ธมองตาขวางด้วยความหมั่นไส้ที่ทั้งรพินทร์และไชยยันต์ทำคะแนนเกินหน้า

จาก : แสงโสม - 09/06/2002 09:50

“พวกท่านทั้งหลาย เมื่อสักครู่นี้ข้าได้คุยกับท่านอาจารย์เทพพฤหัสบดีแล้ว เราตกลงกันว่าจะใช้การต่อสู้แบบลูกผู้ชายในรูปแบบคล้าย ๆ เดิมเหมือนเมื่อกี้นี้เพียงแต่มีข้อแตกต่างบ้างเล็กน้อย คือ พวกท่านเปรียบเสมือนเป็นเหล่าผู้กล้า…การต่อสู้กันเองมันง่ายเกินไปสำหรับพวกท่าน ดังนั้นต่อไปนี้ทุกท่านจะต้องต่อสู้กันเดี่ยวตัวต่อตัวกับสัตว์ดุร้ายแทนที่จะสู้กับพวกเดียวกันเองในแบบเดียวกับ Gladiator เทพพฤหัสบดีจะเนรมิตสนามประลองยุทธให้มีสภาพเหมือนโคลีเซี่ยมของชาวโรมัน แต่พิเศษกว่าตรงที่พื้นเวทีและตัวสนามทำจากเหล็กกล้าชนิดพิเศษ ที่องค์การนาซ่าพัฒนาขึ้น สั่งตรงมาจากอเมริกา ไม่มีทางทำลายได้อย่างเด็ดขาด ทุกท่านจะต้องไปอยู่ในสนามโดยปราศจากอาวุธทุกชนิด รอสักพักเจ้าหน้าที่สนามจะปล่อยสัตว์ดุร้ายออกมา 4 ตัวเพื่อต่อสู้กับท่าน1 ตัวต่อหนึ่งคนพร้อม ๆ กัน และเมื่อการต่อสู้ของคู่สุดท้ายสิ้นสุดลง สนามจึงจะเปิดให้พวกท่านออกมาได้ คนที่ชนะสัตว์ดุร้ายเป็นคนแรกจะได้รับพรวิเศษจากพวกเรา"

ไชยยันต์ แงซาย และคี๊ธ ยืนนิ่งอึ้งกันอยู่พักใหญ่ ในขณะที่จอมพรานลอบอมยิ้มมุมปาก ใบหน้าแข็งกระด้างตายซากนั้นมีรอยยิ้มแห่งความอิ่มเอมอยู่ลึก ๆ …หึหึ..เขาเคยต่อสู้มือเปล่ากับเจ้าเสือดำที่มาทำร้ายบุญคำเมื่อกระทู้ก่อนด้วยท่าบอสตันแครปที่จำมาจากมวยปล้ำในยูบีซีชนะอย่างง่ายดายมาแล้ว ท่ามวยปล้ำที่เขาแอบจำมานั้นสามารถใช้ต่อสู้ได้กับผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่าตนเองถึง 10 เท่า ดังนั้นกะอีแค่เสือสิงห์กระทิงแรดสำหรับเขานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เขามั่นใจว่าคนแรกที่จะชนะสัตว์ร้ายและได้รับพรวิเศษจากทวยเทพไปคือเขาแน่นอน

คี๊ธคิดสะระตะใคร่ครวญในใจอย่างรวดเร็วว่าสัตว์ร้ายชนิดไหนที่ตนเองน่าจะชนะได้ง่ายที่สุด จะได้เลือกตัวนั้นให้มาต่อสู้ด้วย ถ้าเป็นไปได้เขาคิดว่าน่าจะเป็นสิงโตที่เขาควรจะเลือกมาต่อสู้ด้วย เพราะสิงโตตัวเล็กกว่ากระทิงและแรดมาก ความว่องไวก็น่าจะน้อยกว่าเสือ คิดได้ดังนั้นเขาจึงค่อยเบาใจขึ้นบ้าง และคิดว่าเขาเองตัวใหญ่ที่สุดในบรรดาหนุ่ม ๆ ทั้ง 4 คน คนที่ชนะคนแรกน่าจะเป็นเขา

แงซายและไชยยันต์ดูภายนอกมีท่าทีมั่นอกมั่นใจในชัยชนะ แต่ลึก ๆ แล้วในใจกำลังวางแผนต่อสู้กับเสือสิงห์อย่างเคร่งเครียด แงซายนึกถึงมนตราภาษากุโบ๊ธที่เคยศึกษามาว่ามีบทใดบ้างที่จะเป่าเสกนะจังงังให้เจ้าสัตว์ร้ายได้บ้าง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ในขณะที่ไชยยันต์คำนวณว่าต้องยิงปืนเข้าจุดใดของกระทิงจึงจะทำให้กระทิงตายได้ในนัดเดียว แต่เมื่อนึกได้ว่าต้องต่อสู้มือเปล่าก็อดถอนใจเฮือกออกมาไม่ได้

จาก : แสงโสม - 09/06/2002 09:51

แต่แล้วด้วยสปิริตความเป็นผู้นำของคณะเดินทางจอมพรานรพินทร์ ไพรวัลย์จึงทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ เขาเดินเข้ามาหาเพื่อนร่วมคณะและอธิบายวิธีและขั้นตอนของมวยปล้ำท่าบอสตันแครปให้กับทุกคนได้รับรู้เพื่อใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายที่จะถูกส่งมาประลองยุทธด้วย หลังจากใช้เวลาจดจำและฝึกฝนท่ามวยปล้ำกันอยู่พักใหญ่ทั้งสี่คนก็เริ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้าด้วยความมั่นใจ ทุกคนต่างคิดออกแล้วว่าตนเองจะทำวิธีไหนจึงจะสู้จนชนะสัตว์ร้ายได้เป็นคนแรก

“พวกท่านพร้อมแล้วหรือ”

เทพพฤหัสบดีตรัสถาม ก่อนจะมอบหมายให้บริวาลเทพเข้าไปตรวจสอบแต่ละคนว่ามีอาวุธติดตัวหรือไม่ หลังจากตรวจสอบแล้วไม่พบอาวุธใด ๆ คี๊ธก้าวนำอย่างมั่นใจเข้าไปในสนามเป็นคนแรก ตามด้วยแงซาย รพินทร์ และไชยยันต์ ประตูสนามแข่งขันปิดลงทันทีที่เหล่านักสู้เข้าไปภายใน ในขณะเดียวกันบรรดาแม่หญิงทั้งหลายก็กรูกันเข้าไปจองที่นั่งบนอัฒจรรย์เพื่อคอยชมการต่อสู้ของเหล่าผู้กล้า Gladiator พร้อมกับเหล่าทวยเทพ

“ไอเข้ามาในสนามเป็นคนแรกนะ ไอขอเลือกสัตว์ที่จะมาต่อสู้ก่อน ไอเลือกสิงโต”

คี๊ธเรียกร้องสิทธิในฐานะที่เข้ามาเป็นคนแรก พรรคพวกที่เหลือจึงจำใจพยักหน้าให้อย่างเสียไม่ได้ แต่ยังไม่ทันที่คนอื่น ๆ จะเลือกสัตว์ร้ายมาต่อสู้ สุรเสียงขององค์พระคเณศก็ลอยมาจากอัฒจรรย์เบื้องบน

“พวกท่านไม่ต้องเสียเวลาเลือกกันอยู่หรอก สัตว์ร้ายที่จะถูกส่งเข้ามาสู้กับพวกท่านนั้น มีอยู่ชนิดเดียวเท่านั้น พวกท่านจะได้ต่อสู้มือเปล่ากับสัตว์ชนิดเดียวกันโดยไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ”

แงซายเหลียวมองไปรอบ ๆ สนามประลองที่กว้างใหญ่และสูงลิ่วพลางร้องถามองค์พระคเณศ

“แล้วสัตว์ร้ายชนิดไหนที่พระองค์ท่านจะส่งมาเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราล่ะเจ้าข้า”

องค์พระพิฆเณศวร์ทรงสรวลแผ่วเบาก่อนจะเอื้อนพระโอษฐ์ลอยลมมาจากบนอัฒจรรย์

“ไทรันโนเซารัส”

“หาาาาาา……….ไ ท รั น โ น เ ซ า รั ส !!!!!!”

ทั้งสี่หนุ่มร้องตะโกนลั่นออกมาอย่างพร้อมเพียงกัน จอมพรานเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งแปะกับพื้นอย่างหมดแรง คี๊ธวิ่งไปที่ประตูสนามพร้อมกับตะกุยตะกายขอออกนอกสนาม แงซายหยิบเอาแผ่นหนังตำราพระเวทย์ออกมาอย่างลุกลี้ลุกลนจนตำราตกกระจายลงกับพื้น ในขณะที่ไชยยันต์หน้าซีดเผือดล้วงพระเครื่องจากคอขึ้นมาจบพนมพร้อมกับปลุกเสกละล่ำระลัก

จาก : แสงโสม - 09/06/2002 09:52

เหล่าแม่หญิงบนอัฒจรรย์นั่งนิ่งเงีบบตะลึงงัน ดาริน มาเรีย และอิสซาเบลนั่นเบียดกันด้วยความเป็นห่วงหนุ่ม ๆ คู่รักของตนเองที่อยู่ในสนามประลอง ฝ่ายสาวน้อยพลับพลึงที่นั่งตาแป๋วมองดูในสนามอยู่เอ่ยถามคริสติน่าเสียงใส

“พี่คริสคะ ไทรันโนเซารัสเป็นยังไงเหรอคะ ทำไมพวกลุง ๆ ทั้งหลายเค้าดูท่าทางกลัวกันจังเลยล่ะคะ”

คริสติน่ากลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากก่อนจะตอบคำถาม

“ไทรัสโนเซารัส เรียกสั้นๆ ว่าทีเร็กซ์ จ้ะ เป็นไดโนเสาร์ที่ดุร้ายมาก กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร มีความยาวประมาณ 48 ฟุต สูงประมาณ 20 ฟุต ลักษณะเป็นต้นแบบของไดโนเสาร์ทั้งหลายที่เรารู้จัก หัวโต ตัวใหญ่ ขาหน้าเล็กและสั้น มีกรงเล็บแหลมคมยาวถึง 8 นิ้ว มีน้ำหนักประมาณ 7 ตันครึ่ง เจ้าทีเร็กซ์มีชีวิตได้ ด้วยการกินไดโนเสาร์ที่อ่อนแอกว่าเป็นอาหาร ขนาดไดโนเสาร์ตัวใหญ่ ๆ เจ้าทีเร็กซ์นี่ยังกินหมดตัวได้ไม่เหลือเลยภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เฮ้อ…พวกลุง ๆ ของพลับพลึงท่าจะแย่แล้วละ”

สาวน้อยพลับพลึงได้รู้เรื่องก็ยกมือขึ้นปิดใบหน้าพร้อมกับอุทานออกมาอย่างตกใจและเป็นห่วงชาวคณะ แม่มดพันปีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คริสติน่าเอื้อมมือมาตบไหล่พลับพลึงเบา ๆ อย่างปลอบใจ

“คงไม่เป็นไรหรอกน่ะพลับพลึง พวกหนุ่ม ๆ นี่เค้าเป็นพระเอกอยู่แล้ว ไม่เจ็บไม่ตายง่าย ๆ หรอก แล้วเค้าก็คงเอาตัวรอดกันได้ล่ะนะ ไม่ต้องเป็นห่วง”

แม่มดพันปีมองไปเห็นม่ายสาวเจ้าเล่ห์แสงโสมนั่งดูชาวคณะอยู่บนอัฒจรรย์ด้วยท่าทีไม่อนาทรร้อนใจอะไรกับใครเขาเท่าไหร่ มีป๊อปคอร์นตะกร้าใหญ่อยู่ในมือ ปากก็เคี้ยวหยับ ๆ ไปด้วย แม่มดเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ และฉวยโอกาสคว้าป๊อบคอร์นมาชิมด้วยดื้อ ๆ

ด้านล่างบริเวณสนามแข่งขัน จอมพรานที่นั่งแปะอยู่กับพื้นสนามขบกรามกรอด ก่อนจะค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นอย่างยากเย็นพร้อมกับควักยาดมตราเจ้าคุณออกมาจากกระเป๋าเสื้อยกขึ้นมาดมอยู่พักใหญ่ เสียงคี๊ธร้องโว้กเว้กออกมาบริเวณประตูทางเข้าที่ถูกปิดสนิทอยู่

“ไอสละสิทธิค๊าบบบ ไม่เอาแล้วพรวิส่งวิเศษอะไรนั่นน่ะ”

“ฮืมม์…..เหล่าผู้กล้า Gladiator ทั้งหลาย ประตูทางเข้าสนามแข่งขันถูกปิดลงแล้ว ประตูทางออกจะเปิดขึ้นก็ต่อเมื่อการต่อสู้ยุติลง พวกท่านจงเตรียมตัวให้พร้อมเถิด ขณะนี้ ประตูทางเข้าของบรรดาสัตว์ร้ายกำลังจะเปิดออกมาแล้ว”

สิ้นสุรเสียงขององค์พระคเณศ ประตูทางเข้าของสัตว์ร้ายด้านตะวันตกของสนามก็ค่อย ๆ เคลื่อนเปิดขึ้นอย่างช้า ๆ เสียงแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น พร้อมกับฝุ่นควันที่ปลิวกระจายคว้างด้านหน้าประตู เจ้าทีเร็กซ์ร่างขนาดตึก 3 ชั้นกำลังเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาในสนามอย่างดุร้ายและหิวโหยเนื่องจากถูกอดอาหารมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว…..รพินทร์ แงซาย ไชยยันต์ และคี๊ธ พากันยืนนิ่งตัวแข็งกันอยู่กลางสนามประลอง……....


จาก : แสงโสม - 09/06/2002 09:53



กลัวจัง ... อุ๊ย....กลัวจัง..

ป้าแสงโสมจะเอากิ้งก่ายักษ์มาปล้ำกับพระเอก..ฮิ..ฮิ..

วุ้ยยยยยยยยย ..กลัว..


จาก : คี๊ธ .. สุดหล่อในปฐพี - 09/06/2002 20:55

ด้วยความแค้นแน่นอุระ พระมหาเทวีซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งชมชั้นเฟิร์ส คลาสจึงแอบขยิบตาให้กับที-เร็กซ์ตัวหนึ่งในสนามประลอง มันเป็นตัวที่อยู่ใกล้จอมพรานมากที่สุด เจ้าทีเร็กซ์ที่แต่เดิมมีสายตากระหายเลือดนั้นพลันเปลี่ยนเป็นกระหายอย่างอื่นในทันใด นัยน์ตาของมันฉําเยิ้มพิศวาสขณะก้มลงไปมองรพินทร์ นําลายไหลยืดลงอาบร่างจอมพราน
"เฮ้ย!!!!!..........อะไรวะ.........เป็นไรน่ะเอ็ง"
เมื่อเห็นเจ้าไดโนตัวโข่งทำตาหวานใส่ จอมพรานหน้าเสียรีบตะกุกตะกายล้มลุกคลุกคลานหนี

"ก๊าซซซซ..กี๊ซซซ....(sweetttt....honeyyy....)"

