ความคิดเห็นที่
28
“ หยุด! เดียรัจฉานน้อยใจกล้าสามานย์ยิ่งนัก
บังอาจลบหลู่อี้ไต้เฮียบของข้าพเจ้า
ความผิดของเจ้าครั้งนี้มิอาจจะให้อภัยอีกต่อไปแล้ว
”
เสียงตวาดเกรี้ยวกราดดังมาจากไหนไม่ปรากฎ
แต่พลันพลังลมหวีดหวิวสะเทือน
เลื่อนลั่นพร้อมกันนั้นเงาร่างสายหนึ่งก็ทะยานวูบมาจากฟากฟ้าค่อยๆ
ลอยลงมา
ช้าๆ ด้วยวิชาตัวเบาขั้นเลอเลิศและกระทบพื้นชนิดที่ฝุ่นยังไม่กระจาย
และแล้ว
บุรุษฉกรรจ์มาดสง่าก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
ฮวยบ้อข้วยจ้องมองมันเขม็งนิ่ง
หน้าตาของมันผู้นั้น แม้มีรอยแผลเป็นเล็กน้อยมากหลาย
แต่กลับเปี่ยมเสน่ห์
และคมคายอย่างน่าริษยา ใบหน้าของมันแม้จะบูดบึ้งไปด้วยโทสะทว่ายังมิอาจเบียด
บัง เซ็กซ์ แอพพีล ของมันลงไปได้แม้แต่กระผีกริ้น
ฮวยบ้อข้วยตะลึงงันไปชั่วครู่
เมื่อเห็นบุรุษตรงหน้าของมันนั้นมีประพิมประพายคล้ายมันราวกับแกะดอลลี่
ที่เกิดจากการโคลนนิ่ง ความหล่อเหลาของมันนั้นมิกระไรดอก
ทว่ามาดของมัน
ต่างหากเล่า เจ้าผู้นี้แม้ซ่อนร่างอยู่ในชุดผ้าฝ้ายเก่าๆ
รองเท้าปุปะ ผมเผ้ายาวสยาย
ตรงหว่างเอวเหน็บกระสอบป่านปะๆ ไว้ห้าใบ (เก็บที่เฮียทาวันเย็บซ่อมไว้ให้ตรง
กระทู้บ้านท้ายคลองมาใช้ชั่วคราว) และขะมุกขะมอมราวกับมิได้อาบน้ำ
มาเป็นเวลาหลายวันจนหนวดเคราขึ้นเขียวครึ้ม
ขัดกับทีท่าโอ่อ่าดุจราชาของมัน
เป็นอย่างยิ่ง ฮวยบ้อข้วยประเมินคร่าวๆ ว่าในกระสอบห้าใบนั้นคงมิมีสักกี่
อีแปะ ทว่าเจ้าผู้นี้กลับมีทีท่าราวกับจะซื้อโลกได้ทั้งโลกก็ปานกัน
ในชีวิตของกงจื้อฮวยบ้อข้วยผู้มีฉายาดอกไม้ไร้ตำหนิ
ย่อมมีลักษณะนิสัยและสุข
อนามัยส่วนตัวอย่างสะอาดหอมกรุ่นไร้ตำหนิสมชื่ออย่างมิแผกเพี้ยนไปแม้แต่น้อยนิด
อย่าว่าแต่กระไรเลยแม้แต่น้ำหอมใกล้หมดอายุจนทางห้างถึงกับรีบร้อนเซล
กงจื้อฮวยฯ
มิมีวันปรายหางตาไปเหลือบแลเด็ดขาด
วันหนึ่งๆ กงจื้อฮวยฯต้องล้างหน้าด้วยอัตรา
ความถี่สามครั้ง ต่อชั่วโมงเพื่อล้างคราบไคลธุลีดินและละอองสิ่งสกปรกจะมาแปดเปื้อน
ผิวหนุ่มให้เป็นราคีหมองคล้ำ ยังมินับเวลาในการชำระล้างอวัยวะต่างๆ
ทั่วตัวจนถึงกระทั่ง
ลงแช่ในอ่างน้ำร้อนเพื่อขัดสีฉวีวรรณเป็นกิจวัตร
จนกระทั่งเอียเท้ารับใช้ในวังอิ๊ฮวยเก็ง
แอบนินทากันให้แซ่ดว่ากงจื้อหนุ่มเป็นเหตุให้แม่น้ำฮวงโหแห้งขอด
ฯลฯ ตอนเยาว์วัย
หากมีประกวดหนูน้อยอนามัยที่ไหน หากกงจื้อฮวยเข้าประกวดเป็นอันว่าถ้วยรางวงรางวัล
มีเท่าไหร่กงจื้อกวาดเรียบวุธไม่เหลือหลอ
ถึงขนาดวังอิ๊ฮวยเก็งต้องสร้างตึกใหม่เพื่อเก็บถ้วย
และชามตลอดจนรามไหเกียรติคุณของกงจื้อเป็นการพิเศษ
นี่ย่อมบอกให้ทราบถึงความ
เป็นหนุ่มอนามัยของกงจื้อฮวยบ้อข้วยอย่างแจ้งชัดเป็นยิ่งแล้ว
ด้วยเหตุดังนี้เอง กงจื้อหนุ่มบัดนี้จึง แทบจะมิอาจทนทานต่อสารรูปของเจ้าตัวประหลาด
ผู้พกกระสอบห้าใบที่โผล่พรวดแหกซีนขึ้นมาได้อีกต่อไป
มันที่สะอิดสะเอียนอย่างยิ่งกับ
ความสกปรกนั้น บัดนี้ความรู้สึกอย่างหนึ่งกลับพลุ่งพล่านภายในยิ่งกว่าแรงสะอิดสะเอียน
นั้นก็คือเพลิงไฟแห่งความริษยา ...
มันริษยาอย่างยิ่งจนเนื้อตัวแทบลุกเป็นไฟและขนคิ้ว
ขนตาแทบไหม้มอดมลายเป็นเถ้าถ่าน เมื่อได้เห็นความหล่อเหลาแบบเท่ห์
chip ของบุรุษ
ผู้มาใหม่ ขนาดมันมอมแมมสาวๆ ยังกรี๊ดสลบได้ถึงปานนี้
หากเจ้าห้ากระสอบผู้นี้ขัดสี
ฉวีวรรณและอนามัยเท่าเทียมกับมัน คงต้องหล่อระเบิดเถิดเทิงเทิ้งบ้องบ้านท้ายคลองกระจุย
นำหน้ามันไปลิบอย่างชนิดไม่เห็นฝุ่นอย่างแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งท้าวยายม่อม
“ คิดอะไรอยู่เป็นนานสองนานฟะ ข้าฯ ยืนเก๊กจนเมื่อยแล้วนะเฟ้ย
” บุรุษหนุ่มมาดมอมแมม
อดรนทนไม่ได้ที่โดนแช่กล้องไว้นานผิดสังเกตว้ากเพ้ยออกมา
ทำเอาฮวยบ้อข้วยกงจื้อ
สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มผู้นั้นจ้องตาอันดำขลับและสุกใสยิ่งกว่าประกายดาว
ทว่าคงรังสีอำมหิตและเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำก้นบ่อบนดอยอินทนนท์ในหน้าหนาวมาที่มัน
ทำให้ฮวยบ้อข้วยกงจื้อต้องสะท้านใจอย่างมิอาจข่มกลั้น
ทว่ากัดฟันตีหน้าตายส่งเสียง
เย็นชาออกไป
“ เจ้าผู้มาโปรดประกาศนาม เราฮวยบ้อข้วย (ดอกไม้ไร้ตำหนิ)
กงจื้อ มิลงมือกับบุคคล
ไร้ชื่อแซ่ หากเจ้าเป็นศิษย์สำนักที่เรายังคงเกรงใจ
มิสู้ปลดปล่อยให้เจ้าหลุดรอดเงื้อมมือ
ของเราออกไปเพื่อเห็นแก่หน้าอาจารย์ของเจ้า
มิฉะนั้นแล้ว เฮ่อ...เฮอะ ”
ฮวยบ้อข้วยจงใจละประโยคสุดท้ายไว้แล้วแค่นเสียงหัวเราะเย้ยหยัน
บุรุษมอมแมมเงยหน้าหัวร่อฮา ฮา ยาวนานจนสาสมใจ
แล้วตวาดก้อง
“ ฮา ฮา เจ้าลูกเต่าน้อยมิรู้สำนึกชั่วดี
แม้บิดาเป็นใครยังไม่รู้จัก จงล้างหูรับฟังชื่อเสียงของ
เตีย เตีย เจ้าเถิด เราผู้กล้ามีฉายาว่าห้ากระสอบ
แห่งถนนนักเขียนอันเลื่องลือ มิเพียงเช่นนั้น
เรายังเป็นเจ้าพลาย แห่งเพชรพระอุมาภาคพิเศษ
และไพรวัลย์ อนันตรัย ในภาคต่อมา
ส่วนผลงานของเราที่สาวๆ กรี๊ดจนแทบคลั่งและถึงขนาดต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา
นั้นได้แก่บทบาทของชายกลาง แห่งบ้านท้ายคลอง
และยังมีผลงานอีกนับไม่ถ้วนชิ้นที่
เปะปะอยู่ทั่วไป เจ้าไปเจี๊ยะดีหมีหัวใจเสือมาจากไหนจึงจะมาต่อกรกับบิดา
”
ฮวยบ้อข้วยพลันตกตะลึงไปอีกครั้งคราด้วยความไหวหวั่นจนหัวใจแทบกระดอนออกมา
ทางปาก อา.. ที่แท้เจ้าผู้นี้คือบุรุษบ้าห้ากระสอบที่เปะปะวุ่นวายอยู่ทั่วไปบนถนนนักเขียน
อยู่พักหนึ่งนั่นเอง ไม่ช้าไม่นานมานี้ได้ข่าวว่ามันวางกระสอบหายสาปสูญไปจากยุทธภพ
ความเป็นอยู่ของมันนั้นเป็นไปอย่างพิสดารและถึงขนาดไปมาไร้ร่องรอย
มาบัดนี้ฮวยบ้อข้วย
กงจื้อมาพบคู่มือที่แค่พบหน้าก็สมองพองโตด้วยความวิงเวียนหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม
แม้ยาหม่องตราลิงถือลูกท้อยังเอาไม่อยู่
อา...ฮวยบ้อข้วยกงจื้อกลับมาพบคู่ต่อสู้ที่ตึงมือแล้ว
ในครานี้....