มันวิ่งไล่รพินทร์อย่างดุเดือดท่ามกลางเสียงเชียร์กันลั่นของทั้งคนและเทพที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ประหนึ่งว่ากำลังชมฟุตบอลโลกรอบตัดเชือกก็ไม่ปาน เจ้ายักษ์ก้มลงงับอย่างไม่รุนแรงนัก คมเขี้ยวจึงเพียงแค่เฉี่ยวร่างของจอมพรานไปหวุดหวิด แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนร่างขาดวิ่นพอวิ่งไปได้อีกสามก้าวก็ขาดหลุดออกทันทีเหลือแต่ก็เพียงหมวกคู่ใจกับกางเกงในเก่าหลวมโพรกเพราะยางยืดเสื่อมสภาพเกาะติดบั้นท้ายอยู่ สร้างเสียงฮือฮากระหึ่มขึ้นบนอัฒจันทร์อย่างช่วยไม่ได้
"ปุฮิ.....รพินทร์ของชั้นหุ่นไม่เลวละซี้ท่านเทพไททั้งหลาย"
ดารินร้องออกมาหน้าบาน ด้วยความภาคภูมิใจ

"เค้าเป็นของเธอเมื่อไหร่ยะ แต่ที่แน่ๆเค้าเป็นของชั้นแล้วย่ะ"
เบลขัดขึ้นเสียงเขียว

"พูดอะไรน่ะไม่อายปากบ้างอย่างงี้มันน่า......."
ทั้งสองกระโจนเข้าหากันและเริ่มจิกข่วนกันพัลวัน
พลับพลึงเห็นท่าไม่ดี จึงล้วงมือเข้าไปในผ้าคลุมของแม่มดพันปีคว้าเอาขนรักแร้ที่ถักเป็นหางเปียผูกโบว์เอาไว้อย่างดีออกมา ยัดเข้าไปที่กึ่งปากกึ่งจมูกของคู่ต่อสู่สาวคนละที ส่งผลให้ดารินและเบลสลบไปตั้งแต่หัวยังไม่ถึงพื้น
"ฮึๆ ดีๆรู้จักใช้อุปกรณ์รอบตัวให้เป็นประโยชน์ ใช้ได้ๆ"
แสงโสมเอ่ยชมเบาๆ ในขณะที่แม่มดพันปียังคงไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั่งเคี้ยวป็อบคอร์นเยิบๆ


ข้างฝ่ายเหล่าทวยเทพพระเสาร์หันไปกระซิบงึมงัมกับพระราหูที่นั่งอยู่ข้างๆทำให้พระลักษมีที่นั่งอยู่ใกล้ๆทรงพลอยได้ยินไปด้วย
"ว้ายเจ้าพี่อุมาเพคะ เป้ากางเกงในเจ้าพรานนั่นขาดละเพคะ วุ้ยเป็นรูเบ้อเร่อแน่ะอย่างนี้เดี๋ยวได้ดูระบำช้างน้อยกันแน่เพคะ"
"5ๆอย่าดูถูกเชียวนะน้องลักษม์ เห็นจนๆซอมซ่ออย่างนี้แต่ลีลาเยี่ยมเชียวละน้องเอ๋ย ตอนแสดงโชว์ให้พี่ดูนี่มีแววมากกว่าใครๆเลย"
"งั้นจบงานนี้เห็นทีคงต้องให้โชว์เป็นการส่วนตัวแล้วเพคะ คึ คึ.."
พระสุรัสวดีที่ประทับอยู่อีกข้างของพระอุมาเอ่ยยิ้มๆ และซุบซิบกันต่อไปอย่างออกรสเมื่อพระอุมาเล่าถึงลีลาเด็ดของรพินทร์ให้ฟัง


ในขณะที่เทพทั้งหลายกำลังพูดถึงเขาอยู่นั้นรพินทร์ก็จามออกมาเป็นชุด"ฮัดเช้ย......ฮัดเช้ย" โดยที่ไม่ต้องมีใครบอกเขารู้ทันทีว่าตนเองกำลังโดนนินทาอยู่เนื่องจากลมที่โกรกเข้ามาทางรอยขาดขนาดใหญ่ของเป้ากกน. จอมพรานรู้สึกอับอาย+เสียหน้าอย่างสุดๆจึงหยุดวิ่ง
พลอยทำให้เจ้าไดโนยักษ์ที่วิ่งกวดตามมาหยุดมองอยู่อย่างงงๆ
"เออก็ตูมันจนนี่.......จริงๆก็อยากจะใส่แบบว่า...ลายเสือดาวของกุชชี่อะไรเงี้ย แต่จะให้ทำไงเล่าว้อย..เคยเอาหนังเสือดาวที่ยิงได้มานุ่งก็คันชิบ.....ว้อยย......ทำไมเกิดมาจนอย่างงี้....ว้อยยยยย......"
จอมพรานกระฟัดกระเฟียดฟาดหัวฟาดหางแบบคลุ้มคลั่งในปมด้อยของตัวเองขึ้นมาอย่างกระทันหัน ถึงกับลงมือฉีกทึ้งกางเกงในของตนออกมาเหวี่ยงทิ้งกับพื้น
"ว้อยย......ทุเรศไม่ส่งไม่ใส่มันแล้วว้อย"พร้อมทั้งกระทืบซําอย่างขัดใจ
"ฮืออ.......ฮา.........."เสียงเซ็งแซ่ไปทั้งโคลีเซียมจำลองเพราะตกตะลึงกับความใจกล้าหน้าด้านของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเอก
จอมพรานหารู้ไม่ว่าการกระทำตรงหน้ายิ่งกระตุ้นยั่วยุให้เจ็ที-เร็กซ์อินเลิฟเคลิ้มหนักเข้าไปอีก ตอนนี้นําลายของมันไหลนองพื้น กินพื้นที่อย่างตําร่วมตารางกิโลเมตรเข้าไปแล้ว มันก้มลงงับอีกครั้งในขณะที่แงซายฟุ่งเข้ามารวบร่างรพินทร์กลิ้งหลบไปได้
คว้ากก...................เสื้อผ้าของแงซายขาดติดปากเจ้าที-เร็กซ์ไปด้วยอีกคน
ทำให้เสียงฮือฮาดังยิ่งกว่าคราวรพินทร์เนื่องจากความหล่อลําของเจ้าคนดง จอมพรานไม่พอใจอย่างยิ่งที่ถูกแย่งบทเด่นไป
"ไอ้แงซาย....มาช่วยทำไมฟะตูหลบเองก็ด้ายยย..."เขาตะโกนออกมาอย่างโกรธๆ

"because............"

แงซายลุกขึ้นด้วยร่างกายเปลือยเปล่า(ไม่เคยใส่กกน.อยู่เป็นนิจ) ยืนจังก้าขวางอยู่ระหว่างจอมพรานกับเจ้าทีเร็กซ์ซึ่งกำลังคำรามลั่นด้วยความหึงหวง
ยิ่งบรรยากาศคล้ายโคลอสเซียมอย่างนี้ยิ่งส่งเสริมให้ใบหน้าสไตล์กรีก-โรมันของเขาดูเท่ห์ขึ้นไปอีก กล้องจับไปที่ใบหน้าของแงซาย
เจ้ากะเหรี่ยงโรมันทำเสียงตําๆแบบในหนัง
" my name is GLADIATOR..............."

จาก : อุมาเทV - 10/06/2002 04:14

^_^ เกาะขอบจออีกตามเคย
มาทีมุขเพียบเลยนะคะ คุณแสง คุณแม่มด กะพระแม่เจ้าอุมาเทV อิอิ...

จาก : คริสติน่า - 10/06/2002 12:30

ไชยยันต์ อนันตรัย วิ่งไปนั่งหลบมุมอาราธนาพระเครื่องที่ห้อยคออยู่ตรงริมขอบกำแพงฝั่งตะวันออก ระหว่างที่กำลังหลับหูหลับตาพนมมือปลุกพระเร่า ๆ อยู่นั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงลมร้อนผ่าวที่มากระทบเบื้องหลัง นายทหารปืนใหญ่หันขวับไปมอง แล้วก็ต้องร้องจ๊ากกกออกมาทันทีเมื่อใบหน้าของตนเองไปจ๊ะเอ๋เข้าอย่างจังกับใบหน้าของเจ้าทีเร็กซ์ตัวเขื่องที่กำลังก้มลงมองดูด้วยความสงสัยว่ามนุษย์คนนี้กำลังทำอะไรพิลึก ๆ อยู่เนี่ย

พ.ต.หนุ่มร้องจ๊ากซ์อีกครั้งก่อนจะตั้งสติได้ ด้วยความที่เป็นหทารเก่ามาก่อน ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นวิ่งลัดเลาะหลบมุมไปตามกำแพง เจ้าทีเร็กซ์ตัวเขื่องที่เมื่อกี้ก็สะดุ้งเฮือกเหมือนกันเมื่อได้เห็นใบหน้าอันซีดเผือดแถมยังไม่หล่อ (ฮ่าๆ) ของมนุษย์ตัวจ้อย ก็เริ่มได้สติขึ้นมาด้วย มันแยกเขี้ยว อ้าปากคำรามลั่นด้วยความเสียดายและโมโหหิวที่ไม่ได้เขมือบอาหารที่อยู่ตรงหน้าเมื่อกี้ไปซะ ก่อนจะวิ่งไล่ตามไชยยันต์ไปติด ๆ ด้วยดวงตาอาฆาตมาดร้ายกระหายเลือด

ระหว่างที่นายทหารปืนใหญ่กำลังวิ่งหนีอย่างเหนื่อยหอบไปรอบสนามโดยมีเจ้ากิ่งก่ายักษ์ตามไล่ล่าอ้าปากงับอยู่ฉับ ๆ นั้น ราวกับสวรรค์จะแกล้งอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ ชายหนุ่มเกิดวิ่งสะดุดขาของตัวเองเข้าอย่างจัง เขาล้มกลิ้งโค่โร่ลงทันที ใบหน้าถลาครูดกับพื้นสนามอย่างแรง (สงสัยจะเสียโฉมด้วยนะเนี่ย) เจ้ากิ่งก่ายักษ์ที่วิ่งตามหลังมาหยุดชะงักกึก อ้าปากร้องกว๊าก ๆ อย่างยินดีที่เห็นคนล้มอยู่ตรงหน้า ก่อนจะก้มหน้าลงมาหาร่างของไชยยันต์
ที่นอนกลิ้งอยู่เบื้องหน้าราวลูกไก่ในกำมือ

ไชยยันต์ อนันตรัย ดิ้นรนหนีอย่างสุดชีวิต แต่ก็โดนขาของเจ้าทีเร็กซ์ไล่ตะปบขนาบข้างซ้ายขวาจนเขาไม่สามารถหนีได้ พต.หนุ่ม ถอยร่างหนีไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว แต่..โอ้..หลังของเขาชนผนังกำแพงของสนามประลองยุทธนั้นแล้วไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก….. เจ้าทีเร็กซ์แสยะยิ้มออกมาเมื่อเห็นเหยื่อไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป มันคำรามลั่นพร้อมกับก้มหน้าลงมาหาร่างของเขาด้วยความหิวโหย

อาาา…..นายทหารปืนใหญ่ของเราจะมาสิ้นชื่อ (เหมือนทีมฝรั่งเศส) กันในภาคนี้ละหรือ……..


จาก : แสงโสม - 11/06/2002 15:48

บนอัฒจันทร์ บรรดาแม่หญิงทั้งหลายกำลังดูการต่อสู้ของเหล่าผู้กล้าด้วยใจระทึก เสียงร้องวี๊ดว๊ายดังขึ้นเมื่อเห็นเหตุการณ์สับสนอลหม่านเบื้องล่าง ดารินเริ่มฟื้นขึ้นมาจากยาสลบของพลับพลึงเมื่อสักครู่นี้ พอได้เห็นว่ารพินทร์ยอดดวงใจและน้องชายสุดรักกำลังอยู่ในสถานการณ์อันหมิ่นเหม่ ราชนิกูลสาวก็ถึงกับต้องร้องกรี๊ดและเป็นลมสลบไปอีกครั้ง

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังชุลมุนสับสนอลหม่านอยู่นั้น สาวน้อยพลับพลึงจอมซนก็เดินมาสะกิดแขนของคริสติน่าเบา ๆ
"พี่คริสคะ ไปดูอะไรกับพลับพลึงหน่อยเร๊วว"

คริสติน่ากำลังนั่งเกาะขอบจอของอัฒจันทร์จ้องดูเหตุการณ์ในสนามอยู่ตาไม่กระพริบด้วยความติดพันจึงปัดมือของสาวน้อยออกโดยไม่มองหน้า
"พี่ยังไม่ว่างเลย พลับพลึงไปชวนคนอื่นได้ไหม พี่จะดูพวกผู้ชายเขากำลังต่อสู้กันอยู่"

"อะโด้.….สู้เส้ออารายกันคะ พี่คริส พลับพลึงไม่เห็นเขาต่อสู้ตรงไหน เห็นแต่วิ่งหนีกันจ้าละหวั่นอยู่นั่นน่ะ ไม่เห็นหนุกเลย พี่คริสไปดูอะไรกับพลับพลึงหน่อยนะ เมื่อกี้ไปชวนน้าแสง น้าเค้าก็ไม่ไปด้วย พี่คริสไปกับพลับพลึงหน่อยเหอะนะคะ อย่าเกาะขอบจอดูอยู่อย่างเดียวเลย ไปนะคะ แป๊ปเดียวเอง นะๆๆๆ"

สาวน้อยอ้อนวอนพร้อมกับดึงมือคริสติน่าไปมา ทำให้แม่สาวผมทองต้องละสายตาจากภาพในสนามหันมาหาเด็กสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น
"เอ้า..ไปก็ได้ รีบไปรีบมานะ ไหนจะพาพี่ไปดูอะไร"

พลับพลึงจอมซนยิ้มออกมาอย่างดีใจ รีบจูงมือคริสติน่าเดินอ้อมด้านหลังของแม่มดพันปีกับแสงโสมที่ยังคงนั่งติดตามดูสถานการณ์ในสนามอย่างติดพันด้วยความตื่นเต้นเร้าใจจนป๊อปคอร์นหมดไปครึ่งตะกร้าแล้ว สาวน้อยพาคริสน่าเดินลัดเลาะไปตามอัฒจันทร์ห่างจากกลุ่มของที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสออกไปอีก พระนางอุมาเทวีเห็นสองสาวเดินลับๆ ล่อๆ อยู่ใกล้ ๆ ก็มองดูอย่างฉงนครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรหันกลับไปดูในสนามต่อ

พลับพลึงพาคริสติน่าเดินมาไกลพอสมควรจนถึงขอบอัฒจันทร์ด้านฝั่งตะวันตก ใกล้ ๆ กับประตูทางเข้าของเหล่าสัตว์ร้าย คริสติน่ากำลังจะอ้าปากทักท้วงว่ามาไกลเกินไปแล้ว พลับพลึงก็ชี้มือให้มองไปที่ขอบอัฒจันทร์เบื้องหน้า ชั้นบนสุดของอัฒจันทร์มีแผ่นวงกลมขนาดใหญ่วางอยู่บนพื้น ดูลักษณะเหมือนแผ่นอลูมิเนียมบางและเบา คริสติน่าจ้องมองอย่างฉงง

"พลับพลึงรู้ได้ไงจ๊ะ ว่ามีแผ่นนี้อยู่ที่นี่น่ะ"

"ตอนที่เดินเข้าสนามมา พลับพลึงมองเห็นเงากลม ๆ แว๊บ ๆ สะท้อนกับดวงอาทิตย์อยู่แถว ๆ นี้น่ะค่ะ สงสัยว่าเป็นอะไรก็เลยอยากมาดู มันคืออะไรคะพี่คริส"

คริสติน่ากัดริมฝีปากนิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ ส่ายหน้าอย่างไม่แน่ใจ แล้วก็เดินเข้าไปตรงตำแหน่งที่แผ่นวงกลมนั้นวางอยู่ แม่สาวผมทองยืนนิ่งชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ขยับแผ่นวงกลมนั้นให้เลื่อนเปิดขึ้นช้า ๆ เมื่อแผ่นวงกลมนั้นเปิดจนหมดแล้ว ทั้งสองสาวก็มองเห็นว่าภายใต้วงกลมนั้นเป็นโพรงกว้างขนาดตัวคนสองคนลอดเข้าไปได้อย่างสบาย ด้วยความซุกซน สาวน้อยพลับพลึงเข้าไปนั่งเมียง ๆ มอง ๆ อยู่ในโพรงนั้น เสียงคริสน่าร้องห้ามมาจากด้านนอกให้พลับพลึงออกมา แต่สายเกินไปเสียแล้ว จู่ ๆ สาวน้อยก็ร้องวี๊ดดดขึ้นมาและเลื่อนตัวผลุบหายเข้าไปในโพรงนั้น

ด้วยความตกใจคริสติน่าวิ่งพรวดเข้าไปในโพรงนั้นทันที ปากก็ร้องตะโกนเรียกพลับพลึง แต่แล้วชั่วเสี้ยววินาทีตัวของหล่อนเองก็ล้มกลิ้งลงกับพื้นภายในโพรงนั้น แล้วก็ลื่นไถลเข้าไปในโพรงตามหลังสาวน้อยพลับพลึงไปติด ๆ ทั้งสองคนส่งเสียงวี๊ดว๊ายระงม แต่เนื่องจากอยู่ไกลจากชาวคณะมากเกินไป จึงไม่สามารถทำให้ชาวคณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการต่อสู้ในสนามได้ยินเสียงร้องของทั้งสองคนได้

ชั่วเวลาไม่เกินสองนาทีร่างของพลับพลึงก็หล่นตุ๊บลงไปบนพื้นนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ ระหว่างที่เจ้าตัวกำลังพยายามยันตัวลุกขึ้น แม่สาวผมทองที่ลื่นไถลตามมาติด ๆ ก็หล่นโครมลงมาอยู่ใกล้ ๆ กัน เฉียดร่างของพลับพลึงไปหวุดหวิด สาวน้อยหัวเราะเสียงใส

"สนุกจังค่ะพี่คริส ยังกะสไลเดอร์ยักษ์เลยอ่ะ"

"อย่ามัวแต่เล่นอยู่เลยน่าพลับพลึง ดูซิที่นี่ที่ไหนกันเนี่ย"

ทั้งสองคนมองไปรอบ ๆ ก็ได้เห็นว่าตนเองตกจากปล่องบนอัฒจันทร์ชั้นสูงสุดนั้นมาอยู่บนสนามหญ้ากว้างใหญ่ด้านนอกของสนามประลองยุทธ เสียงโห่ฮาของกองเชียร์ยังคงดังมาให้ได้ยินอยู่แว่ว ๆ สองสาวตกลงกันว่าจะหาทางกลับเข้าไปข้างในสนามใหม่ ระหว่างที่กำลังจะเดินไปนั้น จู่ ๆ พลับพลึงก็ร้องกรี๊ดดดขึ้นมา คริสติน่าเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ใจหายวูบ เจ้าทีเร๊กซ์ผอมกะหร่องท่าทีเหมือนขาดสารอาหารสองตัวยืนแยกเขี้ยวจังก้าอยู่ด้านหน้า

"ว๊ายยย!!!! พี่คริสขา ทำไมมีไดโนเสาร์อยู่ตรงนี้ด้วยล่ะคะ"

"ก้อเราตกลงมาตรงฝั่งที่เค้ากักเจ้าสัตว์ดุร้ายพวกนี้ไว้ก่อนจะเข้าสนามไงพลับพลึง พี่กำลังจะอ้าปากห้ามอยู่แล้วตอนอยู่ข้างบนน่ะ…แม่ตัวดี…… แม่จอมซน…. เป็นไงได้เรื่องเลยมั๊ยล่ะเนี่ย…..วิ่งเร๊ววววว….หนีกันเถอะ….วิ่งๆๆๆๆๆ"

คริสติน่าฉุดกระชากให้พลับพลึงวิ่งหนีไปด้วยกัน สองสาววิ่งหนีไปทางด้านซ้าย แต่เจ้าทีเร็กซ์ตัวหนึ่งก็วิ่งมาปิดทางไว้ ทั้งสองคนหันหลังกลับวิ่งมาทางด้านขวาก็โดนอีกตัวหนึ่งวิ่งมาดักสกัด ทั้งสองคนวิ่งวนไปมาจนเหนื่อยหอบ ในที่สุดสาวน้อยพลับพลึงก็ร้องกรี๊ดดเต้นเร่า ๆ ด้วยความตกใจ

"พี่คริ๊ส…..พี่คริส….. เราจะเอาไงกันดีคะเนี่ย…"


จาก : แสงโสม - 11/06/2002 16:33

แง้ว.......!!! ไหงเหลือเราอยู่กันประสาสาวๆอย่างงี้อ่ะคุณโสม ว่าแต่นี่พวกผู้ชายเอาแต่ดูบอลรึไง อย่าลืมช่วยกันเชียร์โปรตุเกสนะจ๊ะเพื่อพ่อหนูบาย่า โกที่น่ารักที่สุดในศตวรรษ *.*

จาก : อุมาเทV - 12/06/2002 08:04

คุณอุมาฯ แบบว่าคงไม่ใช่คอเดียวกันล่ะมั้ง เพราะมวยปล้ำที่แม่มดได้ดูครั้งสุดท้ายนี่ก็สมัย ดัมป์ มัตซึโมโต้ (คงสิบกว่าปีแล้วล่ะ)


จาก : แม่มดพันปี - 12/06/2002 09:09


ยังไม่ทันที่คริสติน่าผู้น่าสงสารจะทันได้ตอบคำถามของหนูน้อยพลับพลึง เสียงของผู้บรรยายในสนามก็ดังขึ้น

"เอาล่ะครับ ในที่สุดเราก็ได้ผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 คน ขอเสียงปรบมือให้กับทั้งคู่ด้วยครับ"

ผู้ชมในสนามพากันปรบมือ กระทืบเท้า เป่าปาก กันตามแต่ใครจะถนัดแบบไหนจนดังสนั่น ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่า 2 คนที่ว่าเป็นใครก็ตาม

"ผู้เข้าแข่งหน้าใหม่คนแรก คริสติน่าาาาาาาาาาา"

ทันใดนั้นเอง ที่ประตู T-REX ก็ปรากฎร่างของคริสติน่าวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ตามมาด้วยเด็กน้อยหัวชมพูซึ่งทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี จึงไม่มีใครแปลกใจเมื่อผู้บรรยายสนามประกาศต่อไปว่า

"ตามมาติดๆด้วยผู้เข้าแข่งคนที่สอง พลับบบ พลึงงงงง"

เสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่ว คนทั้งสนามหันมามองคนทั้งสองเป็นตาเดียว และที่เบื้องหลังของทั้งคู่นั้นเอง

"ครับ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เมื่อมีผู้เข้าแข่งเพิ่มมาสองคน ก็ต้องเพิ่มคู่ต่อสู้ให้สมน้ำสมเนื้อกัน ขอเสียงปรบมือให้กับ ไทรันนอซออออออ รัสสสสสสสส"

ในขณะที่คนดูพากันส่งเสียงเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว แต่บรรดาผู้เข้าแข่งขันในสนามดูจะไม่ได้ใส่ใจกับเสียงเชียร์แม้แต่น้อย ต่างหลับหูหลับตาวิ่งเพื่อเอาชีวิตรอดกันอย่างอุตลุต

"คริสกับพลับพลึงขี้โกง แอบเข้าไปแข่งแย่งพรกันสองคน ไม่ชวนกันบ้างเลย" แสงโสมบ่นงึมงำ แต่ก็ต้องเงียบไป เมื่อแม่มดพันปีบอกว่า

"อย่าไปอิจฉาสองคนนั่นเลย เข้าไปวิ่งแข่งกันหนี t-rex ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหน สู้มานั่งเชียร์อย่างนี้ไม่ได้หรอก"

เมื่อมีผู้เข้าแข่งเพิ่มขึ้น โต๊ะรับพนันก็ยิ่งทวีความคึกคัก แสงโสมซึ่งตั้งตัวเป็นเจ้ามือใหญ่จึงเลิกคิดจะเข้าไปแข่งด้วยแต่หันกลับไปสนใจกับธุรกิจตรงหน้าแทน

จาก : แม่มดพันปี - 12/06/2002 09:47

อ้าว.. คุณแสง ไหงมาเล่นกันเองยังงี้ล่ะ ธ่อ...
ตอนนี้เค้ากะลังเชียร์เยอรมันอยู่ กองหน้าหล่อๆ ท้างน้านเล้ย...

จาก : คริสติน่า - 12/06/2002 11:22

โธ่!!!! คุณคริสเก๊าะ….อย่าเพิ่งเชียร์บอลเพลินอยู่เลยค่ะ รีบเข้ามาต่อเรื่องโดยด่วน เอาชนะเจ้า T-rex ให้ได้เป็นคนแรก พวกผู้ชายจะได้อดได้พรวิเศษไงคะ รีบฉกฉวยมาเป็นของเราไว้ก่อน : D

แล้วที่สำคัญ แสงเป็นเจ้ามือใหญ่ตั้งโต๊ะรับพนันอยู่เนี่ย ต่อข้างคุณคริสกับพลานพลับพลึงไว้แล้ว เทหมดหน้าตักเลยด้วย ขืนแพ้เค้าละก้อ หมดตัวกันพอดี ฮ่าๆๆ แสงกับคุณแม่มดอุตส่าห์เขี่ยลูกบอลให้เตะเข้าโกแล้ว รีบเข้ามาต่อเร๊ววววว!!!
ไม่งั้นเดี๋ยวอีตารพินทร์ หรือคุณไชยยันต์ หรือคุณแงซายเข้ามาเราจะยุ่งนา

หลานพลับพลึงหายไปไหน รีบเข้ามาช่วยกันด่วนด้วยนะคะ ขืนแพ้ให้น้าต้องเสียพนันหมดตัวละก้อ น้าเอาเรื่องจริง ๆ ด้วย

คุณอุมาคะ พวกผู้ชายยังไม่เข้ามาตอนนี้เป็นโอกาสอันดีของเราค่ะ เราจะได้ยำไปได้เรื่อย ๆ เป็นที่เพลิดเพลินเจริญใจ คุณอุมาอยากยำอะไรเพิ่มเติมก็ต่อไปได้เรื่อย ๆ เลยนะคะตามใจชอบค่ะ (ระวังตัวไว้นี๊ดนึงอีตอนเค้ากลับมากันก็ละกันนะ.. แฮ่ๆๆ)

นู๋มิ้นเห็นว่าอยากจะเข้ามาเล่นด้วย ยินดีต้อนรับค่ะ เข้ามาต่อได้เลยนะคะอย่างที่พี่พลับพลึงเค้าบอกไว้


จาก : แสงโสม - 13/06/2002 08:38

ว๊าก........T.T
โปรตุเกสแพ้ไปแล้วทั้งๆที่เชียร์แทบขาดใจ ไม่มีมุขเหลืออยู่ในความรู้สึกของสาวน้อยที่จิตใจบอบชําอีกแล้วฮือๆไอ้พวกชอบเป็นขี้เรื้อน+หน้าหม้อ(ชอบเกา+ชอบหลี)ฮือๆ....ไอ้เลว จำได้กันมั๊ยว่าใครเคยช่วยไทยสร้างปืนหาถ้าไม่ใช่โปรตุเกส ใครเชียร์มัน(เกาหลี)ขอสาปให้กลายเป็นสางเขียว ว๊าก ไม่มีบาย่าแล้วเหลือแต่ราอูลว่าแล้วก็หันกลับมาเชียร์สเปนในทันใด...*.*............(..T.T..ยังร้องไห้อยู่ในใจ)

จาก : อุมาเทV - 16/06/2002 00:20

555 ขำคุณอุมาอ่ะ :D
ตอนนี้สเปนชนะแล้วหัวเราะได้ยางงงง
ให้เวลาทำใจ 3 วันนะคะ
ถ้ายังไม่หายแค้นเกาหลีก้อนึกซะว่านายรพินทร์หรือพวกหนุ่ม ๆ ในนี้เป็นตัวแทนทีมชาติเกาหลีไปพลาง ๆ ก่อนแล้วกัน ; p
(ฮ่าๆ แนะนำยังงี้อีตารพินทร์จะฆ่าแสงมั๊ยเนี่ย)

จาก : แสงโสม - 17/06/2002 08:59

ไม่ฆ่าหรอก ทำอย่างอื่นได้เป่า..
หึหึหึหึ
กลับมาแร้วววววว ธ่อสุภาพบุรุษท่านอื่นก็ไม่ยักเข้ามาแก้ไขสถานการณ์เลยนะเนี่ย

จาก : รพินทร์ ไพรวัลย์ - 17/06/2002 13:55

อยากแก้อยู่เหมือนกันครับ แต่ว่ายังนึกมุขไม่ออกน่ะ
ขออู้อีกสักอาทิตย์ก็แล้วกันน่า (รอบอลจบ)

จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 17/06/2002 23:53

กรี๊ดดด... Totti ตกรอบ แง้.........

จาก : คริสติน่า - 19/06/2002 11:51

หึ หึ ไอ้เกาหลีมันเอาอีกแล้ว........มันเขี่ยเดลปิเอโร่จังของชั้นตกรอบไปแล้ว(สงสัยผีอีตาคนที่เผาตัวเองเพื่อชาตินี่จะแรงนะ) ถ้าวันเสาร์นี้แกทำอะไรราอูลจัง+ศูนย์หน้าอีกคนที่หล่อๆ+โกหนุ่มวัย21สุดหล่อของสเปนละก็ ชั้นจะเผาตัวตายอีกคนเพื่อไปจัดการแกเอง..555........+.+.......
5555555..55(บ้าแล้ว.......อา..ขอโทษทีรู้สึกจะทำให้คล้ายกระทู้บอลเข้าไปทุกที55....ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์เฉยเลย)

จาก : อุมาเทV - 20/06/2002 01:24

เจ้าทีเร็กซ์จอมโหดคำรามลั่น อ้าปากก้มลงหมายจะงับร่างของไชยยันต์ซึ่งนั่งหลังชนฝาอยู่ อดีตนายทหารปืนใหญ่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเพื่อรักษาชีวิตของเขาไว้ เขาตะโกนลั่นเข้าใส่หน้าอันมหึมาของไทรันนอเซารัสที่อยู่ตรงหน้า

"บอลแพ้คนไม่แพ้โว้ย!!!"

ม่านตาของทีเร็กซ์จอมโหดหดแคบลงไปในทันใด มันตกใจถอยผงะออกไป เปิดโอกาสให้ไชยยันต์มีพื้นที่เพียงพอ เขาพุ่งปราดสวนเข้าหาร่างอันใหญ่โตมหึมาของมัน ลอดใต้ท้องของมันออกไปทางด้านหลังด้วยท่วงท่าดุจ "ราอูล" กระชากบอลหนีกองหลังคู่ต่อสู้
กว่าเจ้าทีเร็กซ์จอมโหดจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไชยยันต์ก็วิ่งไปจนถึงฝั่งอัฒจันทร์ทางด้านที่กองเชียร์นั่งลุ้นอยู่กันหน้าสลอน แต่ไม่สามารถขึ้นไปบนอัฒจันทร์ได้เพราะชั้นล่างสุดของมันก็สูงจากพื้นที่เขายืนอยู่ถึงกว่า 30 เมตร

ไชยยันต์ขบกรามแน่น นึกเจ็บใจที่โดนหลอกให้เข้ามาเป็นเหยื่อไดโนเสาร์ เขายืนหลังชิดผนังหอบหายใจถี่ๆพลางกวาดสายตาไปรอบๆ บนลานโล่งอันกว้างใหญ่นั้น เหล่าไทรันนอเซารัสกำลังวิ่งกันคึ่กๆไล่เหล่ามนุษย์ตัวจ้อยที่วิ่งหลบหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต ฝุ่นผงตลบอบอวลไปหมด
และแล้วเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นหนึ่งก็ดังใกล้เข้ามา ไชยยันต์เพ่งมองผ่านม่านฝุ่นอันหนาแน่นนั้นด้วยใจเต้นระทึก เงาดำทะมึนมหึมาค่อยๆปรากฏ ร่างมหึมาของเจ้าทีเร็กซ์ที่หิวโหยตัวที่ไล่เขาอยู่เดินย่างสามขุมตระหง่านแหวกม่านฝุ่นออกมา บัดนี้มันมองเห็นเขาแล้ว

"ซวยกันละงานนี้ หนีไปไหนก็ไม่ได้ ทำไงดีหว่า"
เขาบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาทางหนีทีไล่ ฉับพลันก็นึกอะไรขึ้นมาได้
ไวเท่าความคิด ไชยยันต์ถอดแหวนเพชรในมือที่มาเรียเคยให้ไว้ออกมา แล้วหันไปทางอัฒจันทร์ ชูมือชูไม้ร้องเรียกคนดู แม่มดพันปีเอียงหน้าเข้าไปกระซิบกับแสงโสมที่กำลังยุ่งอยู่กับบัญชีตรงหน้า
"ดู ดูพ่อไชยยันต์เข้าสิคุณแสง เมื่อกี้เห็นวิ่งจุ๊บแหวนที่มือด้วยแหละ คงนึกว่าตัวเองเป็นราอูลกระมัง นั่น ร้องเรียกมาทางเราแล้ว"

แสงโสมเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่งแล้วส่ายหน้า
"คงจะผิดหวังที่ราอูลตกรอบกลับบ้านไปก่อน ช่างเขาเถอะ นานๆเขาจะว่างมาทางนี้ทีนึงก็ปล่อยให้เขาได้แสดงบ้าง แสงไม่มีเวลาดูหรอกคุณแม่มด กำลังยุ่งกับเรื่องเงินๆทองๆ"

ฉับพลันแสงวาบของเพชรเม็ดโตที่สะท้อนแสงอาทิตย์ก็แว้บเข้าตาม่ายสาวทรงเครื่อง เรื่องเงินๆทองๆหรือทรัพย์สมบัติกับเธอมักถูกโฉลกกันเสมอ แสงโสมละสายตาจากการเขียนโพยตรงหน้า หันไปทางต้นแสง ซึ่งก็สะท้อนมาจากแหวนเพชรเม็ดใหญ่ที่ไชยยันต์ถือโบกอยู่

อา...นั่นมันโคตรเพชรที่เธอเคยเห็นไชยยันต์สวมอยู่ที่นิ้วนางมือซ้ายตลอดเวลา และเธอเองก็หมายตามันมาตลอด บางครั้งถึงขนาดยอมลงทุนเข้าไปใกล้ชิดอดีตนายทหารปืนใหญ่ผู้นั้น เพื่อหาโอกาสฉกแหวนราคาน่าจะหลักล้านวงนั้น

"คุณแสง...ได้ยินผมหรือเปล่า...คุณแสง...ผมไม่เคยขออะไรจากคุณเลย แต่คราวนี้ผมจะขอ และมันคงเป็นการขอครั้งสุดท้ายจากผม..."
ไชยยันต์หยุดเว้นจังหวะหอบหายใจพลางหันไปคอยสังเกตท่าทีของทีเร็กซ์ซึ่งกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆไม่รีบร้อน เนื่องจากเห็นว่าเขาไม่มีทางหนีไปไหนได้
แสงโสมวางปากกาลงทันที รีบร้องตะโกนตอบในขณะที่สายตาจับจ้องแหวนเพชรในมือไชยยันต์
"ค่ะๆๆๆ คุณไชยยันต์ จะขออะไรคะ"

ไชยยันต์ชูแหวนเพชรในมือ
"ผมกำลังตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับแหวนวงนี้ หรือว่าผมควรจะคืนให้เมย์ดี ช่วยผมคิดหน่อยเร็ว"

จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 22/06/2002 21:09

นัยน์ตาของแสงโสมเป็นประกายเจิดจ้าด้วยแสงสะท้อนของแหวนเพชร เธอหันไปมองทางมาเรียซึ่งนั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง และกำลังลุ้นรพินทร์ซึ่งกำลังหนีตายจากภัยไดโนเสาร์ฝุ่นตลบอยู่อีกด้านหนึ่งของกรงยักษ์โดยไม่ได้สนใจทางสามีสักนิด ม่ายสาวเจ้าเล่ห์รีบหันกลับมาทำท่านิ่งคิด
"เอ...จะทำไงดีน้อ...แสงว่า...เอ่อ...มันคงไม่เหมาะกับแสงหรอกค่ะคุณไชยยันต์..."
เธอหยุดไปนิดนึง "แต่ว่า ง่า...คุณเมย์เขาก็ท่าทางยังยุ่งๆ เอาเป็นว่า ฝากแสงไว้ก่อน แล้วแสงจะหาทางคืนให้คุณเมย์จะดีกว่านะคะ"

ไชยยันต์หันหลังไปแอบทำปากแบะก่อนจะหันกลับมา
"โอเคๆ ครับคุณแสง ผมไม่มีเวลามากนัก เวลาของผมกำลังจะหมดลงแล้ว...ได้โปรด อย่าลืมคืนให้กับเมย์ด้วยถ้ามีโอกาส"
"ค่ะๆๆๆ รีบโยนขึ้นมาสิคะคุณไชยยันต์"
แสงโสมรีบยืนขึ้นรอรับ ไชยยันต์โยนแหวนเพชรเม็ดงามขึ้นไปทันที แต่แทนที่จะโยนขึ้นไปให้ถึงแสงโสม เขากลับโยนขึ้นตรงๆห่างออกมาจากอัฒจันทร์ราวๆ 1 เมตร

แสงโสมร้องเอิ๊บ เอื้อมคว้าได้แต่อากาศ แหวนจึงตกลงไปที่ไชยยันต์เหมือนเดิม เธอจุ๊ปากจิ๊กจั๊ก
"โยนขึ้นมาให้ใกล้ๆหน่อยสิคะ อะไรกัน ไม่มีแรงหรือไง"
"ขอโทษทีครับคุณแสง ผมอาจจะเหนื่อยก็เลยโยนพลาดไปหน่อย เอาใหม่นะ"

โยนขึ้นไปอีก คราวนี้ใกล้เข้าไปอีกหน่อย แต่ม่ายสาวก็คว้าไม่ได้อยู่ดี เขาโยนขึ้นไปอีก 2-3 ครั้ง แต่มันเบนออกนอกทางไปหมด
"ว้า...." เธอลากเสียงยาว "โยนภาษาอะไรกันนี่ ให้มันตรงๆคนหน่อยสิคะ"

ไชยยันต์ซ่อนยิ้มไว้มิดชิด เขาโยนอีกครั้ง คราวนี้แหวนเพชรเม็ดงามพุ่งขึ้นเป็นเส้นตรงในแนวที่แสงโสมเอื้อมถึง แต่ความแรงของการโยนทำให้แหวนพุ่งเลยขึ้นไปเหนือศีรษะเธอ แสงโสมแหงนหน้ามองตามเอื้อมทั้งสองมือรอรับ แหวนตกลงมาที่มือในแบบสุดเอื้อมพอดี และพร้อมๆกับที่คว้าแหวนได้นั้นเธอก็เสียหลักลอยออกนอกอัฒจันทร์ในทันที

"ว้ายๆๆๆๆๆ!!"