พึงรู้ไว้ว่าหลักวิชาตอนบุปผาต่อหยกอันทำชื่อเสียงให้แก่วังอิ๊ฮวยเก็งนั้น
จริงแล้วมีหลักมา
จากวิชาสี่ตำลึงปัดพันชั่ง หรือเป็นการยืมพลังกระแทกพลัง
ยิ่งคู่ต่อสู้ลงมือยิ่งหนักเท่าใด
ผลสะท้อนที่มันได้รับยิ่งหนักหนาสาหัสเท่านั้น
ทว่าเจ้าบ้าห้ากระสอบผู้นี้ กลับพกพาแต่ลม
มิหนำซ้ำมันยังยืมกี่ตำลึงก็ไม่เคยใช้จนดอกเบี้ยทบต้นเป็นพันชั่ง
ด้วยเหตุนี้วิชาอิ๊ฮวยจิ๊เง็ก
อันพิสดารก็ไม่อาจจะทำอะไรมันได้
ยิ่งไปกว่านั้น ฝีปากของเจ้าบ้ากระสอบถึงกับทำอิสตรีหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บใจ
เพราะมันด่าได้
อย่างเกลี้ยงเกลา (ด่าเช็ด) จนน่าสงสัยว่ามันคงจะมีไฝหลบซ่อนอยู่แถวริมฝีปากเป็นแน่แท้
ขนาดแม่ค้าปากคลองตลาดยังต้องเปลืองเปลือกทุเรียนไปเพราะปาก(ของมัน)
เจ้าบ้าผู้นี้
ยิ่งด่ายิ่งมีแรง ยิ่งท้าทายยั่วโทสะมันยิ่งสนุกสนานคะนอง
ทั้งความหัวหมอ ทั้งตอหลดตอแหล
ไม่มีใครเกินมันอีกแล้ว อีกทั้งผิวหน้าของมันยิ่งกว่าคอนกรีตเสริมใยเหล็ก
ทั้งทนทั้งด้าน
ยิ่งกว่ากระเบื้องโอลิมปิคตราห้าห่วง แม้แต่โอฬารยังไม่กล้ารับฝาก
โอ...
บัดนี้ ดูทีท่าเซียวฮื้อห้ากระสอบจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว
เพราะฮวยบ้อข้วยกงจื้อดันคิดยาวเป็น
หน้าๆ (เปลืองแย่) มันอดรนทนมิได้ต้องแค่นเสียงดังเฮอะแล้วกล่าวขึ้น
“ ว่ากระไร เจ้าลูกเต่า จะลงมือต่อกรกับบิดาหรือไม่
บิดาจะนับหนึ่งถึงสาม หากเจ้ามิลงมือ
บิดาจะจัดการกับเจ้าแล้ว ”
“ หนึ่ง...”
เซียวฮื้อห้ากระสอบเริ่มส่งเสียงนับช้าๆ แบบเด็กอนุบาล
“ สอง...”
หัวใจของฮวยบ้อข้วยเต้นถี่เร็วเป็นจังหวะอาร์ แอน
บี แทบจะกระดอนออกมาจากปากอีกครั้งครา
กงจื้อหนุ่มรีบโคจรพลังลมปราณขึ้นมาสิบสองส่วนจนเสื้อผ้าพองลมพึ่บพั่บ
แม้ในใจจะหวาดหวั่น
ผวาสักเพียงใด บัดนี้มันต้องลองเสี่ยงดูสักคราแล้ว...
(เหอะๆ เขียนมาตั้งยืดยาว เกี่ยวกับเพชรพระอุมาตรงไหนหว่า....
...ต๊ะไว้ก่อนก็แล้วกันเนอะ)
จากคุณ : เซียวฮื้อห้ากระสอบ
- [23 เม.ย. 17:06:25]