ทุกคนต่างตกตะลึง หันมาดูร่างของม่ายสาวพราวเสน่ห์ที่ลอยละลิ่วอย่างสวยงามลงมาจากอัฒจันทร์ จากความสูงที่ทุกคนมองเห็นอยู่นี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเละ เธอไม่รอดแน่ๆ หลายคนตกตะลึงตาค้าง หลายคนหลับตาแน่นไม่กล้ามองภาพนั้น

ร่างของแสงโสมตกลงมาอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะถึงพื้นก็มีวงแขนแข็งแรงคว้าร่างของเธอไว้ได้อย่างเฉียดฉิว ไชยยันต์นั่นเองที่รับตัวเธอไว้ได้เพราะกะอยู่แล้ว แต่ด้วยน้ำหนักตัวของเธอก็ทำให้เขาเข่าอ่อนทรุดลงไปคุกเข่าเหมือนกัน

"ขอพลังจงอยู่คู่กับคุณ โชคดีครับคุณแสง"

ไชยยันต์พูดแล้วยักคิ้วทีนึง ปล่อยร่างของเธอลงนอนกับพื้นก่อนที่เขาจะถอยไปยืนชิดผนัง

ไทรันนอเซารัสก้าวเข้ามาถึงแล้ว มันสนใจกับเหยื่อใหม่มากกว่า เนื่องจากท่าทางจะเนื้อนุ่มรสโอชะกว่าเจ้ามนุษย์ผู้ชายเนื้อแข็งผู้นั้น มันคำรามลั่นแล้วก้มลงอ้าอากจะงับร่างของแสงโสมที่นอนนัยน์ตาเบิกโพลงร้องกรี๊ดๆอยู่ที่พื้น ไชยยันต์อาศัยจังหวะที่ทีเร็กซ์ตัวนั้นก้มลงต่ำ วิ่งเข้ามากระโดดขึ้นเหยียบที่หน้าของมันในทันที แล้วนั่งคุกเข่าบนสันจมูกพลางจับปากของมันไว้แน่น ทีเร็กซ์คำรามลั่นเปลี่ยนจากอาการจะงับร่างหญิงสาวมาเป็นสะบัดหัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงรอจังหวะนิดนึงไชยยันต์ก็ปล่อยมือหันหน้าไปทางอัฒจันทร์ในทันที ร่างของอดีตนายทหารปืนใหญ่ลอยละลิ่วขึ้นไปสูงถึงชั้นที่นั่งพอดี เขารีบคว้าขอบริมอัฒจันทร์ไว้ รีบพาตัวเองปีนป่ายขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆแม่มดพันปีซึ่งนั่งมองอ้าปากค้าง

"เฮ้อ วิ่งซะหอบเลยวันนี้"

เขาพูดแล้วหยิบข้าวโพดคั่วโยนใส่ปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 22/06/2002 21:10

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.............................สเปนของช๊าน..................................
(สติแตกโดยสิ้นเชิง)...........................

จาก : ทุรดาเทV - 23/06/2002 03:13

เอ่อ............................
แบบว่า ....................

งานนี้เราเชียร์เกาหลีง่ะ ..

จาก : แม่มดพันปี - 24/06/2002 22:03

แง้ว...+.+แม่มดพันปีใจร้าย เชียร์พวกขี้โกงทามมายอ้ะยิ่งดูสกู๊ปบอลย้อนหลังแล้วยิ่งแค้น ดีเลยเดี๋ยวจะใส่บทขนจั๊กแร้ให้เยอะๆเอาให้แบบว่าสยองสุดๆเลย

จาก : ทุรดาเทV - 25/06/2002 07:49

แหม. ....... แบบว่าชอบเชียร์มวยรองน่ะ
แล้วทีนี้เกาหลีแข่งทีไรเป็นรองทุกที เลยเชียร์มาเรื่อย

ปล. เกาหลีแพ้แล้ว แต่ไม่เป็นไร ไว้เชียร์ตุรกีแทนก็ได้

จาก : แม่มดพันปี - 25/06/2002 20:53

ไม่รู้จะเชียร์ทีมไรดีแล้ว.......
พิจารณาจากหน้าดาดีก่า....*.*
ถ้าตุรกีเข้ารอบสุดท้าย...ก็ต้องจ้องให้ชัดๆว่าใช้ได้รึเปล่า..ซี๊ด..ดด
แต่ถ้าบราซิลเข้าก็ขอเชียร์เยอรมันดีกั่ว พ่อเบอร์21นั่ใช้ได้ทีเดียว...
บราซิลหน้าตาโลว์บังมากกก เหยินเล็ก เหยินใหญ่อะไรก็ไม่รู้นสพ.ตั้งชื่อให้สุดจะเหมาะเลย สมกับตัวจริงๆ
(ปล. ขออภัยในเกณฑ์การเลือกเชียร์บอลของข้อย 55)

จาก : อุมาเทV - 26/06/2002 06:50

อิอิ.. คุณเจ้าแม่อุมา เราก้อเชียร์เยอรมันอยู่นะ แหม่.. เมื่อคืนหัวใจจะวาย พ่อมิโรสลาฟ โคลเซ่ สุดหล่อ ไม่ได้ประตูซักกะลูก โดนเจ้าเบอร์ 7 ประกบติดเป็นตังเมเลยเชียว

จาก : คริสติน่า - 26/06/2002 11:23

ทางด้านซีไอเอสาวยืนตั้งหลักมั่นมองดูทีเร็กซ์คู่ใหม่ที่ปล่อยออกมาสำหรับตนและพลับพลึงสีชมพู เจ้านี่นั่งเป็นตัวสำรองอยู่ดีๆ ก็โดนส่งออกมา ดูท่ายังไม่ได้วอร์มอัพ ดีล่ะ... จะให้วิ่งเสียให้เข็ด เอาให้ตะคริวกินไปเลย แหม่มสาวนึกในใจกัดฟันกรอด ค่อยๆ ถอยหลังช้าๆ มือลากเอาตัวสาวน้อยหัวชมพูให้ถอยมาด้วย

"พ..พี่แหม่มคริส.. ตะ..ตัวมันโตดีจังเล้ย..." เด็กสาวลูกนางไม้ยืนตะลึงตาแป๋ว แหงนคอขึ้นมองสัตว์ยักษ์ในตำนานของโลก ที่บัดนี้ค่อยย่างสามขุมเข้ามาหาคนทั้งสอง

ทันใดนั้น เจ้าทีเร็กซ์ก็คำรามก้อง จังหวะที่มันแหงนหน้าขึ้นนั่นเอง คริสติน่าก็กระชากตัวพลับพลึงถอยมาทันที

"วิ่ง!! เร็วพลับพลึง วิ่ง!!"

ทั้งสองจับมือกันวิ่งหน้าตั้งเลียบขอบสนามมา เรียกเสียงเชียร์กึกก้องจากบรรดาเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลาย ทีเร็กซ์คำรามอีกครั้งแล้วออกวิ่งตามมาทันที ก้าวเพียงสามสี่ก้าวเจ้าสัตว์ยักษ์ก็ตามทันหญิงสาวทั้งสอง คริสติน่าหยุดฉับพลันคว้าแขนทั้งสองของพลับพลึงพลิกอ้อมลำตัวกลับมาลอยเท้าเข้าปะทะเข้าที่ชายคางของทีเร็กซ์ที่กำลังก้มหัวลงมาพอดี แรงปะทะ Action = Reaction ทำเอาเจ้าทีเร็กซ์เป๋ออกนอกทางไปตะแคงล้มตึง พลับพลึงร้องว้าก
"โอ๊ย.. จะหยุดก็ไม่บอก ดูซิ รองเท้าหลุดแล้วพี่แหม่มคริส"

พลับพลึงสะบัดมือออกจากคริสติน่าเพื่อใส่รองเท้าวิเศษที่แม่ให้ไว้ก่อนจากกันให้เข้าที่ ทีเร็กซ์อีกตัวหนึ่งพุ่งเข้าชาร์จทันที คริสติน่ากระโดดรวบตัวสาวน้อยพุ่งออกไปด้านข้างหลบได้ทันหวุดหวิด ทำให้เจ้าทีเร็กซ์ปะทะพื้นสนามเข้าเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง เหล่าเทพบุตรส่งเสียงเชียร์กันลั่น

ตอนนั้นเองที่แสงโสมลงมาร่วมวงการแข่งขันขอพรด้วยอีกคน คริสติน่าแลเห็นอยู่จากขอบสนามอีกด้านหนึ่ง
"ดูสิ พลับพลึง คุณแสงลงมาแย่งขอพรกับพวกเราอีกคนแล้ว ยังงี้เราต้องรีบจัดการแล้วล่ะ"

ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะจับมือกันตั้งหลักอีกครั้ง เจ้าทีเร็กซ์ #5 ที่ถูกพลับพลึงโซ้ยเข้าที่ชายคาง กลับลุกขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้สายตามาดร้ายกว่าเก่าและพุ่งเข้าชาร์จคนทั้งสองทันที ทำให้คริสติน่ากับพลับพลึงต้องกระโดดหลบออกไปคนละทาง

"แย่แล้วสิ" คริสอุทานเบาๆ เจ้าทีเร็กซ์หันขวับมาทางเธอพอดี ทำให้ไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้วนอกจากออกวิ่ง

หญิงสาววิ่งตรงเข้ากลางสนาม หลบหลีกคีธกับแงซายที่เล่นเอาเถิดกันอยู่ ทั้งสองแตกกระจายเมื่อทีเร็กซ์ #5 พุ่งตรงเข้ามา แต่แหม.. มันไม่ยักกะวิ่งตามสองคนนั้นไป กลับไล่ตามคริสติน่ามาติดๆ แหม่มสาวเห็นท่าจะหนีไม่ทันจึงล้มตัวลงพลิกลอดใต้ท้องเจ้าทีเร็กซ์กลับมา ทำให้เจ้าสัตว์ยักษ์เสียหลักหัวทิ่มพื้นสนามอีกครั้งหนึ่ง

คริสนึกในใจ ...เอ.. วิธีนี้ได้ผลแฮะ... เธอเริ่มวิ่งอีกครั้งโดยมีเจ้าทีเร็กซ์ #5 ไล่ตามมาอีก เมื่อคะเนว่าระยะใกล้เข้ามาพอสมควร คริสล้มตัวลงกลิ้งลอดใต้ท้องทีเร็กซ์มาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีเสียงนกหวีดดัง ปรี๊ดดดด... พระอินทร์ที่วันนี้ทำหน้าที่กรรมการสนามเหาะลงมาใกล้ๆ แหม่มสาวแล้วชูกระดาษเล็กๆ สีเหลืองใบหนึ่งให้เธอ

"พุ่งล้มโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีมรรยาทนักกีฬา" พระอินทร์ว่า แล้วก็เหาะกลับขึ้นไป รอบสนามโห่ลั่น โดยเฉพาะเหล่าเทพบุตรทั้งหลายต่างไม่พอใจอย่างยิ่ง คริสอ้าปากหวอ

"อะไรกั๊น... กรรมการ นี่ ชั้นเสียหลักหกล้มเองแท้ๆ ใครบอกว่าแกล้งพุ่งล้มยะ ฯลฯ" คริสติน่าเถียงฉอดๆ ซีไอเอสาวเป็นนักกีฬาทีมชาติสหรัฐมาก่อนและไม่เคยทำผิดกติกาแม้แต่ครั้งเดียว นัยว่าเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆ น้อยๆ

"ที่แท้โรคกรรมการฟีฟ่าระบาดมาถึงที่นี่เหรอ ทอตติเสียหลักก็หาว่าพุ่งล้ม เมื่อวานนี้เนอวิลล์กระโดดหลบผู้รักษาประตู ทำให้เสียหลัก ก็หาว่าพุ่งล้มอีก แบบนี้มันขี้โกงนี่หว่า เห็นว่าเป็นฝรั่งตาน้ำข้าวแล้วจะเอาเปรียบกันได้หรือยังไง ฯลฯ ฉอดๆๆๆ..."

คริสติน่าเถียงกรรมการหน้าดำหน้าแดงเพราะสุดหล่อทั้งสองคนโดนใบเหลือง ยังความเจ็บช้ำน้ำใจแก่นักกีฬาอย่างเธอยิ่งนัก พระอินทร์ได้ฟังลำเลิกถึงชนชาติก็โกรธจนหน้าเขียวเพราะชาติก่อนเคยเป็นคนเกาหลี แต่โกรธขนาดไหนก็ดูไม่ออกเพราะว่าเขียวไปหมดทั้งตัว เหาะลงมาถึงพื้นดินใกล้ๆ คริสติน่าแล้วย่างสามขุมเข้ามา มือคว้ากระดาษสีเหลืองอีกใบหนึ่งชูใส่หน้าเธอ

"เถียงกรรมการ ไม่มีมรรยาทนักกีฬา" เก็บกระดาษสีเหลืองใบนั้นแล้วเปลี่ยนเป็นกระดาษสีแดง
"ไล่ออกจากสนาม!!"

เสียงโห่ฮาป่าลั่นไปหมดทั้งสนาม เทพบุตรต่างพากันเขวี้ยงขวดน้ำบ้าง ถุงน้ำแข็งบ้าง ที่ตอนนี้คุณชายเชษฐากับคุณหญิงดารินกำลังเปิดร้านขายหารายได้พิเศษระหว่างการแข่งขัน ลงมาเกลื่อนสนามไปหมด รพินทร์รับขวดได้ใบหนึ่งเอามาดื่มน้ำแก้กระหายหน้าตาเฉย
"อืมม์... รสชาติอย่างนี้ โอเลี้ยงฝีมือคุณหญิงแน่ๆ แค้กๆๆ..."

คริสติน่าโกรธจนหนวดกระดิก แต่พอดีไม่มีหนวดก็เลยดูไม่ออก เดินคอตกออกจากสนามไป หญิงสาวกลับขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ลงนั่งข้างๆ นายทหารปืนใหญ่ หยิบข้าวโพดคั่วมาเคี้ยวกร้วมๆ ด้วยความไม่สบอารมณ์

"ฮึ.. ไล่ออกก็ไล่ออกซีว้อย.. ใครจะไปแคร์ เชอะ.. ถึงยังไงเยอรมันก็เข้ารอบชิงแล้ว อิอิอิ.. "

หญิงสาวกลับเปลี่ยนมาเป็นหน้าระรื่น ขอกาแฟเย็นจากคุณหญิงดารินมาดื่มอึกหนึ่ง แล้วก็รีบวางไม่กล้าดื่มต่อ ไชยยันต์มองอย่างทึ่งๆ
"เอ.. อารมณ์แปรปรวนจังแฮะ"

คริสติน่าหันมายิ้มให้
"ยังไงก็ช่างเถอะ วันนี้คริสอารมณ์ดีน่ะ นี่... คู่บราซิลกับตุรกีน่ะ คุณไชยยันต์ว่าใครจะชนะ..."


จาก : คริสติน่า กรูบิล - 26/06/2002 12:53

ทุรคาเทV ตอนนี้เราได้เชียร์ทีมเดียวกันแล้วล่ะ

รอบหน้าเชียร์เยอรมันค่ะ

จาก : แม่มดพันปี - 26/06/2002 22:57


ที่กลางสนามนั่นเอง เนื่องจากคริสติน่าถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไป ตอนนี้ทางฝ่าย T-Rex จึงมีผู้เล่นในสนามมากกว่าฝ่ายชาวคณะฯ เป็น 5:6 ส่งผลให้ T-Rex หมายเลย 5 ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของคริสติน่าต้องหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่รู้จะไปวิ่งไล่ใครดี ครั้นจะไปไล่พวกที่อยู่ในสนาม ไม่ว่าจะเป็นรพินทร์ คีธ แงซาย แสงโสม หรือแม้แต่หนูน้อยพลับพลึง เค้าต่างคนต่างก็มีคู่กันหมดแล้ว มันจึงได้แต่เดินคอตกกลับไปยังเก้าอี้ผู้เล่นสำรองข้างสนาม

ทันใดนั้นเอง สายตาของเจ้า T-Rex #5 ก็เหลือบไปเห็นวัตถุทรงกลมสีมอๆ กลิ้งอยู่ริมกำแพงข้างสนาม ด้วยความสงสัย มันจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ สิ่งที่มันเห็นไม่ใช่ใครอื่น เป็นร่างของบุญคำซึ่งพยายามขดตัวให้กลมคล้ายลูกบอลมากที่สุดนั่นเอง ที่แท้เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทุกคนก็ดูเหมือนจะลืมกันไปว่า ในครั้งนี้ คีธ ไม่ได้เข้าแข่งขันในนามคอแนล คีธ แห่งกองทัพสหรัฐ แต่เข้าแข่งในนามของแก๊ง 2K ซึ่งหมายรวมถึงบุญคำกับคีธ 2 คน แต่เมื่อบุญคำเห็นท่าไม่ดี จึงใช้ท่าไม้ตาย แปลงร่างเป็นลูกบอลเพื่อเลี่ยงความสนใจของทุกคนซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี ไม่มีใครรู้ว่าในสนามยังมีบุญคำอยู่อีกคน นอกจากคีธซึ่งถึงแม้จะรู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะลำพังแต่จะวิ่งหนีเจ้า T-Rex อย่างเดียวก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปมองหาว่าบุญคำหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

เจ้า T-Rex #5 ไม่รู้เลยว่าลูกบอลที่มันเห็นอยู่ตรงหน้าเป็นบุญคำ แต่มันกลับคิดไปว่ากรรมการคงเห็นมันนั่งเหงาๆอยู่ริมสนาม เลยส่งลูกบอลลงมาให้เล่นฆ่าเวลา มันไม่รอช้ารีบเข้าไปเดาะบอลเล่นเบาๆ กะว่าถ้าอีก 5 นาทียังไม่ได้ลงสนาม มันจะย้ายสังกัดไปเล่นให้ทีมเยอรมันนัดชิงแทน ฝ่ายบุญคำก็พยายามขดตัว รักษาสภาพความเป็นลูกบอลเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เพราะรู้ดีว่าถ้าเจ้า T-Rex รู้ว่าบอลที่มันกำลังเดาะอยู่เป็นคนเมื่อไหร่ บุญคำคงไม่แคล้วต้องลงสนามวิ่งหนี T-Rex พร้อมกับเพื่อนๆ เป็นแน่ พรานเฒ่าจึงพึมพำออกมาว่า

"เอาวะ .... ยอมถูก T-Rex แตะเอาหน่อย ดีกว่าถูกกินล่ะน่า"


จาก : แม่มดพันปี - 27/06/2002 01:25

เปลี่ยนชื่อกระทู้เป็น
เพชรพระอุมาเวอร์ชั่นเวิร์ลคัพนัดทีเร็กซ์VS.ชาวคณะดีมะ อิ อิ...
ชื่อใหม่ของโรนัลโด้เค้าคือ"จิ๋มใหญ่"นะนสพ.สุดที่รักตั้งให้เข้ากับทรงผมหละ เจ๋งจริง............เลย *.*

จาก : อุมาเทV - 27/06/2002 02:48

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาลูกทีมเพิ่มให้ครบ 11 คนน่ะสิ

จาก : แม่มดพันปี - 27/06/2002 03:21

ไชยยันต์สะดุ้งนิดนึง ลืมตาปรือหันไปทางคริสติน่า
"อ้าว ขอโทษที ผมเหนื่อยก็เลยแอบงีบไปหน่อย เลยตื่นไม่ทันบอลคู่บราซิลตุรกีเลย แต่ผมว่ารอบชิงน่าจะเหมาะสมแล้วนะ"

กล่าวจบไชยยันต์ก็ควักกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดูเหตุการณ์ในสนามต่อ

จาก : ไชยยันต์ อนันตรัย - 27/06/2002 07:45

มาอยู่กันแถวนี้เอง มิน่าหาตัวไม่ค่อยเจอ ตกลงเจ้ากระทู้ตอนที่ตั้งไว้นั้นโยนทิ้งแล้วใช่หรือไม่? ข้าพเจ้าหายไป 1 เดือนกลับมาไม่เจอใครเลย ตามมาดูแถวนี้ถึงรู้ว่ามาหลบอยู่นี่กันนั่นเอง TT ใจร้ายยยย มาไม่สะกิดเรียกเลยนะ

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 27/06/2002 11:29

O_O โอ๊ะ มันคนละเรื่องกัน แหะๆ (^_^)> ขออำภัยเด้ออ้าย ข้าผู้น้อยโผล่ผิดคิว แต่ก็อ่ะนะโผล่มาแล้วเอาเค้าไปด้วยดิ นะๆ *_*

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 27/06/2002 11:48

เข้ามาเล่นเลย ตอนนี้ T-Rex #5 กำลังขาดคู่พอดี

จาก : แม่มดพันปี - 27/06/2002 20:41

ฮ่วย ข้อยเป็นคนเด้ออ้าย ดันมาให้คู่ T-Rex เอาก็เอา เย่ย ตูเป็นคนเฟ้ย แม่มดเหี่ยวพันปี แล้วตกลงไอ้ที่ไม่มีคนเล่นนั่นปล่อยมันล่มไปเลยนะ o_O น้องพลับพลึงจ๋า อิ อิ ตามมาตอแยอีกและ มิน่าเค้าไม่เจอตัวเองเลยนะ มาหลบๆอยู่แถวนี้เอง ฮี่ๆๆๆๆ(เสียงหัวเราะผู้ร้ายเต็มที่) ระวังเนื้อระวังตัวอยู่ดีๆละเดี๋ยวพี่มันตั้มมาหานะจ๊ะ อิ อิ

-_- ว้าดูดีๆแล้วไม่เห็นน้องพลับพลึงแฮะ โฮๆๆๆๆ

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 28/06/2002 01:46

-_-" ไม่รู้จะแทรกเข้ามาตรงไหนแฮะ ทุกคนกะลังมีความสุขกันอยู่ ไม่มีที่ว่างสำหรับเรา TT (เชิญวิ่งหนี T-Rex กันต่อตามสบายเหอะ อิ อิ ขอสังเกตการณ์ก่อนละกัน)

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 28/06/2002 12:05

-"- ตามันตั้มเข้ามาก็อู้เชียว ตอนนี้หนูพลับพลึงกำลังจะโดนเจ้าทีเร็กซ์ เขมือบแล้วง่ะ ไม่ช่วยกันเล้ย ... แง ๆๆ

นัดชิงเชียร์เยอรมันด้วยคนค่ะ ผมทรงใหม่โรนันโด้เนี่ยเหมือนเจ้าหนูคนนี้จริง ๆ
https://pantip.inet.co.th/cafe/supachalasai/topic/S1588931/S1588931.html#7

จาก : พลับพลึง - 28/06/2002 17:46

เจ้าทีเร็กซ์จอมโหดสะบัดหัวไปมาอย่างโกรธแค้นที่ไชยยันต์กระเด็นหลุดขึ้นอัฒจันทร์ไปได้ มันมองตามร่างของนายทหารปืนใหญ่ผู้เหยียบจมูกมันไปเมื่อกี้นี้ด้วยสายตาอาฆาต สองเท้าย่ำกระหน่ำอยู่บนพื้นดิน ท่าทีฟึดฟัดเหมือนจะร้องท้าทายพันตรีหนุ่มให้ลงมาสู้กันอีกครั้ง

ม่ายสาวเจ้าเล่ห์นอนกลิ้งร้องวี๊ดว๊ายอยู่กับพื้น แต่แล้วชั่วเสี้ยววินาทีเจ้าหล่อนก็ตั้งสติได้จึงรีบขยับตัวลุกขึ้นนั่งหลังพิงกำแพงอย่างรวดเร็ว ฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นแสงสะท้อนแปลบปลาบของโคตรเพชรเม็ดงามบนเรือนแหวน (ตัวแสบ) ที่ทำให้เจ้าหล่อนต้องตกลงมานอนกลิ้งอยู่ในสนามประลองอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน แหวนวงนั้นตกกลิ้งอยู่ติดกำแพงด้านซ้ายมือของแสงโสม

หญิงสาวมองสำรวจรอบ ๆ ตัว เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ ยังคงวิ่งหนีไดโนเสาร์กันฝุ่นตลบ มิหนำซ้ำเจ้าทีเร็กซ์จอมโหดก็ยังยืนร้องคำรามท้าท้ายไชยยันต์ที่นั่งส่องกล้องอยู่บนอัฒจันทร์อยู่เหย็ง ๆ โดยมันไม่ได้หันมาสนใจเธอแม้แต่น้อย ม่ายสาวจึงสบโอกาสเหมาะค่อย ๆ คลานอย่างเงียบกริบเข้าไปตะครุบแหวนวงนั้นมาเก็บไว้อย่างระมัดระวังในกระเป๋าเสื้อเดินป่าทันที พร้อมกับคิดใคร่ครวญอยู่ในใจว่าร้านเพชรร้านไหนเคยขายได้ราคาสูงที่สุด จะได้ไม่เสียราคาเหมือนสมบัติครั้งก่อน ๆ

ได้แหวนมาเรียบร้อย เจ้าตัวก็เตรียมหาทางหนี ขณะที่กำลังจะคลานหลบหนีเจ้าทีเร็กซ์จอมโหดนั้น แสงโสมก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมาเมื่อจู่ ๆ แผ่นหินก้อนสี่เหลี่ยมเหมือนอิฐบล๊อกขนาดใหญ่หนาและหนักที่ก่อเป็นผนังกำแพงนั้นเลื่อนพรวดออกมาตกขวางหน้าเธอไว้ ผนังกำแพงช่วงสูงประมาณหนึ่งเมตรจากพื้นดินเกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ หญิงสาวมองอย่างตกใจ แล้วก็ต้องร้องกรี๊ดออกมา เมื่อเห็นใบหน้ารุ่งริ่งราวมัมมี่พันปีโผล่พรวดออกมาจากช่องหินนั้น

"ต๊าย!!!..…ท่านมันตั้ม โผล่มาได้ไงคะเนี่ย"

มันตั้มรีบจุ๊ปากห้ามไม่ให้ม่ายสาวส่งเสียงดัง ส่วนตัวเองก็ค่อย ๆ ลอดช่องกำแพงที่ถูกทะลุขนาดพอดีตัวนั้นเข้ามาอย่างทุลักทุเลจนในที่สุดก็ลงมายืนอยู่ข้างในสนามประลอง

"เบา ๆ หน่อยแม่คุณ เจ้าอย่าทำให้พวกทีเร็กซ์แตกตื่นสิ นี่ข้าอุตส่าห์ใช้พลังวิเศษที่สะสมไว้เกือบพันปีทะลุกำแพงเข้ามาเพื่อจะมาช่วยน้องพลับพลึงของข้าคนเดียวเลยนะเนี่ย"

แสงโสมมองไปเห็นสาวน้อยพลับพลึงยังวิ่งไล่วนยังกับเล่นไล่จับอยู่ในสนามประลองกับทีเร็กซ์ # 6 อยู่ ก็พยักหน้าร้องอ๋ออย่างเข้าใจ แต่แล้วด้วยความแสบของแม่เจ้าประคุณ หัวสมองอันเจ้าเล่ห์ก็รีบคิดสะระตะทันทีก่อนจะตีสีหน้าเคร่งขรึม

"ท่านมันตั้มขา ท่านจะเข้ามาในสนามประลองนี้ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าตอนนี้ทีเร็กซ์ทุกตัวมีคู่ต่อสู้หมดแล้ว รพินทร์คู่กับ ทีเร็กซ์ #1 คุณแงซายคู่กับ # 2 คุณคีธคู่กับ #3 แสงคู่กับ #4 แทนคุณไชยยันต์ บุญคำคู่กับ #5 แทนคุณคริส หลานพลับพลึงคู่กับ #6 ตอนนี้ไม่มีทีเร็กซ์เหลืออีก ถ้าท่านเข้ามาช่วยหลานพลับพลึงจะถือว่าผิดกฎเพราะกลายเป็นสองคนรุมทีเร็กซ์ตัวเดียว เดี๋ยวสมาคมเทพบอกว่าเกมนี้โมฆะ เราจะชวดพรวิเศษกันหมดนะคะ"

"โธ่ๆๆๆๆ…งั้นจะทำยังไงดีล่ะ ข้าอยากจะมาช่วยน้องพลับพลึงของข้านี่นา"

มัมมี่พันปีร้องอุธรณ์ด้วยท่าทีร้อนระรุ่มห่วงใยสาวน้อยที่ตนเองหมายปองอยู่ แสงโสมลอบอมยิ้มด้วยมาดนางร้ายแห่งปีก่อนจะดีดนิ้วเปาะร้องบอกออกมา

จาก : แสงโสม - 28/06/2002 17:53

"ท่านมันตั้มไม่ต้องกังวลค่ะ แสงมีวิธีให้ท่านเข้ามาในสนามได้ แสงจะเสียสละให้ท่านเอง คืองี้ค่ะท่านขา ท่านเข้ามาสวมรอยเป็นแสงนะคะ แล้วก็สู้กับเจ้าทีเร็กซ์ #4 ให้ชนะ หลังจากนั้นท่านค่อยไปช่วยหลานพลับพลึง"

"เอ๊ะ!!! ข้าชักจะงง ๆ นะ ก็ไหนเจ้าว่าสองคนช่วยกันสู้ไม่ได้ไงล่ะ แล้วจะให้ข้าไปช่วยน้องพลับพลึงได้ยังไง"

มันตั้มร้องทักท้วงออกมา ม่ายสาวแสนสวยรู้ตัวว่าพลาดไปถนัดใจ ก็รีบแก้ตัวทันควัน

"โถ ท่านขา ตามกฎนี่ถ้าท่านสู้ชนะทีเร็กซ์ตัวนึงแล้วท่านจะไปช่วยใครอีกก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยู่เฉย ๆ ท่านจะโดดเข้ามาช่วยไม่ได้มันผิดกฎการแข่งขันของสมาคมเทพ มาตรา 46 ข้อ 4 บรรทัดที่ 8 วรรค 2 ท่านเข้าใจมั๊ยคะ"

แสงโสมมั่วกฎที่เพิ่งบัญญัติขึ้นมาเองเมื่อกี้สด ๆ ร้อน ๆ หน้าตาเฉย มันตั้มพยักหน้าเข้าใจอย่างงง ๆ แต่เนื่องด้วยความห่วงใยสาวน้อยพลับพลึงจึงทำให้ไม่ทันสนใจเรื่องอื่น ม่ายสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกที่แก้ตัวได้หลุดถึงแม้จะแบบน้ำขุ่น ๆ ก็เหอะ หันไปมองเจ้าทีเร็กซ์ #4 ที่ยังคงยืนจ้องหน้าร้องคำรามใส่ไชยยันต์อยู่ เห็นแล้วตนเองก็ไม่รอช้ารีบปีนขึ้นไปบนช่องที่มันตั้มทะลุเข้ามาเมื่อสักครู่นี้ทันที

"ท่านมันตั้มขา ท่านเข้ามาจากที่ไหนคะ ถ้าแสงไปตามทางนี้จะไปโผล่ที่ไหนคะท่าน"

"ไปทะลุได้แถวที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสที่บรรดาเทพทั้งหลายนั่งอยู่นั่นแหละ มีทางออกทางเดียว ไม่มีแยกไหนอีก เจ้าเดินตรงไปได้เรื่อย ๆ เลย"

"แหะ ๆ งั้นแสงไปก่อนนะคะท่าน ถ้าท่านชนะทีเร็กซ์ได้พรวิเศษ แสงขอแบ่งมั่งนะคะ อุตส่าห์เสียสละให้นะเนี่ย"

ยังไม่ทันขาดคำของม่ายสาวเจ้าเล่ห์ ทีเร็กซ์ #4 ที่ร้องคำรามจ้องหน้าท้าทายไชยยันต์อยู่จนเบื่อแล้วเพราะทำอะไรไม่ได้ก็เหลียวหน้ามาทางด้านข้าง และแล้วมันก็ได้เห็นร่างของมันตั้มเข้าพอดิบพอดี เจ้าทีเร็กซ์ที่ยังคงโกรธแค้นไชยยันต์อยู่ร้องกว๊ากซซ คำรามลั่นออกมาด้วยความโกรธเป็นสองเท่า วิ่งตุ๊บตั๊บ พร้อมกับอ้าปากเห็นเขี้ยวขาววับตรงมายังมันตั้มทันที ม่ายสาวเจ้าเล่ห์ที่นอนหลบอยู่ในช่องกำแพงทะลุนั้นคว้าสะเก็ดหินก้อนเขื่องที่ตกอยู่ในโพรงขว้างไปยังเจ้าทีเร็กซ์อย่างแรงโดนหัวเข่าของเจ้ายักษ์พอดิบพอดี มันร้องคำรามก้องขึ้นมาอีกครั้งอย่างโมโหสุดขีด วิ่งเข้ามาหาร่างของมันตั้มอย่างเอาเป็นเอาตาย……ม่ายสาวรู้ตัวว่าตนเองไปทำให้เจ้ายักษ์ไทรันนอเซารัสโมโหหนักขึ้น ก็รีบผลุบตัวหนีหายไปจากช่องนั้นอย่างรวดเร็ว

ณ ที่นั้น…คงเหลืออยู่แต่เพียงมันตั้ม…มัมมี่หนุ่มเมื่อพันปีที่แล้วผู้มีใบหน้าและร่างกายอันรุ่งริ่งยืนเชิดหน้า โต้กระแสลมและฝุ่นผงที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว รอการต่อสู้กับเจ้าทีเร็กซ์จอมโหดอยู่อย่างเยือกเย็นสมกับมีอายุกว่าพันปี…….


จาก : แสงโสม - 28/06/2002 17:59

นอกเรื่องหน่อย มีใครส่งไปรษณียบัตรทายผลบอลโลกบ้าง?

บ้านเราซื้อมาขาย ใบละ 2 บาท 2 วันขายได้ 1000 ใบ
(ไม่รู้ทำไมส่งกันเยอะแยะขนาดนี้)

-----------------------------------------------------------------

กลับมาทางด้านแงซายกับ T-Rex #2 ไม่ว่าเจ้าT-Rex จะใช้ความพยายามขนาดไหน ก็ไม่สามารถจับตัวแงซายได้เลย เจ้ากะเหรี่ยงหนุ่มอาศัยความว่องไวอย่างเหลือเชื่อ ประกอบกับเหงื่อที่ไหลออกมาจนโชกราวกับเพิ่งแปลงร่างเป็นลูกหมาไปตกน้ำมา ทำให้เนื้อตัวลื่นจนเจ้า T-Rex #2 กัดไม่ไม่ติด หลบหลีกไปได้ทุกครั้ง

"แง่งงงงง แง่งงงงงงงงงงง" (โว้ยยยยย ทำไมมันลื่นอย่างนี้วะ)
เจ้า T-Rex #2 คำรามออกมาอย่างเหลืออด

เสียงคำรามนั่นเอง ทำให้ T-Rex #5 ทำกำลังเดาะบุญคำเล่นฆ่าเวลาอยู่หันมามองอย่างขำๆ พลางนึกในใจว่า

"ไอ้ #2 นี่ไม่ไหวเลย ได้เป็นตัวจริงซะเปล่า กะเหรี่ยงคนเดียวยังจับไม่ได้ เสียสถาบันไดโนเสาร์หมด"

เพื่อไม่ให้เป็นการเสื่อมเสียสถาบันไปมากกว่านี้ T-Rex #5 จึงตะโกนเรียก T-Rex #2 แล้วโยนลูกบอล (บุญคำ) ไปให้ เจ้า T-Rex #2 เลี้ยงลูกหลบชาวคณะและเหล่า T-Rex ที่วิ่งกันฝุ่นตลบอยู่กลางสนามตรงเข้าไปหาแงซายซึ่งสไลด์ตัวเข้าสกัดแบบกึ่งลูกกึ่งT-Rex T-Rex #2 จึงสวมวิญญาณกองหน้าระดับโลก พุ่งตัวล้มลงไปนอนกุมหน้าแข้ง ร้องโอดโอยเสียงดังลั่น

"ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด"

เสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง พระอินทร์ซึ่งทำหน้าที่กรรมการลอยตัวลงมาพร้อมกับใบเหลือง แงซายเข้าไปประท้วง แต่พระอินทร์ไม่สนใจ

"ให้ T-Rex #2 ได้เตะฟรีคิกส์"

เมื่อเป็นแบบนี้แงซายจึงจำใจต้องถอยไป 10 หลาเพื่อตั้งกำแพง ซึ่งก็เข้าทางของ T-Rex #2 พอดี แทนที่จะเตะลูกโด่งข้ามกำแพง เจ้า T-Rex #2 กลับขยับขาหลอกนิดนึงแล้วเตะลูกอัดเข้าที่ตัวแงซายอย่างแรงจนลงไปกองอยู่กับพื้น ส่วนบุญคำเองก็สุดความสามารถจะขดตัวเป็นลูกบอลต่อไปได้ ทิ้งตัวลงนอนแผ่อยู่ใกล้ๆกัน
T-Rex #2 ย่างสามขุมเข้าหาแงซายพร้อมกับคำรามด้วยความสะใจ
"แง่งงงงงงงงงงงงงงงงงง"
(หนีเก่งนักใช่มั้ย ดูซิ คราวนี้จะหนีไปไหนได้อีก)



จาก : แม่มดพันปี - 29/06/2002 05:10

ทำไมเชียร์ทีมไหนมันต้องแพ้ตลอด............+.+
เศร้าจริงๆ.................T.T

จาก : อุมาเทV - 30/06/2002 21:12

ฮือๆๆ ... เยอรมันแพ้เพราะเจ้าแม่อุมาเชียร์นี่เอง แง้...

จาก : คริสติน่า กรูบิล - 01/07/2002 09:51

เย่ยยยยยยยยยยยยย ไรฟะมาถึงก็เจอเล่นงานเลย ฮึ่มมม ฝากไว้ก่อนเหอะ

**************************************************************

มันตั้มยืนหยัดอยู่ตรงหน้าของ Terex #4 ชุดของเขาพลิ้วไสวไปตามลมร่างกายที่รุ่งริ่งแกว่งไกวไปตามกระแสลมและฝุ่นผง ทันใดนั้นเอง Terex #4 พุ่งเข้าใส่ร่างกระรุ่งกระริ่งที่สูงตระหง่านเกือบสองเมตร แรงลมพุ่งเข้าปะทะร่างของมันตั้มก่อนที่ Terex#4 เข้าถึงตัวด้วยซ้ำชิ้นส่วนของมันตั้มก็หลุดกระจายไปตามแรงลม เริ่มจากแขนขา ลำตัวและหัวตามลำดับ เศษฝุ่นคละคลุ้งปลิวว่อนปกคลุมทั่วบริเวณที่ Terex#4 พุ่งเข้าชนมันตั้ม

ฝุ่นผงยังคงตลบอบอวล เงาร่างสายหนึ่งที่รูปร่างได้ส่วน จัดว่ารูปร่างสูงใหญ่แต่ก็ยังเล็กกว่าผีดิบพันปีมันตั้มอยู่มากพุ่งลอดออกมาจากกลุ่มฝุ่นผงที่คละคลุ้ง เงาร่างนั้นกลิ้งตัวไปตามพื้นสามรอบครึ่งและลุกยืนเผยเห็นใบหน้าที่เย็นชา ผิวสองสี แต่ทว่าจัดว่าหล่อเหลาเป็นอันมาก(หุ หุ) เงาร่างนั้นกลับเป็นมันตั้มนั่นเองทว่ารูปร่างเล็กลงกว่าตอนเป็นผีดิบพันปีที่เห็นอยู่อย่างมาก จากเดิมที่เห็นคิดว่าสูงราวๆ 2 เมตรเศษ ตอนนี้เหลือประมาณ 180 เซนติเมตร ใบหน้ายังคงเย็นชาเช่นเดิมแต่หมดจดมิได้รุ่งริ่งดังแต่ก่อน บรรดาเทพเทวีสาวที่ชมอยู่บนชั้นเฟิร์สคลาสต่างกรีดร้องและตกตะลึงในความหล่อ “ต๊ายยย หน้าตาหล่อเหลากว่าที่คิด น่าเสียดายที่ต้องมาเป็นเหยื่อสังเวย Terex”

ส่วนแสงโสมที่หลอกให้มันตั้มไปเผชิญหน้ากับ Terex#4 แทนรู้สึกเสียดายอยู่นิดๆ ถึงกับบ่นว่าแหมรู้งี้พาออกมาด้วยก็ดี แต่ช่างเถอะทรัพย์สมบัติสำคัญกว่า ว่าแล้วก็นำผ่าผืนเล็กออกมาขัดโคตรเพชรของไชยยันต์ที่เธอพึ่งได้มา แต่แล้ว “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” แสงโสมกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหวแบบคนเสียสติ โคตรเพชรที่เธอกำลังขัดอยู่นั้นกลับปริแตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อยมันถึงกลับเป็นของปลอม เธอก้มมองเศษแก้วคริสตัลที่แตกสลายในมือ จานั้นกรีดร้องตีอกชกหัวตัวเองราวกับคนบ้าที่เสียรู้ไชยยันต์เกือบจะต้องเป็นอาหารของ Terex เพียงเพราะแหวนปลอมวงนึง หลังจากสงบสติได้ก็ส่งสายตาอาฆาตไปทางไชยยันต์ที่กำลังกินป๊อบคอร์นอย่างเมามันส์พร้อมกับชมเกมไปด้วย

ภายในสนามบุญคำและแงซายซึ่งยังนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น ส่วนเจ้า Terex #2 ค่อยๆเยื้องย่างในจังหวะบัลเลต์หมุนตัวเป็นวงพร้อมผิวปากเข้าหาทั้งสอง พร้อมกับยิ้มเยาะให้เจ้า Terex#5 เป็นความหมายที่รู้กันว่า “หน้าโง่คนปลอมเป็นลูกบอลยังไม่รู้” Terex#5 ค้อนขวับเหมือนสาวๆ แต่แล้วก็ย่ำเท้าเข้าหาร่างบุญคำที่นอนแผ่หมดสภาพอยู่ใกล้ๆกับแงซาย

ส่วนพลับพลึงน้อยยังคงวิ่งเล่นอยู่กับเจ้า Terex#6 อย่าสบายใจโดยมีฟันอันใหญ่โตของมันโฉบเฉี่ยวผ่านร่างไปอย่างหวุดหวิด สาวน้อยกรีดร้องด้วยความตกใจวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ข้างฝ่ายมันตั้มหันไปเห็นเผลอยิ้มออกมาแล้วอดคิดไม่ได้ว่า “น้องพลับพลึงนี่อารมณ์ดีนะ วิ่งเล่นสนุกใหญ่เชียว” และแล้วมันตั้มก็หันร่างกลับไปหา Terex#4 ซึ่งกำลังสะบัดหัวสะบัดหางไล่เศษฝุ่นที่ปกคลุมตัวของมัน พร้อมแยกเขี้ยวยิงฟันเตรียมที่จะพุ่งเข้าใส่มันตั้ม แต่แล้ว Terex#4 ก็ต้องหน้าซีดแบบเนี้ย -_- พร้อมร้องเสียงถี่ๆเพื่อฟ้องกรรมการ

ที่แท้มันตั้มล่วงดาบเลเซอร์ออกมาจากกระเป๋าหลัง พร้อมตั้งท่าเตรียมพุ่งเข้าฟันใส่ยังใบหน้าของ Terex#4 “ปรี๊ดดดดดดดดดดดด” เสียงนกหวีดดังขึ้นจากพระอินทร์อีกครั้ง มันตั้มชะงักดาบเลเซอร์ที่กำลังจะฟาดฟันลงยัง Terex#4 ส่วน Terex#4 ที่ยังไม่ทันโดนดาบเลเซอร์ก็ล้มตัวลงนอนดิ้นพราดๆ สองขาหน้ากุมหน้าในท่า “rivaldo action” กลิ้งไปกลิ้งมาเพื่อจะให้พระอินทร์แจกใบแดงกับมันตั้มข้อหาผิดกติกาโดยการใช้อาวุธ พระอินทร์ไม่รอช้าควักใบแดงทันทีพร้อมกล่าว “ออกนอกสนาม!!!” มันตั้มพยายามตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เอ้ยโอดครวญต่อผู้ตัดสินว่าเขาไม่รู้มาก่อนว่าห้ามใช้อาวุธและก็ไม่มีใครตรวจค้นอาวุธเขาด้วย แต่พระอินทร์ยังคงไม่สนใจชี้มือไปยังนอกสนาม

มันตั้มคอตก หันไปทางพลับพลึงน้อยที่วิ่งหนี Terex อย่างสนุกสนาน(ในสายตาของมันตั้ม) เดินคอตกออกไปนั่งข้างๆกับแสงโสมที่พึ่งหายจากอาการเสียจริต พร้อมออกปากเชิญแสงโสมไปทานข้าวกลางวันแก้เซ็งกันสองต่อสอง

ส่วนTerex#4 ถูกขนออกไปปฐมพยาบาลที่ข้างสนามชั่วคราว................................




จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 01/07/2002 10:11

หุ หุ ลืมบอกไปที่เห็นรุ่งริ่งเป็นชุดที่ข้าพเจ้าใส่พรางตาให้ดูน่าเกรงขามสมกับเป็นผีดิบหมื่นปี ตอนนี้ถอดชุดและ อิ อิ

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 01/07/2002 13:35

ยืดอายุให้นิดนึงและกัน

**********************************************************************

ระหว่างที่ Terex#5 ย่ำเท้าเข้าหาบุญคที่นอนหงายแผ่หราอยู่นั้น ตาเฒ่าแห่งเขาอึมครึมก็ค่อยๆผงกหัวขึ้นมองเจ้าไดโนเสาร์อย่างหวาดกลัวและสิ้นหวัง ตาเฒ่าก็ตัดสินใจบางประการที่จะยืดชีวิตของตัวเขาและแงซายที่นอนหมดสภาพอยู่บริเวณใกล้เคียง

ตาเฒ่าทรงกลายขึ้นอย่างช้าๆ ทว่าคราวนี้ดวงตาของแกไม่ได้ส่อแววสิ้นหวังอีกแล้ว แต่มันเป็นแววตาที่เด็ดเดี่ยวและพร้อมที่จะเสี่ยงภัย บุญคำหันหลังกลับแล้วจัดแจงถอนผมตัวเองทันที

ในขณะเดียวกัน TereX#2,5 ต่างย่างสามขุมเข้าหาทั้งสอง(ตอนนี้ไม่หมุนตัวเป็นบัลเลต์แล้ว) ขณะที่ห่างจากร่างทั้งสองเพียง1-2เมตร ตาเฒ่าก็หันกลับมาหา Terex ทั้งสองและแล้วท่ามกลางสายตาของเหล่าทวยเทพ เทวีต่างๆ เสียงโห่ร้อง และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งก็ดังไปทั่วทั้งสนาม

"จิ๋มใหญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญ่" เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
"ไดโกโรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร่" เสียงที่สองตามมา
"ทรงตะปิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" เสียงที่เหลือพากันอุทาน

บุญคำหันมาพร้อมกับทรงผมทรงใหม่เช่นเดียวกับทรงผมของ "เหยินใหญ่" โรนัลโด เล่นเอาทั้งสนามอื้ออึงและตื่นตระหนก ตกตะลึงกันไปทั้งสนาม

รวมถึง Terex ทั้งสองตัวที่ไม่แน่ใจว่าบุญคำจะเอายังไงกับมันกันแน่ จึงจดๆจ้องๆอยู่อย่างไม่วางใจเท่าไรนัก ส่งสายตาหวาดระแวงใส่ตาเฒ่าโดยไม่กล้าเข้าใกล้เกินสองเมตร

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 01/07/2002 13:54

*ประกาศ
คิดว่ารพินทร์กับแงซายคงเสียบอลหมดตัวไปแล้วจึงมิสามารถมาปรากฎตัวในกระทู้ได้อีก กรุณาช่วยกันยำที จับแก้ผ้าไปแล้วยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยทำไงดี

จาก : อุมาเทV - 03/07/2002 00:26


เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ท่านมันตั้ม ... อยู่ ๆ ไหงมาเอาไอ้คำมาเดาะทรงผมจิ๋มจิ๊อย่างนั้นล่ะ..

แล้วไม่ได้เข้ามาเสียนานทำไมกลายเป็นกระทู้เชียร์บอลโลกไปแล้วหว่า ...

สุดท้ายนี้ขอแสดงความเสียใจกับแม่อุมาด้วยนะจ๊ะเพราะเราเชียร์เกาหลีมาโดยตลอด..ฮ่า..ฮ่า...

..มาทักทายทุกคนครับและก็ขออู้ต่อไปเพราะงานยุ่งอีรุงตุงนังเหลือเกิน...


จาก : คี๊ธแอนด์คำ..สุดหล่อ.. - 04/07/2002 00:49

จะยอมจิ๋มจิ๊รึโดนกินล่ะ หือ?

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 04/07/2002 19:02

ประกาศ
ใครที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศไปผจญภัยในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเพชรพระอุมา ขอเชิญไปรวมพลกันได้ที่กระทู้ตามันตั้ม

https://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1606684/W1606684.html

ใครที่ขวัญอ่อนโปรดรออยู่ที่นี่นะครับ หึๆๆๆ

จาก : ไชยยันต์ - 05/07/2002 09:38

สามวันแล้วยังไม่มีใครมาต่อ ย้ายไปที่ใหม่กันหมดแล้วเหรอ ?

จาก : แม่มดพันปี - 08/07/2002 20:15

อยู่ทั้งสองที่ได้มั้ย?

จาก : แม่มดพันปี - 09/07/2002 01:07

ไม่ได้ไปไหนหรอกก็เข้ามาดูอยู่เหมียนกัล แต่น้องมุขไม่รู้หายไปไหน
อีกอย่างต้องอ่านหนังสือเตรียมเรียนต่อ.......*.* แต่คนอื่นสิคงหายไปหมดแล้วมั้ง.......................

จาก : อุมาเทV - 09/07/2002 23:10

นั่นดิ สงสัยหนีกันไปหมดแล้วมั้ง T_T

จาก : แม่มดพันปี - 10/07/2002 00:48

ยังอยู่ๆ แต่รอคนมาต่อน่ะ

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 10/07/2002 11:40

ที่โน่นก็ไม่มี ที่นี่ก็ไม่มี สงสัยจะฉวยโอกาสอู้กัน(ทั้งปี) น่ะครับ

จาก : ไชยยันต์ - 10/07/2002 13:27

ทางฝ่ายมันตั้ม หลังจากถูกไล่ออกไปนั่งกินข้าวโพดคั่วอยู่ข้างสนามแล้ว ก็ไม่สนใจใครทั้งนั้น ตั้งหน้าตั้งตาจีบแสงโสมอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งขอเบอร์, ชวนไปกินข้าว, ดูหนัง ฯลฯ เพราะรู้สึกน้อยใจน้องพลับพลึงที่ไม่ใส่ใจเขาแม้แต่น้อย ขนาดลงทุนถอดรูปผีดิบออกไปแล้ว จนป่านนี้น้องพลับพลึงยังไม่หันมาพูดจาทักทายเขาเลยสักคำ อย่ากระนั้นเลย เปลี่ยนใจไปจีบแสงโสมดีกว่า

ทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนกรีดร้องก็ดังลั่นไปทั่วสนาม

"จิ๋มใหญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญ่" เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
"ไดโกโรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร่" เสียงที่สองตามมา
"ทรงตะปิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" เสียงที่เหลือพากันอุทาน

มันตั้มจึงหันกลับไปมอง แล้วเขาก็เห็นชายผู้ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในสนาม แม้แต่เหล่า T-REX ยังต้องหยุดไล่กัดชาวคณะแล้วหันไปมอง แต่เนื่องจากอยู่ไกลมากแถมในสนามยังไม่มีมอนิเตอร์จอยักษ์ติดตั้งไว้ให้ มันตั้มเลยไม่รู้ว่าชายผู้นั้นเป็นใคร ทำไมจึงเรียกความสนใจจากผู้ชมทั่วสนามได้มากมายขนาดนี้ ด้วยความอยากรู้มันตั้มจึงค่อยๆเอานิ้วเขี่ยเอวแสงโสมแล้วถามว่า

"นี่ๆ ตัวเอง คนนั้นใครน่ะ ทำไมไว้ผมเหมือนโรนัลโด้เลย?"

"อุ๊ย!!! ตาบ้า จี้มาได้ มันจั๊กจี้ ไม่รู้หรือไง" แสงโสมหันกลับมาตวาดเสียงเขียว แต่มันตั้มก็ยังไม่ย่อท้อ ถามซ้ำไปว่า

"ก็เค้าอยากรู้นี่นา ... นะตัวเอง บอกเค้าหน่อยนะ นะๆๆ"

"วุ๊ย !!! ชั้นจะไปรู้ได้ยังไง ก็มัวแต่คุยกับเธอนี่แหละ" แสงโสมตอกกลับอย่างหงุดหงิด เพราะตัวเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าชายลึกลับผมทรงตะปิ้งที่อยู่กลางสนามเป็นใคร ดังนั้นเธอจึงหันไปถามแม่มดพันปีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

"พี่แม่มด นั่นใครน่ะ ทำไมไว้ผมเหมือนโรนัลโด้เลย ?"

"โธ่ เห็นทรงผมก็น่าจะรู้ ก็โรนัลโด้ไง"

ที่แท้แม่มดพันปีเห็นว่าโต๊ะพนันชักเงียบเหงา เลยอยากเพิ่มเรตติ้งให้สูงขึ้น จากที่รู้มา ทั้งแสงโสมและมันตั้มต่างก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของโรนัลโด้ด้วยกันทั้งคู่ (เจ้าตัวไม่อยู่ ขอโมเมเอาเองก็แล้วกัน) ลองได้ยินว่าโรนัลโด้มาอยู่กลางสนามแบบนี้ ทั้งคู่ต้องไม่อยู่เฉยแน่ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอได้ยิน แสงโสมกับมันตั้มก็ร้องขึ้นพร้อมกัน

"โรนัลโด้ !!!!!! กรี๊ดดดดดดด ขอลายเซ็นต์หน่อยยยยยยย"

ทั้งคู่แข่งกันกระโจนเข้าไปกลางสนามเพื่อเข้าไปขอลายเซ็นต์ ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดากองเชียร์ เพราะไม่รู้ว่ามันสองคนจะโดดกลับเข้าไปทำไม

" 55555555555555555555555"

แม่มดพันปีหัวเราะอย่างสะใจ เสร็จแล้วก็หันไปร้องตะโกนบอกอัตราต่อรองของทั้งคู่

"เอ้า ... เร่เข้ามา มันตั้ม 5 เอา 1 แสงโสม 10 เอา 1 ใครสนใจรีบวางเงินเลย"

จาก : แม่มดพันปี - 10/07/2002 22:31

เราลง คุณแสงโสมรอด แต่ตามันตั้มเสร็จแน่ โฮะๆๆ...

จาก : คริสติน่า กรูบิล - 11/07/2002 15:37

... คริสหลบไปทางนึง ... พลับพลึงกระโดดหลบไปอีกทางรอดพ้นจากกงเล็บทีเร็กซ์ #5 (ตัวนี้ประหยัดไฟแน่ ๆเลย) ได้หวุดหวิด แต่ก็ต้องไปเจอกับเจ้าทีเร็กซ์ #6 ซึ่งอ้าปากโชว์ฟันเหล็กที่เพิ่งไปดัดมา "จ๊ากกกก ไดโนเสาร์ดัดฟัน" พลับพลึงร้องลั่น เจ้าทีเร็กซ์ #6 ถึงกับสะดุ้ง รีบหุบปากอย่างเร็ว แล้ววิ่งไล่กวดหวังจะจับสาวน้อยหัวสีชมพูฉีกเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย แต่ทักษะความสามารถต่าง ๆ ที่เคยมีของเจ้าทีเร็กซ์ #6 ซึ่งเคยฟันเหยินก็มลายหายไปกับการจัดระเบียบของฟันนั่นเอง ทำให้ต้องจับนั่งยาวเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง ครั้งนี้ไม่มีทีเร็กซ์ตัวอื่นให้เลือกจึงได้มีโอกาสลงสนามมาแข่งขันกะตัวอื่นบ้าง

... พลับพลึงวิ่งหลบหลีกซ้ายขวา กลับหลังหัน เจ้าทีเร็กซ์#6 ก็เงอะงะงุ่มง่าม หกล้มหกลุกไปหลายรอบ จับไม่ได้ซักที อย่างที่คนอื่น ๆ ดูว่าพลับพลึงวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานกับเจ้าทีเร็กซ์ดัดฟันซะมากกว่านั่นเอง จนกระทั่งพลับพลึงชักเบื่อที่จะวิ่งเล่นกับเจ้าทีเร็กซ์ จึงหันไปเจรจาเกลี้ยกล่อมกับเจ้าทีเร็กซ์#6 ให้เลิกวิ่งไล่ซะที เพราะจับได้ก็คงกินไม่อิ่ม แถมยังกินลำบาก อาจจทำให้ฟันที่ดัดไว้เสียรูปทรง เป็นไดโนเสาร์ที่ไม่หล่อ อัปลักษณ์ จนไม่มีไดโนเสาร์สาวตัวไหนมาสนใจ จนเจ้าทีเร็กซ์ดัดฟันชักจะเคลิ้มเริ่มเห็นคล้อยตาม และทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงฮือฮา ไปทั้งสนาม ...

"จิ๋มใหญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญ่" เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
"ไดโกโรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร่" เสียงที่สองตามมา
"ทรงตะปิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" เสียงที่เหลือพากันอุทาน

เจ้าทีเร็กซ์ดัดฟันหันขวับไปยังภาพกลางสนามที่มาของการฮือฮา หางฟาดมาเกือบโดนร่างพลับพลึง ทำให้สาวน้อยต้องเทคตัวกระโดดขึ้น ประสิทธิภาพชั้นดีของรองเท้าที่แม่ให้มา ทำให้การเทคตัวกระโดดครั้งนี้พ้นขอบอัฒจันทร์ฝั่งคนดูด้าน ที่ชาวคณะกำลังตั้งโต๊ะต่อรองราคากันอยู่ ไชยยันต์ซึ่งสะดุ้งตื่นเพราะเสียงฮือฮาของคนรอบสนาม คว้าตัวไว้ได้อย่างหวุดหวิด ช่วยดึงพลับพลึงขึ้นมาได้ แต่เพราะยังคงสะลึมสะลืออยู่ ... ทำให้เสียหลักร่วงไปในสนามด้วยอีกคน

===
อิอิ... ใครมาก่อนเอาตัวให้รอดละกัน ชาวคณะในสนาม 7 ลุงรพินทร์ ลุงแงซาย ลุงไชยยันต์ น้าแสงโสม ตาคำ คิ๊ธ มันตั้ม ... ทีเร็กซ์ 6

หนูพลับพลึงก็ว่าน้าแสงรอดค่ะ แต่คนอื่น .... เหอ ๆๆๆ ... ม่ายรุ

จาก : พลับพลึง - 11/07/2002 17:33

เจี๊ยกกกก เค้าแอบไปเล่นเรื่องใหม่อยู่ ดีนะโผล่มาทัน โหๆๆ นู๋พลับพลึงมาถึงก็ลงมือเลยนะ

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 11/07/2002 18:25

มันตั้มกับแสงโสมแย่งกันวิ่งเข้าหาบุญคำด้วยคิดว่าเป็นโรนัลโด “หลีกไปๆ” ทั้งสองส่งเสียงไล่ตะเพิด Terex#2,5 ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนจากเดินวนรอบบุญคำอย่างไม่แน่ใจไปเป็นหางจุกก้น หมอบราบอยู่ด้านริมสนาม

“ขะ ขอลายเซ็นต์หน่อยยยพี่เหยินใหญ่” ทั้งคู่ตะโกนขึ้นแทบจะพร้อมกัน แต่ก็ต้องผงะเมื่อเห็นชัดเจนว่าคนข้างหน้าไม่ใช่โรนัลโด แต่เป็น บุญคำ

“ตะ ตาคำ” แสงโสมอุทาน

“บุญคำ” มันตั้มส่งเสียงร้อง

และแล้วทั้งคู่ก็หันมาสบตากันใบหน้าซีดเผือด เพราะเห็นแล้วว่าตัวเองอยู่ในสนามและ เจ้า Terex#2,5 กำลังลุกขึ้นจ้องมองทั้งสองอย่างกระ***นกระหือรือ

ก่อนที่เจ้ายักษ์ใหญ่ทั้งสองจะพุ่งเข้าตะครุบ ทั้งสองคนมันตั้มก็รีบล้วงลูกบอลหนังออกมา 1 ลูก พร้อมเป่าลมเข้าลูกบอลจนได้ที่(โห ปอดใหญ่โคตร) พร้อมทั้งตะโกนเลียนแบบโฆษณาดัง “ยิงเข้า100ลูกก้อนชนะ!!!”

เจ้า Terex ทั้งสองตัวต่างพร้อมที่จะพุ่งเข้าแย่งลูกบอลทันที มันตั้มรีบเตะส่งไปให้บุญคำทันที ส่วนตัวเองเผ่นหนีไปด้านข้างโดยไม่ลืมฉุดแสงโสมไปด้วย(ผู้ร่วมชะตากรรมนี่นะ) ส่วนบุญคำพอได้ลูก ยกเท้าขวาขึ้นกวาดข้ามลูกบอล ก่อนที่จะยกเท้าซ้ายกวาดข้ามอีกครั้ง แล้วจึงล๊อคลูกด้วยเท้าขวาฉีกออกด้านข้างหลบ Terex#2,5 แล้วลากลูกตรงเข้าหาเขตประตูซึ่ง Terex#4ที่ถูกหามไปปฐมพยาบาลก่อนกำลังลุกขึ้นทำหน้าที่ผู้รักษาประตู

ทันใดนั้นเองขณะที่ตาเฒ่ากะลังเผลอ Terex#6 ก็พุ่งเข้าเสียบจากทางด้านหลังลูกบอลกระเด็นไปทางที่ คริสติน่าที่กะลังย่องอย่างเงียบกริบไปทางอัฒจรรย์ผู้ชม คริสติน่าใช้เท้าจับลูกบอลไว้อย่างงงๆ ในขณะที่ Terex ทุกนัมเบอร์วิ่งตะบึงเข้าใส่ลูกบอลและคริสติน่าจากทุกทิศทาง หุ หุ (ไม่เว้นกระทั่งเจ้าเบอร์4)


จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 11/07/2002 19:01

แคว่กกกกกกกกกกกกก เสียงฉีกกระชากดังไปทั่วสนาม หัวถูกดึงไปทาง ส่วนลำตัวถูกฉีกกระชากเป็นริ้วๆลงด้วยความอเน็จอนาถ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ปลาหมึกปิ้งข้างสนามถูกแม่มดพันปีฉีกกระชากอย่างโหดร้ายทารุณก่อนส่งเข้าปากขบเคี้ยวอย่างเมามันส์

อิ อิ โตะจายมั้ยล่ะ ^_^ ถ้าไม่รีบมาจะไม่ใช่ปลาหมึกแล้วนะจ๊ะ 5555

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 11/07/2002 19:10

ขอเปลี่ยนเป็นไก่ย่างแทนได้เปล่า ?

จาก : แม่มดพันปี - 11/07/2002 21:41

ถ้าเป็นไก่ย่าง ขอส้มตำ กะข้าวเหนียว มาแกล้มด้วยนะค้าาา ...

จาก : หนูพลับพลึง - 11/07/2002 22:33

อ้าว ยายพลับพลึง มาถึงก็ก่อกวนเลยรึ อุตส่าห์ช่วยดึงขึ้นมายังมาผลักเราหล่นลงไปอีก

ไชยยันต์หล่นลงมาในสนาม เขาหันซ้ายหันขวา แลเห็นทุกคนกำลังยืนลุ้นคริสติน่า ซึ่งกำลังครองบอลอยู่อย่างเหนียวแน่น (เตะออกข้างสนามไปซะก็หมดเรื่อง)
ทีเร็กซ์ออลสตาร์ต่างพุ่งตรงเข้าหาคริสติน่าซึ่งยืนงงเป็นไก่ตาแตก เท้าเหยียบลูกบอลอยู่

หากเขายังเฉยอยู่ อดีตซีไอเอสาวจะต้องเป็นเหยื่อสังเวยให้กับทีเร็กซ์ทั้งหลายเป็นแน่ ไชยยันต์รีบควักนกหวีดออกมาเป่ายาว

"ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!"

ผู้ชมในสนามเฮลั่น ต่างเข้าใจว่าหมดเวลาการแข่งขัน ประตูทางออกไปยังห้องพักนักกีฬาเปิดออกในทันที ไชยยันต์ฉวยโอกาสพุ่งออกทางประตูนั้น พลางโบกมือเรียกให้คริสติน่ากับแสงโสมออกมา แหม่มสาวทำท่าจะวิ่งตามมา แต่ว่าแสงโสมรีบวิ่งเข้ามาดึงแขนไว้ ชี้นาฬิกาข้อมือว่ายังเหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะหมดเวลา อย่าไปเชื่อตาไชยยันต์

พระอินทร์กรรมการรีบเหาะลงมาโบกมือว่ายังไม่หมดเวลา ให้ทุกคนเล่นกันต่อไป และให้สัญญาณเทวดาที่เปิดปิดประตูให้ปิดประตูทางออกด้วย ประตูปิดอย่างรวดเร็วทิ้งทุกคนให้อยู่ในสนาม ยกเว้นไชยยันต์ซึ่งวิ่งผลุบออกไปแล้ว

...เฮ้อ รอดตัว

จาก : ไชยยันต์ - 12/07/2002 07:53

อนิจจา ห้องที่นายทหารหนุ่มพุ่งตัวเข้าไป หาใช่ห้องพักนักกีฬาอย่างที่คาดไว้ไม่ แต่เป็นห้องเก็บตัวของเหล่า T-Rex ตัวสำรอง หมายเลข 7-20 (ก็ห้องพักน่ะนะ แต่เป็นฝั่ง T-Rex) ซึ่งกำลังนั่งล้อมวงเชียร์พรรคพวกผ่านทางมอนิเตอร์อย่างเมามัน นั่นเองเป็นเหตุผลว่า ทำไมซีไอเอสาวฝีมือฉกาจอย่างคริสจึงไม่ยอมตามเขาออกมาจากสนาม เพราะเธอจำได้ว่า ประตูนั้นเป็นทางไปห้อง T-Rex ที่เธอหลงเข้าไปพร้อมกับหนูพลับพลึงนั่นเอง อารามดีใจ ไชย์ยันต์ไม่ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด นายทหารปืนใหญ่ร้องตะโกนก้องออกมา

"โว๊ยยยยยยย รอดแล้วโว๊ยยยยยยยยย"

เสียงตะโกนทำให้เหล่าผู้เล่นสำรองหันมามองมนุษย์ตัวเล็กๆ ผู้เป็นต้นเสียงเป็นตาเดียว ด้วยความแปลกใจ

"ง่าาาาาา แง่งงงงงง " (ตานี่มันเข้ามาทำไมหว่า?)
"แง่งงงงงง " (ม่ายรู้เหมียนกัน เพ่)

เมื่อเห็นเพื่อนๆ งง ไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงกับเจ้ามนุษย์ตนนี้ดี T-Rex #7 ผู้เป็นลูกพี่ใหญ่สุดในเวลานี้จึงร้องขึ้น

"โฮกกกกกกกก ฮากกกกกกกกก"
(มันเข้ามาทำไมไม้รู้ รีบๆกินมันให้เสร็จแล้วดูบอลต่อดีกว่า)

เหล่า T-Rex สำรองพยักหน้าเห็นด้วย ถึงจะมีบางตัวบ่นพึมพำว่ามนุษย์ตัวเท่านี้ มีเนื้อไม่พอแบ่งก็ตาม ทั้งหมดจึงค่อยๆ ล้อมวง เตรียมกินไชย์ยันต์ ผู้ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราว กระโดดโลดเต้นดีใจว่าตนออกมาจากสนามได้อีกครั้งด้วยท่าต่างๆ อย่างสนุกสนาน

จาก : แม่มดพันปี - 12/07/2002 08:59

อัตราต่อรองด้านไชยยันต์ 100 เอา 1

ใครสนใจรีบวางเงินเลย

จาก : แม่มดพันปี - 12/07/2002 09:16

ในห้องพักก็ยังคงเป็นห้องพัก ไม่เกี่ยวกับสนามแข่ง พระอินทร์ตัดสินให้ชาวคณะฯได้เป็นฝ่ายเขี่ยลูก มันตั้มจึงรับอาสาเขี่ยลูกทันที มันตั้มจัดแจงเขี่ยลูกให้น้องพลับพลึงทันที (T_T)oO(น้องพลับพลึงที่รักเพื่อน้องแล้วพี่จะยอมเสียสละความเด่นดัง ให้น้องเด่นดังเพียงคนเดียว)

หลังจากมันตั้มเขี่ยลูกให้น้องพลับพลึงแล้ว ก็กีดกันชาวคณะคนอื่นไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพลับพลึงได้(ห้ามช่วยนั่นแหละ) พลับพลึงน้อยผู้มีหัวสีชมพูฟูฟ่องในขณะนี้ หัวชมพูน้อยๆของเธอได้ฟูยิ่งขึ้นในขณะที่วิ่งหนี Terex ที่ไล่ตามมาพร้อมกับครอบครองบอลไปด้วย

5555555555 อยากได้ข้าวเหนียวเดี๋ยวจะซื้อมาให้นะ แต่เป็นไก่ย่างไปก่อนละกัน

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 12/07/2002 10:18

ไชยยันต์รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่มาสัมผัสประสาท จนขนทุกเส้นในร่างกายลุกชันราวกับเม่นตัวน้อย(บรรยายแบบน่ารักแปลกๆ)เมื่อหันหลังไปมองแล้วเขาก็แทบไม่กล้าขยับเขยื้อนจะมีก็แต่มือสั่นๆที่แอบล้วงเข้าไปหยิบสินค้าแบรนด์เนม"ท่านเจ้าคุณ"ออกมาดมเพื่อไม่ให้หมดสติไปซะก่อนพร้อมภาวนาเรียกหาพ่อแก้วแม่แก้วอยู่ในใจ ความรู้สึกเปียกๆที่หว่างขาทำให้เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เตรียมอันอัน ผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาไว้ใช้ก่อนออกป่ามาพบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญเช่นนี้
"ก๊าซซซซซซซซ กุว๊ากกกกก๊ากกกกๆๆๆ"
แม้ฟังภาษาไดโนฯไม่ออก อดีตนายทหารปืนใหญ่ก็รู้สึกได้ในทันที ว่ากำลังถูกเจ้าพวกสัตว์ดึกดำบรรพ์หัวเราะ เยาะเย้ย……. ถากถาง…+ เหยียดหยันอยู่ จึงเกิดอาการฉุนแตกถอดกางเกงเดินป่าที่เปียกชุ่ม ขวางใส่ปากเจ้าตัวที่แสยะเขี้ยวหัวร่องอหงายอยู่ ทำให้เจ้าไดโนสุดอาภัพรีบวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำแทบไม่ทัน
"เฮ้ย…พวกเอ็ง ไม่เคยเป็นเด็กรึไงฟะ ผู้ใหญ่ในวันนี้ก็คือเด็กในวันโน้น ทำเปียกแค่นี้ทำเป็นคิกคัก" ไชยยันต์ยืนเท้าสะเอวว่าฉอดๆ ด้วยความที่พอจะมีฐานะอยู้บ้างทำให้กางเกงในที่ออกมาปรากฏโฉมเป็นของเคลวินไคลน์แม้มันจะไม่หรูมากนัก แต่ก็ไม่น่าอับอายเหมือนอย่างรพินทร์ มันได้สร้างความมั่นใจให้แก่เขาอย่างประหลาด….อา….กกน.ที่เขามักจะชอบดึงขอบของมันให้โผล่พ้นกางเกงเดินป่าเพื่อโชว์ออฟเหมือนหนุ่มแร็ฟโย่วอยู่เสมอ…โอว..ววมันช่างเท่ห์…..ในขณะที่เขากำลังเคลิ้มไปในโลกส่วนตัวเจ้าทีเร็กซ์ตัวหนึ่งก็คำรามลั่น
"กว๊าซซซซซซซซ……."มันตะปบขาหน้าสั้นๆลงมาที่ไชยยันต์อย่างรวดเร็วด้วยความหมั่นไส้
คว้ากกกกกก..!!เสียผ้าขาด(อีกครั้ง) นายทหารหนุ่มตาเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นกกน.สุดรักของตนขาดติดกรงเล็บคมกริบไป แถมสะโพกของเขายังมีรอยเฉี่ยวทำเอาเลือดไหลซึม เจ้าไดโนเสาร์ตัวดีคงรู้จุดอ่อนของเขา ตอนนี้ความหวาดกลัวหัวใจแทบหยุดกลับมาครอบงำอีกครั้งเมื่อความมั่นใจของเขาบินหายไปพร้อมกับกกน.ตัวเก่ง
"กุว๊ากกกก ก๊ากๆๆ……55"(นั่นหนอนรึไง……55.)
"เอิ๊กกกๆ ก๊าซซซซซซซซซ555" (ไส้เดือนสิไม่ว่า….555)
กลุ่มไดโนเสาร์หัวเราะกันชักดิ้นชักงอ พลางชี้ขาหน้าเล็กๆของพวกมันมาทางไชยยันต์ที่ยืนเปลือยท่อนล่างกระมิดกระเมี้ยนอยู่ชายหนุ่มน้ำตาไหลด้วยความแค้น หนอยอย่างให้รอดไปได้นะเอ็งจะไปเอารถถังมากยิงอัดทวารให้ตายเรียบเลยคอยดู
เจ้าตัวหนึ่งไม่สนใจ ฉวยโอกาสที่เพื่อนๆกำลังหัวเราะกันอยู่แอบย่องเข้ามาหมายจะเขมือบไชยยันต์ และเขามองไปเห็นมันพอดี ………..ทำไงดี ไม่รู้จะหนีไปทางไหน ตายละวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยลูกช้างด้วยเถิ้ดดด…….ให้พ้นจากไอ้ตัวเขี้ยวแหลมพวกนี้……ส้าธุ…แล้วจะให้ทำอะไรลูกช้างยอมทุกอย่างขอแค่อย่าให้ต้องถูกไอ้พวกนี้กินเลย เจ้าประคุณ…..

เจ้าแม่อุมาทนเฉยไม่ได้เพราะ รู้สึกร้อนอาสน์จนนั่งไม่ไหว " อูย…รำคาญจริง..คนกะลังดูเหยินใหญ่เพลินๆ ช่วยก็ได้ เอ้า…"
ไชยยันต์กำลังนอนหมอบกระแตกับพื้นอย่างหมดทางหนีในขณะที่ไดโนหนุ่มชาร์จเข้าใส่…..ชะแว๊บบ…..
เสียงเอฟเฟ็คต์ดังขึ้นฉับพลัน พร้อมๆกับที่ร่างของไชยยันต์กลายเป็นทีเร็กซ์อีกตัว เจ้าตังที่พุ่งเข้ามาใส่จึงชนถูกที่ใบหน้าของเขาแทนกลายเป็นการหอมแก้มไปซะฉิบ
" จ๊วบบบบบบ……"
มันกระพริบตาถี่ๆเพื่อมองให้ถนัด แล้วก็หน้าแดงซ่านเพราะไม่เคยเจอตัวเมียที่น่ารักขนาดนั้นมาก่อน
เสียเซ็งแซ่ดังขึ้นในหมู่ไดโนทันที(เฮ้ยๆดูนั่น ….ขาวจั๊วเลยว่ะ…. ฮึ้ยยยเจ๋ง……ข้าก่อน ๆ…..เฮ้ยหลีกไปตูก่อน…)
ไชยยันต์ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ เขารู้สึกงงเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกริยาแปลกๆจากพวกไดโนเสาร์ที่บ้างก็เริ่มเล่นเป่ายิ๊งฉุบ บ้างก็จับกลุ่มกัน โอน้อยออกและโยนหัวก้อย นี่มันอะไรกันเนี่ย….เขาคิดอย่างประหลาดใจ และแล้วก็มีเสียงห้าวทุ้มนุ่มลึกเสียงหนึ่งเข้ามากระซิบที่ริมหู " ในนี้มีแต่ยายแก่หนังเหี่ยวกับพวกหนุ่มๆกลัดมัน……ไม่ได้เจอคนสวยๆแบบน้องมานาน…เอื๊อกก..ก เป็นของพี่เถอะจ้ะคนดี……" ไชยยันต์สยิวกายเยือก นี่เขาฟังภาษาไดโนออกได้ไงเนี่ย เขาเหลือบไปมองข้างๆและพบกับนัยน์ตาปูดโปนที่ส่องประกายหวานเยิ้มอย่างประหลาด
"ขอโทษทีผิดเพศไปหน่อยแต่ไม่ต้องถูกกินก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ คิก…คิก" สุรเสียงไพเราะของพระอุมาเทวีดังขึ้นในสมองของเขา ก่อนที่ไชยยันต์จะไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงคำรามอย่างหื่นกระหายของฝูงทีเร็กซ์…..

พระอินทร์ซับเหงื่อด้วยความเบื่อหน่ายอยู่ข้างสนาม เพราะการโกงและการเล่นนอกกติกาของผู้แข่งขัน เขานึกแช่งชักหักกระดูกไชยยันต์ที่พยายามก่อความวุ่นวายเมื่อครู่ทำให้ตนเองต้องเหนื่อยอีก……. เฮ้อขอสาปให้มันโดนดีไม่ได้ผุดได้เกิดทีเถ้อะ องค์อมรินทร์ทรงคิดในใจ …..พร้อมทั้งหันมาดูพระอุมาที่นั่งหลับตาหัวเราะคิกๆอยู่ใกล้ๆ "….ฮุๆ คึๆ…สนุกจัง……"
"หลับตาดูแล้วสนุกได้ไงพะย่ะค่ะ…พระแม่เจ้า"
"อ๋อ..เปล่าๆไม่มีอะไร ดูบอลต่อดีกว่า..หึๆ ว่าแต่พระอินทร์เราชอบพ่อหนุ่มคนนั้นจังที่ตอนแรกโผล่มารุ่งริ่งๆน่ะสงสัยว่าเค้าจะเป็นคนเดียวกับที่เล่นเป็นอิมโฮเทปนักบวชตัวโกงในเดอะมัมมี่น่ะเล่นกับหนูเดอะร็อคสุดหล่อของเราด้วย เราอย่างให้เค้าได้รางวัลไป ท่านจะว่าไง"
"เอ่อแต่ว่า…..พระแม่เจ้าแบบนั้นมันจะดีหรือ……."
"น่า ช่วยทีนะ เดี๋ยวจะขึ้นเงินเดือนให้ " พระอุมากระซิบที่ข้างหูของพระอินทร์เบาๆ
"เอ้ออ……ดะได้ ตามแต่พระบัญชาพระเจ้าค่ะ"

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด..ดด …………………เสียงนกหวีดดังขึ้นยาวเหยียด
พระอินทร์ลอยละล่องลงไปในสนามยื่นใบเหลืองให้ทีเร็กซ์ตัวที่ไล่กัดมันตั้มอยู่ ทำให้มันงงเป็นไก่ตาแตก
พร้อมทั้งส่งเสียงคำรามประท้วงลั่นไปหมด พระอินทร์ควักใบแดงออกมาพร้อมทั้งขู่จะสาปให้กลายเป็นจิ้งจกทำให้มันเดินคอตกลู่ออกไปนั่งจ๋อยอยู่ข้างสนามอย่างเงียบๆ
"มันตั้มได้ลูกโทษ …………" พระอินทร์ประกาศก้อง
"เฮ้ยได้ไงชั้นกำลังจะได้ยิงแท้ๆ ไม่ยอมๆจะเอารางวัล ลำเอียงนี่ ไม่ยอม" คริสติน่าตะโกนต่อว่าพระอินทร์
พระอินทร์ชูใบเหลืองทันที " เถียงกรรมการอีกคำเดียว ออกนอกสนาม……." เป็นเหตุให้คริสต้องเงียบไป
ทุกคนกลั้นใจรอในขณะที่มันตั้มกำลังเตรียมจะเตะลูกโทษ รพินทร์เริ่มคิดว่าเขาคงเอาดีในการเป็นพระเอกไม่ได้โดยสังเกตจากการที่ไม่ได้รับบทเด่นมานาน จึงพยายามเอาดีในทางอื่นโดยไปขอชุดเชียร์หลีดเดอร์มายืนเต้นแร้งเต้นกาอยู่ใกล้ๆ จนมันตั้มเสียสมาธิ พลาดโอกาสทำประตูชัยไปอย่างน่าเสียดาย
"เฮ้ย ไอ้พรานชีเปลือยน่ารำคาญจริงๆแกนี่"
"อ้าวพูดงี้ก็สวยเซ่ ไอ้มัมมี่พันปี" รพินทร์กรากเข้าไปหมายจะต่อยมันตั้ม แต่แงซายเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ทำให้พระอินทร์ที่เตรียมควักใบแดงต้องถอนฉุนอย่างไม่สบอารมณ์
" ผู้กองเรามาร่วมมือกันสร้างชื่อในนามคู่หูชีเปลือยไม่ดีกว่าหรือ จะปล่อยให้พวกที่ไม่ใช่พระเอกแย่งบทไปตลอดหรือครับผมละไม่เอาด้วยหรอก"
"เออ จริงของเอ็ง…."รพินทร์เริ่มคิดได้




จาก : อุมาเทV - 12/07/2002 17:13

ปล.เพื่อนๆช่วยกันดูมวยปลําWWFที่ไอทีวีเอามาฉายกันด้วยน้า....
วันเสาร์4ทุ่มครึ่ง เรตติ้งจะได้แยะๆ อิๆจะได้ฉายไปนานๆ

จาก : อุมาเทV - 12/07/2002 17:17

โอว พระแม่เจ้าอุมาเทวี นี่เป็นแผนดึงตัวกระหม่อมหรืออย่างไรกันเล่า แต่เอาเถอะ กระหม่อมตกลง หุ หุ สองพรานชีเปลือย กะหนึ่งนายทหารไดโน ระวังตัวเหอะ 555555555

จาก : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - 12/07/2002 17:24

เฮ้ย โพสผิดโทษทีลืมไปว่าคริสออกนอกสนามไปแล้วเอาเป็นว่าบทที่พูดไปโอนไปให้คุณโสมละกันในฐานะที่เป็นสุภาพสตรีคนเดียวที่เหลืออยู่

จาก : อุมาเทV - 12/07/2002 17:31

ม่ายผิดนี่เจ้าแม่ หนูพลับพลึงเค้าพาคริสลงไปเล่นอีกรอบแล้ว

จาก : แม่มดพันปี - 12/07/2002 19:45

แง ๆๆ... แค่อยากกินไก่ย่างนะ มันตั้ม ไม่ได้อยากเป็นไก่ย่างวุ้ย ... วิ่งตับแล่บอีกซิเนี่ย ... ฮึ่ม ....ฝากไว้ก่อนเหอะ เด๋ว มาคิดบัญชีมั่ง!!!

จาก : พลับพลึง - 12/07/2002 23:15

ชัก Load นานแล้ว ขึ้นกระทู้ใหม่ดีมั้ย ?

จาก : แม่มดพันปี - 15/07/2002 13:47

เอ๊ะ.. นี่เราตกลงไปในสนามอีกรอบแล้วเหรอ งง.. ใครดึงเราลงไปฟะ?!?

ขึ้นกระทู้ใหม่ก็ดีนะคะ คุณแม่มด ขึ้นเลยๆ...

จาก : คริสติน่า กรูบิล - 15/07/2002 14:57

ไปขึ้นตอนใหม่ให้แล้ว เพราะที่นี่ Load นานจัด

https://board.dserver.org/j/joinwriter/00000227.html

จาก : แม่มดพันปี - 16/07/2002 08:16

พ่มเปนพ่อหนานไพร ตายไปนานแล้ว ขอมาหลอก...แฮ่ๆๆๆๆๆๆๆ


จาก : หนานเอิง - 19/07/2002 22:41

เพิ่งแวะเข้ามานั่งอ่านเพชรพระอุมาภาคอลเวงสนุกดี

จาก : ชด ประชากร - 08/09/2002 14:34

มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
ชื่อ :
Email :
ข้อความ :


This Free service hosted by D'Server
1